“ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู - ดอยมะม่วงสามหมื่น “ ป่าที่รอคอยมานานเกือบ 2 ปี วันนี้ไปมาแล้วค่า…
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ วันนี้จะมาเขียนเล่าประสบการณ์ในการไปเดินป่าหน้าฝนครั้งแรกของเราให้อ่านกัน
จากที่บอกไปใน Block สันหนอกวัว (ใครยังไม่อ่านไปอ่านได้นะ555) ว่าเราอยากไปน้ำตกเปรโต๊ะลอซู-ดอยมะม่วงสามหมื่นมาก แต่ไม่ได้ไปสักที จนครั้งนี้ป่าเปิดแล้ว เราก็ทำการจองแบบไม่คิดอะไรเลย นึกได้อีกทีมันตรงกับวันแม่หนิ แต่ก็นะยังไงปีนี้ชั้นต้องได้ไป (ต้องวางแผนแอบแม่ไปเดินป่า) 🥹
หลังจากนั้นเราก็ดูรีวิวเรื่อยๆ ตอนนั้นคือเห็นใครลงสตอรี่ไปเปรโต๊ะลอซู อิชั้นก็จะ Reply ไปถามเค้าตลอดว่าเป็นไงบ้างค่า มีสัญญาณมั้ยค่า (กลัวแม่โทรไปไม่ติด เดี๋ยวโป๊ะ55555) สรุปคือมีสัญญาณของค่าย AIS ไม่รอช้าเราก็ไปทำการย้ายค่ายเป็นที่เรียบร้อย และจัดเตรียมของ รอวันเดินทาง ตื่นเต้นอีกละ…
เหมือนเดิมเราเริ่มต้นการเดินจากบิ๊กซีสะพานควาย (ศูนย์รวมนักเดินป่า) ครั้งนี้เราเดินทางไปที่หมู่บ้านกุยเลอตอ อ.อุ้มผาง ต.ตาก ออกเดินทางประมาณ 3 ทุ่ม ใช้เวลาจากกรุงเทพถึงอุ้มผาง ประมาณ 11 ชั่วโมง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้เราจะพิชิตดอยสามหมื่นได้มั้ย แต่ที่รู้คือเราพิชิตโค้งไปแล้ว 1,219 โค้ง 😂 จะอ้วก จะอ้วก จะอ้วก ไม่มีอะไรนอกจากนี้แล้ว555 แต่อยากบอกว่าสองข้างทางสวยมาก เป็นวิวไร่ข้าวโพดของชาวบ้านเขียวขจีไปหมด
เวลาประมาณ 7 โมงเช้า เราเดินทางมาถึงอุ้มผาง ก็จะแวะกินข้าวก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวนั่งรถชาวบ้านต่อไปที่หมู่บ้านกุยเลอตอ อีกราว 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ลืมบอกไปเลยว่าวันก่อนเดินทางกรมอุตุฯ ประกาศว่าจะมีพายุเข้าพื้นที่ที่เราไป ใช่ค่ะ!! อิชั้นเปียกตั้งแต่ยังไม่เดิน555 เรานั่งรถไป เม้ากับกลุ่มพี่ๆ ที่มาด้วยกันไป ถ่ายรูปไป เมารถไป จนมาถึงจุดเริ่มเดิน…
เขียวสดชื่นมาก
