20 ส.ค. 2022 เวลา 06:47 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วันนี้ดูบทความบน facebook ของคุณ Pongprom Yamarat และดูข่าวดาราที่กำลังถูกดึงไปเป็นเครือข่ายแชร์ลูกโซ่...ผมเคยมียุคสมัยที่การงานเดินขึ้นไปจุดพีคที่สุด ในยุคนั้น ก็มีคนมาแนวขายตรงบ้าง ขายอสังหาบ้าง ขอแค่ผมไปร่วมงานเปิดตัว มีบัตรเชิญผมมูลค่าแพงๆ ทานอาหาร มีที่พักฟรีด้วยบางงาน...เอาสารพัดข้อมูลมาจูงใจ...แต่ผมไม่เคยไป...
ยิ่งสิบกว่าปีก่อน หมอได้รับความเชื่อถือกับสังคม มากกว่าเดี๋ยวนี้อยู่...เพราะแทบไม่มีข่าวเสียเกี่ยวกับการหลอกลวง...การเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง จะยุ่งได้...สุดท้ายถ้ามีเรื่อง จะยุ่งจริงหรือไม่ก็ตาม สถานะดาราของพวกเขา ก็จูงใจให้ผู้คนเชื่อไปแล้ว...ยิ่งใหญ่ยิ่งดังยิ่งน่าเชื่อถือยิ่งต้องระวังเป็นเหยื่อ ด้วยการส่งเสริมการขายที่หลอกลวงครับ
🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄🙄
...
ข้างล่างเป็นบทความของคุณ pongprom yamarat ครับ
...
คุยกับเพื่อนที่เป็นดาราระดับแถวหน้าเมืองไทย
มันบอกว่า
รายได้ดาราคุณภาพดียุคนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อกว่า 10 ปีก่อน
สมัยก่อนว่าดีแล้ว สมัยนี้ดีขึ้นอีก
เอาเป็นว่าดารารายได้ดี 10-20 ปีก่อน ออก BMW ซีรี่ส์ 3-5 สบายๆ
แต่เดี๋ยวนี้ เอาซัก Porsche Cayman หรือ Boxster ก็ยังไหว หรือ Cayenne ไม่ก็ 911 “มือ 2” ก็ได้
ส่วนดาราดัง หรือ ดาราเกรด 2 ที่ใช้ชีวิตแสนฟุ่มเฟือย เลื้อยไปจนถึงขับ Ferrari, Lamborghini
เอาตรงๆ รายได้ดาราดังมันไม่พอ
มึงคิดว่าดาราคนไหนจะมีรายได้แบบเจ้าสัวซีพีเหรอ?
ถ้าจะให้แยกมันมีได้ไม่กี่อย่าง
อย่างแรก ใช้เงินหมดตัว แล้วหมุนเงินผ่อนแบบไม่เหลืออะไร ดาราแนวนี้ขอภาพตัวเองสวยใน IG แต่พองานร่วงแค่ช่วงสั้นๆ ก็จะหมุนไม่ทัน ต้องเอารถมาปล่อยต่อ เครียด จะฆ่าตัวตาย เคสนี้เกิดบ่อยสุด
สอง ง่ายๆแหละ มีทรัพย์สินที่บ้านหนุนหลัง แล้วเอามาขาย คือเอาเงินพ่อแม่ กับทรัพย์สินมรดกมารวมรายได้ตัวเอง แล้วคลอดเป็นรถหรู แต่บอกสื่อว่ามาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองให้มี story หน่อย
สาม ทำบริษัทเพื่อสร้างรายได้เสริม ดารากลุ่มนี้จะมีเพื่อนในวงการธุรกิจที่มีคุณภาพดี เพื่อนดาราบางคนนี่เด็กจบจุฬา ไม่ก็ Boston คนพวกนี้ทำธุรกิจเป็น มีฐานเดิมเป็นทุน มักวิ่งเข้าธุรกิจเครือข่าย ขายตรง สุขภาพ ความสวยงาม อาหาร ซึ่งตลาดใหญ่มาก กลุ่มนี้สุจริต 100%
มาต่อด้วยอะไรที่น่าห่วงกว่า
สี่ ธุรกิจสีเทา อันนี้มีเยอะมาก ตั้งแต่ดาราเกรดบนลงล่าง มีครบ เริ่มตั้งแต่ค่าตัวกินข้าวผู้ใหญ่ ยาวถึงไปนอนกันตามเกาะ หรือต่างประเทศ ดารามีชื่อหน่อยนี่ทริปละ 3 แสน ยาวไปยันทริปละ 1 ล้านบาท, ไปบ่อนกับผู้ใหญ่ตามมาเก๊า เวกัส เขมร, เป็น nominee ธุรกิจเทาให้ผู้ใหญ่ ไปจนถึงมีหุ้น โง่หน่อยก็ใช้ชื่อตัวเอง ฉลาดหน่อยก็เอาชื่อญาติๆมา
ดังนั้นเวลาเห็นดาราโดนจับด้วยการมีหุ้นในธุรกิจสีเทามันต้องแยกนะ
อันแรก หิวเงิน จนโง่ใช้ชื่อตัวเอง
อันที่สอง อันนี้ดูดีๆ คือเป็น nominee ให้กลุ่มโจร นักธุรกิจสีเทา นักการเมือง
ห้า หนีภาษี อันนี้มีเยอะ เพราะดารามีรายได้มาเร็ว และชอบใช้เงินสร้างหน้าตาให้ตัวเอง ก็จึงมักหาทางหลบภาษี หลบได้ที ก็เท่ากับเงินงอกเป็นล้านบาทนะ
รากสำคัญปัญหาดาราไทย มันไม่ต่างจากปัญหาสังคมไทย
สังคมไทย มักไม่ดูดาราใน philosophy หรือความเก่งแบบในสังคมอเมริกา ยุโรป ที่ดารานอกจากขายการแสดงที่เก่ง ก็ต้องขายปรัชญาชีวิต เช่น ศาสนา หรือโลกร้อนให้ชัด
แต่ดาราไทย ก็เหมือนละครไทย คือขายความฉาบฉวย
มันก็เลยต้องเร่งเอาเงิน เอาของ มาอาบให้ตัวเอง
ธุรกิจสีเทามันก็เลยเข้ามาผสมในวงการนี้มากขึ้นๆ
โฆษณา