18 ส.ค. 2022 เวลา 15:14 • อสังหาริมทรัพย์
[First Impression] นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา มากกว่าบ้านหรู แต่คือสถานที่ซึ่งวิถี เวลา และประสบการณ์ ผสานเป็นความงดงามของชีวิต เพื่อต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่
อะไรที่ทำให้บ้านราคาสูงถึง 95 ล้านบาท ขายดีจนเกือบหมดโครงการ ทั้งๆ ที่คนซื้อทั้งหมดยังไม่เคยมาสัมผัสบรรยากาศจริงที่บ้านตัวอย่างด้วยซ้ำ? นี่คือคำถามที่ผมนึกขึ้นในใจก่อนที่จะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการในครั้งนี้ โดยจากประสบการณ์ของผมหากเป็นบ้านในระดับราคานี้ ลำพังแค่องค์ประกอบของ Standard Benefits ยังไงก็ต้องมีมากกว่า Extra Benefits ของโครงการอื่นๆ ในระดับราคารองลงมาแน่นอน
ซึ่งปกติแล้วกลุ่มคนซื้อบ้านในระดับราคานี้ก็มักจะมองว่าการเป็นเจ้าของบ้านหรู ราคาแพงเหล่านี้ คือเครื่องหมายที่แสดงซึ่งอำนาจ บารมี รสนิยม และสถานะทางสังคมที่โดดเด่นเหนือใคร มอง Perceived Value หรือคุณค่าที่เกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของที่มากกว่าแค่การพักอาศัยในบ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางโอ่อ่า ดังนั้นเรื่องของความเชื่อมั่นแบรนด์ว่าจะสามารถส่งมอบองค์ประกอบของการอยู่อาศัยอันหรูหราได้สมบูรณ์แบบในทุกมิตินั้นเป็นเรื่องที่มาเป็นอันดับหนึ่งครับ
และสำหรับกลุ่มแบรนด์ภายใต้ Sansiri Luxury Collection นั้นนิยามของคำว่าหรูหราไม่ใด้เกิดมาจากการ Comparative ในเชิงฟังก์ชันการใช้งาน แต่ต้องเป็น Superlatives เหนือที่สุดในเชิง Exclusivity ที่สร้างมนต์เสน่ห์อันเย้ายวนใจ มอบประสบการณ์อันแปลกใหม่ กับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับสูงทั่วโลก จนเกิดเป็นความถวิลหาเพื่อให้ได้ครอบครอง…ไม่เช่นนั้น ตลาดบ้าน Ultra-Luxury คงแข่งกันที่เรื่องราวในเชิงตัวเลขอย่างขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาดพื้นที่ดิน จำนวนที่จอดรถและจำนวนห้องเพียงอย่างเดียว
ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รูปแบบของงานดีไซน์บ้านเดี่ยวในกลุ่ม SLC (Sansiri Luxury Collection) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่แสนสิริรู้ดีกว่าคนซื้อไม่ได้ต้องการการเปรียบเทียบ แต่ต้องการได้สิ่งที่ดีที่สุดในแบบที่หาจากที่อื่นไม่ได้เท่านั้น จึงต้องมีอัตลักษณ์ที่ค่อนข้างชัดเจนแตกต่าง แต่ตรงใจในแบบที่ไม่ต้องปรับจูนเพิ่ม ดังนั้นในทุกครั้งที่เปิดตัวโครงการใหม่ทางทีมงานของแสนสิริจึงได้เริ่มต้นจากการรับฟังความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำรีเสิร์จเก็บข้อมูลร่วมกับฝ่ายขาย
เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการในช่วงขณะนั้นมากที่สุด เราจึงเห็นการปรับแบบใหม่ และยกระดับการดีไซน์ทุกครั้ง โดยทางทีมผู้ออกแบบได้พบว่าหากเป็นบ้านเดี่ยวในระดับราคาประมาณ 50 - 100 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มลุกค้าเป้าหมายก็จะชอบงานดีไซน์ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัย ที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา
และได้ตีกรอบเอาไว้เป็น 2 โจทย์ของงานสถาปัตยกรรมที่สะท้อนผ่านเรื่องราวของเมืองใหญ่ 2 แห่ง นั่นก็คือ ลอนดอน และนิวยอร์ก โดยเมืองลอนดอนนั้นทางแสนสิริได้ประสบความสำเร็จมาแล้วจากโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ จึงเป็นที่มาของการนำเอาเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมอันงดงามเหนือกาลเวลาที่มหานครนิวยอร์ก อย่างสไตล์ Renaissance Revival มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการโดยทีมงานบริษัท Bug Studio