เราเริ่มเดินกันประมาณ 10 โมงครึ่ง ระหว่างเดินฝนก็จะตกตลอดแต่ไม่หนักมาก กำลังดีเลยไม่ร้อน แต่อยากบอกว่าทางเดินโหดร้ายมาก ไม่ได้ยากนะ แต่เละเทะมาก555 สงสารรองเท้าสุดๆ ก้าวซ้ายหาย ก้าวขวาหายจมโคลนตลอด🥹 เดินไปหายสงสัยไปว่าทำไมไม่ค่อยมีรีวิวทางเดินไปแคมป์สักเท่าไหร่ ทุกคนคงไม่ว่างถ่ายเพราะยุ่งกับการดึงขาออกจากโคลนกันอยู่55555 เราเดินลุยโคลนสลับน้ำมาได้สักพัก ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ขาขวาเราจมโคลนไปถึงเข่า ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ออกดึงจนเริ่มเจ็บ จนลูกหาบต้องมาช่วยขุดขาเราออก (กราบขอบพระคุณมากค่ะ)
เราตัดสินใจถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่า โอ้ยยย!! ลื่นมาก ลื่นกว่าเดิม5555 เราเดินสลับดริฟไปเรื่อยๆ จนไปถึงทางเดินปกติ วิวสองทางเดินจะเป็นไร่ข้าวโพด นาข้าวของชาวบ้าน สวยมาก แต่ถ่ายรูปไม่ค่อยจะได้ ทั้งมือ ทั้งตัวมีแต่โคลนอย่างกับไปไถ่นามา สู้ชีวิตสุดๆ 🥲 เราใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง กับระยะทาง 5 กิโล ก็ถึงแคมป์ที่พัก ด้วยสภาพไม่เหลือที่ดี55555 + หิวมากจนกินข้าวเหนียวอะไรทอดไม่รู้แข็งๆ จนหมด (ตอนพิมพ์ Blockนี้อยู่ฟันยังโยกไม่หาย555555)
ระหว่างทิ้งกับซักอะไรง่ายกว่ากันนะ55555
นั่งเล่นที่แคมป์สักพัก ช่วยกันกางเต็นท์จนเวลาประมาณบ่าย 3 พี่ๆ ก็ชวนกันไปอาบน้ำที่น้ำตกข้างแคมป์ (ป่านี้ไม่ซักแห้งนะจ๊ะ) น้ำโครตเย็น อาบไป สั่นไปอย่างกับเจ้าเข้า555 พี่ๆ ก็เปิดซาลอนช่วยกันสระผม เอาจริงพี่ๆ โครตน่ารัก เป็นกันเองสุดๆ เหมือนสนิทกันมานานทั้งที่พึ่งรู้จักกันตอนนั่งรถมา เล่นน้ำกันสักพักใหญ่ เราก็กลับแคมป์ไปช่วยกันทำกับข้าวมื้อเย็นจนเสร็จ จนทุกคนมานั่งพร้อมหน้ากันก็เริ่มกินข้าว พูดคุยกัน กับข้าวในป่าอร่อยนะบอกก่อน 🤣
หลังจากกินกันจนอิ่ม ลำดับต่อไปก็เข้าสู่กิจกรรมนันทนาการ แนะนำตัวทำความรู้จักกัน และยังมีเครื่องดื่มรสชาติแปลกให้ชิมกันรอบวง แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคงเป็นหนังควายจี่ ไอบ้า!! อร่อยมาก ติดใจ ฟันจากที่โยกอยู่แล้วแทบหลุดแต่ก็ยังกินไม่หยุด55555 นั่งคุยกันไปจนประมาณ 4 ทุ่ม เรารู้สึกป่าหมุนเลยขอตัวไปนอน พอเข้าไปนอนเต็นท์หมุนอีก เราเลยไปทำการแสดงไว้ที่ก่อไผ่ 1 กอง ก่อนกลับมานอนและหลับฝันดี 🥴
น้ำตกข้างแคมป์
เวลาประมาณตี 5 เสียงปลุกไอโฟนดังสนั่นป่า จนสปริงตัวขึ้นมาอัตโนมัติ555 เราและพี่ๆ ก็ชวนกันไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า กินมื้อเช้า และช่วยกันห่อข้าวมื้อเที่ยงที่จะนำไปกินบนยอดสามหมื่น
