แชร์วิธีลงทุน! จากนักศึกษาสู่ราชาอสังหาแสนล้าน Step By Step
ตัวอย่างของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ โดยเริ่มต้นลงทุนอสังหาตั้งแต่ชีวิตในมหาวิทยาลัย และพอเรียนจบก็มีเงินเป็นแสนดอลล่าร์ และตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีระดับท็อปของโลก นั่นคือ Sam Zell
จุดเริ่มต้นของ Sam Zell เริ่มมาจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ในรัฐมิชิแกน ซึ่งระหว่างเรียน ก็มีนักพัฒนาอสังหามาสร้างหอพักอยู่ข้างๆมหาวิทยาลัย และ Sam ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยดูในเรื่องของการตลาดในโครงการอสังหานี้
และด้วยความที่ Sam เป็นนักศึกษาเหมือนกัน จึงมีความเข้าใจเทสของนักศึกษา และ
ได้มีการตกแต่งห้องในเป็นสไตล์วัยรุ่น โมเดิร์น เป็นจุดสนใจของนักศึกษาในระแวกนั้น ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนจากโครงการเล็กๆ ได้มีการขยายไปเป็นโครงการใหญ่ขึ้น และ Sam ยังคงช่วยหาผู้เช่า จนได้รับการไว้วางใจให้มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการด้านการดูแลอสังหา และการหาผู้เช่า
แต่ Sam ก็คิดว่า พรสวรรค์ที่ตัวเองมี น่าจะพาตัวเองไปได้ไกลกว่านี้ และอาจทำให้ตัวเองรวยได้มากกว่านี้ จึงตัดสินใจซื้ออสังหาเป็นของตัวเอง
ข้อดีตรงนี้ก็คือ Sam ได้มีโอกาสศึกษาตลาด และลงมือทำทุกอย่าง ลงมือหาลูกค้าด้วยตัวเอง จนเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ด้วยการเข้าไปช่วยคนอื่นก่อน เมื่อมั่นใจในฝีมือของตนแล้ว จึงค่อยเริ่มซื้ออสังหาเป็นของตัวเอง ทำให้ความเสี่ยงที่จะล้ม หรือพลาด ลดลงไปอย่างมหาศาล
ดังนั้น การเริ่มต้นจากการเป็นนายหน้า จะทำให้ได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. ได้รับความรู้
2. มีความเสี่ยงต่ำ
3. มีความเข้าใจตลาด
4. เข้าใจทำเล ถ้าหากมีอสังหาที่ดี และราคาถูกหลุดมือมา ทำให้สามารถวิเคราะห์ และเข้าไปซื้อได้ทันที
เมื่อ Sam เรียนกฎหมายอยู่ปี 2 เขามีอพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเองมากกว่า 3 ที่ และเขาเรียนจบในปี 1966 ในวัย 23 ปี ทำให้เขามีเงินเก็บมากถึง 2.5 เเสนเหรียญในธนาคาร และมีรายได้ต่อปีราวๆ 1 ล้านเหรียญ
และเมื่อเขาเรียนจบ พอไปสมัครงานด้านกฎหมาย ก็ไม่มีคนรับเขาเข้าทำงาน เพราะกลัวว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ คงจะทำงานประจำได้ไม่นาน เขาจึงมุ่งมั่นทำอสังหาเต็มตัว
โดยการใช้ทักษะเฉพาะตัวแบบเดิมในการเลือกซื้ออสังหาอย่างละเมียด คิดอย่างรอบคอบ โดยจะคิดถึง return ด้วยว่า ถ้าปล่อยเช่าจะได้รับ return อย่างมากที่สุดกี่% และถ้าอย่างแย่ที่สุดจะได้รับกี่% และจะรับได้ไหม cash flow จะยังไหวไหม เป็นต้น
ต่อมาในปี 1971 Sam กลายเป็นเศรษฐีดาวรุ่งเเห่งปี ก้าวกระโดดจากการซื้ออพาร์ตเมนต์ธรรมดา มาเริ่มซื้ออพาร์ตเมนต์ที่ชื่อว่า Broadway plaza ใน Los Angeles ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลล่าร์ในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง
อย่างที่หลายคนทราบว่า ช่วงปี 1971 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้อสังหาต่างๆราคาค่อนข้างดีดตัวขึ้นสูง Sam จึงเปลี่ยนจากการซื้ออพาร์ตเมนต์นอกเมือง มาซื้อบริเวณใจกลางเมืองเพื่อให้ราคาเติบโตเร็วขึ้น และจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังการซื้อสูงๆ เพื่อเป็นการลดปัญหาการดูแลทางอ้อมด้วย
และเมื่อถึงช่วงอสังหาอิ่มตัว Sam ก็คิดหยุดซื้ออสังหา อีกทั้งยังปล่อยขายไปบางส่วนในช่วง over supply ทำให้หลายคนมองว่า นอกจาก Sam จะซื้ออสังหาในราคาที่ดี ยังรู้จักการปล่อยขายในช่วงเวลา และราคาที่เหมาะสมเป็นด้วย
และในปี 1980 เมื่อเศรษฐกิจกลับมาปกติ Sam กลับมาช้อนซื้ออสังหาอีกครั้ง รวมไปถึงธุรกิจรถรางด้วย นั่นคือ iTel.Co. โดยเริ่มซื้อหุ้นที่ 5% ก่อน จากนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 22% และได้เป็น CEO ในที่สุด
และสิ่งแรกที่เขาทำคือ การ cut cost ที่ไม่จำเป็น กับสินค้าที่ performance ต่ำ ทำให้ cost saving มากถึง 50 ล้านดอลลาร์ และต่อมาเกิดฟองสบู่แตก ทำให้ผู้เล่นในธุรกิจนี้หายไปจำนวนมาก Sam จึงสามารถทำกำไรได้มหาศาล อีกทั้งยังช้อนซื้อธุรกิจที่ล้มตายไปในราคาถูกได้ด้วย
แนวคิดของ Sam ยังคงเป็นเหมือนกับการลงทุนอสังหา คือ ลดต้นทุนให้มากที่สุด สร้าง cash flow และทำกำไรให้มากที่สุด จากนั้นเข้าช้อนซื้อ asset ในราคาถูก
จากนั้นได้ขยายธุรกิจไปยัง ANIXTER ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับเคเบิลและการเดินสายไฟ ในปี 1987 จาก cash flow ที่มาจากรายได้ของ iTel. Co. เรียกได้ว่าเป็นการใช้เงินต่อเงินเลยทีเดียว
ปี 1992 ANIXTER ทำรายได้ได้ถึง 1 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี ทำให้ Sam ตัดสินใจขายหุ้นบริษัทรถรางทิ้งไป จนต่อมา ANIXTER ก็ยังคงทำรายได้ได้มหาศาล
ต่อมา Sam ก็มีการซื้ออสังหาเรื่อยๆ และนำเข้ากองทุน REIT ซึ่งเป็นกองทุนเกี่ยวกับอสังหามูลค่ากว่าหมื่นล้านดอลล่าร์
จากนั้นไม่นาน บริษัท Blackstone ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ติดท็อปโลก ก็ได้เข้าซื้อกอง REIT ของ Sam โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40$/แชร์ แต่ Sam ยังไม่ขาย จนมีการต่อรองเรื่อยๆ จนในที่สุด Sam ตัดสินใจขายในราคา 55.25$/แชร์ ซึ่งนั่นสร้างรายได้ให้กับ Sam มหาศาลกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์
จะได้เห็นบทเรียนของ Sam ตรงที่แรกเริ่มใช้เงินลงทุนจากอสังหาอย่างเดียว และเริ่มใช้พลังงาน ใช้คู่มือด้านการเงินจนครบถ้วน เพื่อจะกระจาย leverage ต่อไปได้เรื่อยๆ ทำให้ขายต่อไปให้กับผู้ซื้อที่มี power มากขึ้นในที่สุด
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/y72c_cbR0Jc
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