ซึ่งงานสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance Revival ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่อเมริกา โดยเฉพาะในนิวยอร์ก มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ต่อเนื่องต้นศตวรรษที่ 20 หรือราวๆ ปี ค.ศ. 1890 – 1930 ซึ่งมีการนำเอารูปแบบของงานสถาปัตยกรรม Italian Renaissance ในช่วงศตวรรษที่ 14 กลับมาใช้ใหม่อีกครั้งกับงานก่อสร้างประเภทอาคารสูง โดยเพิ่มวัสดุที่เป็นผลผลิตจากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมอย่างเหล็กมาเป็นองค์ประกอบในการก่อสร้างเพื่อความคงทนแข็งแรง
ซึ่งรูปแบบเฉพาะตัวของงานสถาปัตยกรรมสไตล์นี้จะประกอบไปด้วย Facade แบบสมมาตร มีบานประตู หน้าต่างแบบซุ้มโค้ง ตกแต่งเพิ่มเติมส่วนยอดด้วย รูปแกะสลัก หรืองานประติมากรรม
ซึ่งนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ได้จำลององค์ประกอบของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ รวมถึงย่านสำคัญของนิวยอร์กอย่าง Central Park และ NoHo มาไว้ในทุกอณูของโครงการ ไล่ตั้งแต่ Main Gate, Club House พร้อม Sky Bridge ที่มาพร้อมสี Red Sand Stone อันสะดุดตา ตกแต่งภายในตามสไตล์ Gilded Age Chic ให้ความหรูหราดุจ Mansion ส่วนตัวของเหล่าคหบดีในนิวยอร์กยุคต้นศตวรรษที่ 20 สระว่ายน้ำยาว 25เมตร
สวนขนาดใหญ่พร้อมทะเลสาปและ Pavilion ที่เหมือนกับการย่อส่วน Landmark สำคัญใน Central Park อย่าง Bethesda Terrace และ Bethesda Fountain ที่มาพร้อมงานประติมากรรมอันเลื่องชื่อ Angel of the Waters สูง 6.2 เมตร ในแบบที่งดงามดูอลังการยิ่งกว่าโครงการบ้านเดี่ยวใดๆ ในกรุงเทพฯ
นาราสิริเป็นโครงการบ้านเดี่ยวในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection ที่มีประวัติความนิยมอย่างยาวนานมากที่สุด โครงการตั้งอยู่บน "กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้" พื้นที่รวมอยู่กว่า 500 ไร่ พัฒนาโดยแสนสิริ และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตคุณภาพ
โครงการเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่ทำเลดีที่สุดในย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เข้าออกได้สองทางทั้งทางฝั่งถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า และรามคำแหง 68 ร่มรื่นกว่าด้วย The Greenery Line ซึ่งเป็นถนนสีเขียวทางเข้าออกหลักที่ขนาบด้วยต้นไม้ 2 ข้างทางพร้อมเสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมของกลุ่ม Expat ระดับผู้บริหารที่เป็นบุคคลากรโรงเรียนนานาชาติ รวมถึงนักลงทุนชาวจีน ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีศรีบูรพา บนถนนหลักรามคำแหง
รูปแบบโครงการเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น จำนวน 86 ยูนิต บนพื้นที่โครงการประมาณ 57 ไร่ มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบบ้าน คือ NoHo No. 4, NoHo No. 5 และ NoHo No. 6 มีพื้นที่ใช้สอย 495, 554 และ 687 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 130- 250 ตารางวา จอดรถได้ 3 - 4 คัน มอบฟังก์ชั่นสูงสุดถึง 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ พร้อม 2 ห้องแม่บ้าน มีเทคโนโลยีและความสะดวกภายในบ้านครบครัน
โดยบ้านหลังใหญ่สุด NoHo No 6. รองรับการติดตั้งลิฟท์บ้านได้ ประตูหน้าบ้านของแต่ละหลังสามารถเลือกโทนสีได้ 2 สีคือ Liberty Green และ Manhattan Blue ที่ลูกค้าสามารถเลือก Customized วัสดุบางอย่างในตัวบ้านได้ เช่น โทนสีของบันไดไม้จริง และพื้น Engineered Wood ที่ชั้นสอง พร้อมไฮไลท์ในตัวบ้านเป็นโถง Living แบบ Double Volume สูง 7.3 เมตร มีรอกสำหรับส่วนงานโคมแชนเดอร์เลียร์ที่ช่วยให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย พร้อมส่วน Multi - Purpose สไตล์ Glass House ให้คุณได้จิบชาชมวิวได้ทุกวัน
สำหรับบ้านตัวอย่างมีให้ชมทั้ง 3 แบบเลยครับ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไว้รอติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในรีวิวโอกาสหน้าครับ
โฆษณา