มาครั้งนี้เราไม่ได้เตรียมน้ำดื่มไว้ให้พอสำหรับ 3 วันในป่า เลยต้องไปอุดหนุนร้านค้าของลูกหาบ ราคาคือ 3 ขวดร้อย คละน้ำได้นะ (รู้สึกรวยมากเพราะซื้อน้ำ 9 ขวด 300บาท555)
เราเริ่มเดินขึ้นดอยกันเวลา 6 โมงครึ่ง สภาพอากาศเช้านี้คือฝนตกเบาๆ เบาแต่ก็เปียก 🥹 ทางเดินช่วงแรกเป็นป่าที่มีต้นไผ่เยอะมากและหญ้าสูงถึงไหล่ ทางก็ชัน ชัน ชัน และชัน ไปเรื่อยๆ บวกกับฝนตกปอยๆ ทำให้ไม่ค่อยร้อน เราเดินไปหยุดไป ส่วนใหญ่จะหยุดมากกว่าเดิน55555 เดินไปได้สักพักก็เริ่มเห็นน้ำตกเปรโต๊ะลอซูในระดับสายตา ฝนก็เริ่มหยุด และมีหมอกขาวเต็มไปหมด หยุดถ่ายรูปกันไม่นานก็เดินต่อเพื่อไปให้ถึงยอดหมื่นสอง
ระหว่างทางเดินเป็นทางชันแทบจะไม่มีทางราบเลย แถมคนติดมากกกก (ต่อคิวกันเดินขึ้น) เพราะจะมีช่วงนึงที่เราต้องไต่เชือกขึ้นไป เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็มาถึงยอดหมื่นสอง เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นน้ำตกเปรโต๊ะลอซูชัดและสวยมาก (เราว่าวิวจากยอดนี้มองเห็นน้ำตกสวยที่สุดแล้ว) เราและพี่ๆ ใช้เวลาชมวิวและถ่ายรูปที่จุดนี้ค่อนข้างนาน และเราก็ได้รูปจากมุมนี้เยอะมากข้างหน้ามีแต่กล้อง ประหนึ่งว่าชั้นเป็นดารายืนอยู่หน้า Backdrop5555 จนสลับกันถ่ายครบทุกคน ก่อนจะเดินกันต่อ…
คนก็สวย วิวก็สวย 55555555
อะ!! เริ่มเดินกันต่อ จุดหมายต่อไปยอดหมื่นห้า ทางเดินที่ผ่านมารู้สึกว่าชันแล้ว ทางขึ้นหมื่นห้าชันกว่าเดิมอีกจ้า
เดินๆ หยุดๆ เพราะถ่ายรูปวิวตลอดทาง ทางเดินขึ้นยอดหมื่นห้า สวยมากเห็นวิวข้างๆ สุดลูกตาเลย มีหมอกลอยไปลอยมาตลอด ใช้เวลาเดินราว 1 ชั่วโมงก็มาถึงยอดหมื่นห้า แต่คนเยอะมากๆ หมอกลงขาวไปหมด เราเลยเดินต่อไปอีก (หนีวิวคน555) เดินผ่านมาประมาณ200 เมตร รู้สึกโล่งขึ้น คนน้อยลง เราเลยนั่งพักถ่ายรูป ชมวิว อัพสตอรี่ อยู่ตรงนี้ราวครึ่งชม. (กดชัตเตอร์กันสนั่นอะ😂)
ถ่ายจากยอดหมื่นห้า
เราเดินไป ถ่ายรูปไปจนจะถึงยอดสองหมื่น จากจุดนี้ก็มีพี่ๆ บางคนในกลุ่มเดินล่วงหน้าขึ้นยอดสามหมื่นกันไปก่อนบ้างแล้ว รู้สึกตัวอีกทีเหลือแค่เรา 3-4 คนที่ยังอยู่ และเป็นเวลาเกือบเที่ยงเลยตัดสินใจนั่งกินข้าวกันตรงนี้ และจะไม่เดินขึ้นยอดสามหมื่นแล้ว เราจะรีบลงไปที่น้ำตกกันแทน (ส่งกำลังใจไปให้พี่ๆในกลุ่ม ฝากถ่ายรูปเผื่อด้วยน้า555)
ระหว่างนั่งกินข้าวกับวิวหลักล้าน อากาศก็เริ่มเปลี่ยน แดดเริ่มมาร้อนมากๆ และเราไม่ได้ทากันแดดมาเพราะคิดว่าป่าหน้าฝนฝนต้องตก เครียดกับความคิดตัวเองมาก🥲 หน้าเราแดงจนทุกคนทักว่าเป็นน้องแครอท (แครอทสีส้มไม่ใช่หรอ?) เลยรีบกินรีบเดินลงไปที่น้ำตกเปรโต๊ะลอซูกัน
กินสี่คำอิ่ม วิวสวยเกินกินไม่ลง🥹
เริ่มเดินลงตอนเที่ยงตรง อยากบอกว่าทางตอนลงหนักหนากว่าตอนขึ้นอีก ถ้าสะดุดล้มมีนัดหมออะ (ทำดั้งใหม่🤕) เราต้องค่อยๆ นั่งก้าวขาไปช้าๆ ทีละขั้น เพราะทางชัน ลื่นและแคบ แต่วิวสวยนะ อิอิ
ระหว่างลงก็จะมีน้องหมาของลูกหาบ 3 ตัว คอยวิ่งสลับหน้าหลัง รอคิวลงดอยเหมือนคนเลย น่ารักมาก (แต่หมาที่นี่ตาเฉี่ยวหน้าดุทุกตัวเลย)
ใจเย็นๆ
2 ชั่วโมงผ่านไป เราก็มาถึงน้ำตกเปรโต๊ะลอซูกันแล้วววววว น้ำเยอะมากๆ สวยมาก
คนเข้าแถวรอคิวถ่ายรูปกับน้ำตกกันเยอะมากจนเราไม่อยากถ่ายแล้ว แต่ไหนๆ มาแล้วขอซักแชะก็แล้วกัน
ไปจ๊ะ!! ต่อแถว 555555
น้ำตกรูปหัวใจเปรโต๊ะลอซู
14.30 น. เริ่มเดินกลับแคมป์ จากน้ำตกไปแคมป์ระยะทาง 2 กม. เราใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงแคมป์ ทางเดินกลับจะเป็นทางลงซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีสลับทางราบและเนินบ้าง ตอนเดินกลับน้ำที่เราพกไปหมด และอากาศร้อน ทำให้เราเหนื่อยและหิวน้ำมาก (แนะนำให้พกน้ำไปประมาณ 2 ลิตรนะ) ในหัวตอนนั้นคืออยากกลับไปแช่น้ำตกมากๆ แล้ว เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที นิ้วโป้งเท้าสู้ชีวิตมาก🥹 จนในที่สุดเรามาถึงแคมป์ประมาณบ่าย 3 กว่า นั่งพักให้หายเหนื่อย แล้วก็ชวนกันไปเล่นน้ำตกกัน น้ำโครตเย็น เจ้าเข้าอีกแล้ว555
เล่นน้ำเสร็จก็พากันกลับแคมป์ รอกินมื้อเย็นพร้อมกันตอน 2 ทุ่ม เมนูวันนี้อร่อยเหมือนเดิม กินเสร็จเราก็นั่งสักพักก่อนจะกินยา เข้าเต็นท์ไปนอนเพราะรู้สึกจะไม่สบาย (อดทำกิจกรรมนันทนาการเลย)
อาบน้ำตก
สวัสดีเช้าวันที่ 3 เวลาประมาณ 6 โมงกว่า เราลุกไปล้างหน้าแปรงฟันที่น้ำตก และกลับมากินข้าวเช้า เก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินกลับตอน 9โมง
เอาเข้าจริงๆ เราท้อใจทางเดินกลับมาก มันเละจนไม่รู้จะเละยังไงแล้ว ด้วยฝนตกและคนเยอะ ทางลื่นมาก มากกว่าวันมาซะอีก แต่เดินไปสักพักมันเริ่มสนุกเพราะพี่ๆ แก๊งขาลาก (พี่ในกรุ๊ป) และพี่ๆ ที่เดินมาด้วยกัน เค้าอารมณ์ดี เฮฮาจนเราสนุกลืมลื่นไปด้วยเลย แถมระหว่างเดินพี่ๆ ยังมีบริการน้ำดื่มรสชาติแปลกให้กระดกแก้หนาวระหว่างเดินด้วย (วันกลับร้อนมาก ย้อนแย้งเนอะ555)
เหมือนเดิมระหว่างเดินเราก็จะแวะถ่ายรูปกันเรื่อยๆ จนทิ้งท้ายกลุ่มทุกที เดินก็ช้าแถมหยุดบ่อย😂
เอ่อ!! ใครมีสมุดอุทยานที่นี่เค้ามีให้ปั้มนะ อยู่ตรงป้ายๆ ซุ้มๆ บอกไม่ถูกแต่มาแล้วจะเห็น
เดินจนประมาณ 11 โมงกว่าเราก็มาถึงจุดจอดรถ ร้อนมาก แต่โชคดีที่เค้ามีไอติมมาขายให้กินแก้ร้อนด้วย
นั่งกินไอติมรอขึ้นกระเป๋าและนั่งรถกลับอุ้มผางอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง
ระหว่างทางเดินกลับ
ดื่มน้ำรสชาติแปลก
มาถึงอุ้มผาง (จำชื่อบ้านไม่ได้) เรารีบอาบน้ำเพราะร้อนและแสบผิวมากๆ จนต้องโบกแป้งแบบนี้ 🤣
ทุกคนกินข้าวเที่ยงกัน เตรียมตัวนั่งรถกลับกรุงเทพอีก 11 ชั่วโมง
เอาเข้าจริง 3 วันไวมาก ยังไม่อยากกลับเลยยังสนุกอยู่เลย พี่ๆ ทุกคนน่ารัก กันเองสุดๆ เหมือนพวกเรารู้จักกันมานาน ทริปนี้คงเป็นอีกทริปที่จะจำไม่ลืมเลย 🥰
หวังว่าจะได้เจอกันอีกที่ป่าไหนสักที่นะคะ ^^
ปล.ที่นี่มีน้องแมวน่ารักด้วยนะ งับมือเราไปนึงที
5555555555555555
เอิ่ม……….
เราเล่าจบแล้วค่ะทุกคน งงมั้ย? หวังว่าทุกคนจะไม่งงนะ พยายามเรียบเรียงให้เข้าใจที่สุดแล้ว อาจจะเพราะเรารีบเขียนด้วย ก่อนจะไม่มีเวลาว่าง
หวังว่าทุกคนจะชอบและสนุกไปกับเรานะคะ
ลาไปก่อนนนนนน ด้วยภาพเล่านี้ 🥰
:3
สภาพ
จากยอดสามหมื่น
ปล.2 แนบภาพปลากรอบที่พี่ๆ เค้าถ่ายมาค่ะ
บ้ายบ่าย :3
***เพิ่มเติม***
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้
ด้วยเราไปคนเดียว เลยจองทริปของเพจ ส่องรูดูวิว แบบ 3 วัน 2 คืน ราคา 3,900 บาท (เดินทางค่ำวันพฤหัสบดี กลับถึงกทม. ช่วงตี1 ของวันจันทร์) ราคารวมทุกอย่างตั้งแต่ไปยันกลับ (นอกจากค่าอาหาร 2 มื้อระหว่างเดินทางไป - กลับ)
เราไม่ได้เอาเต็นท์ไป ตอนแรกจะนอนกองกลาง แต่พอดีพี่ในกลุ่มมีเต็นท์ใหญ่เลยชวนเราไปนอนด้วย (ขอบคุณค้าบ😬)
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
