21 ส.ค. 2022 เวลา 05:11 • การเมือง
[ เลิกเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ลดค่าไฟฟ้าได้ 1 บาท! ]
ผมได้อภิปรายเสนอให้ตัดลดงบประมาณของกระทรวงพลังงาน เหตุผลง่ายๆครับเพราะถ้ากระทรวงพลังงานต้องการที่จะให้ค่าไฟฟ้าถูกลง ทั้งผมและกระทรวงพลังงานต่างรู้กันดีครับว่า เพียงแค่เลิกเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงาน
ทุกครั้งที่นายกฯ อธิบายว่าค่าไฟต้องแพงขึ้น มาจากที่เราต้องนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศที่มีราคาแพง แต่เหตุผลที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น
ก๊าซอ่าวไทยที่ราคาถูก โดนอุตสาหกรรมแย่งใช้ ราคาไฟแพงขึ้น 1.4 บาท
เหตุผลเพราะทุกวันนี้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่ราคาถูก โดนอุตสาหกรรมแย่งเอาไปใช้ก่อนประชาชน ถ้าไปดูก๊าซในอ่าวไทยวันนี้เราผลิตอยู่ประมาณ 2,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือ 65% ของการจัดหาก๊าซทั้งระบบ ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าใช้ทั้งประเทศด้วยซ้ำ
เพียงแต่ว่าเป็นนโยบายรัฐนี่แหละ ที่กำหนดให้อุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุตสาหกรรมที่นำก๊าซไปเผาเป็นเชื้อเพลิง หรือ ปิโตรเคมีไปทำเป็นพลาสติก แย่งเอาก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกไปใช้ก่อน ทำให้การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยต้องไปใช้ก๊าซนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง และกลายเป็นว่าต้นทุน/หน่วยของการผลิตไฟฟ้า เพิ่มขึ้นมาเป็น 3.3 บาท/หน่วย
แต่ถ้านโยบายรัฐที่ควรจะเป็นกำหนดว่า ในเมื่อก๊าซธรรมชาติเป็นทรัพยากรของคนทั้งประเทศซึ่งแน่นอนควรจะให้คนทั้งประเทศได้ใช้พลังงานจากก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกก่อนอุตสาหกรรม ถ้าเราคิดแบบนี้ราคาไฟฟ้าจะลดลงมาได้เหลือเพียง 1.9 บาท/หน่วยครับ นี่คือลดไปเกือบ 1.4 บาท/หน่วย เพียงแค่เปลี่ยนนโยบายรัฐ มองว่าก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเป็นทรัพยากรของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ ของกลุ่มทุนพลังงาน
เลื่อนสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 5 เขื่อนลาว ยุติค่าไฟแพง
และจากที่ผมเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วว่าที่เราต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงเพราะว่าเรามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ ที่ตอนนี้อยู่ที่ 54% ซึ่งมันมากขนาดไหน ก็มากขนาดที่ว่า ครึ่งนึงของโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ ไม่ต้องเดินเครื่อง แต่ประชาชนยังต้องจ่ายค่าไฟให้กลุ่มทุนพลังงาน เจ้าสัวไทย ทุกเดือนเดือนละ 2,200 ล้านบาท เพียงเพราะนโยบายรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน อนุญาตให้มีโรงไฟฟ้ามากเกินความต้องการ
แต่รัฐบาลนี้ก็ยังยืนยันเดินหน้าที่จะอนุมัติให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าเขื่อนที่ สปป.ลาว เพิ่มอีก 3,876 MW ทั้งๆที่ไม่จำเป็น เพราะว่าอย่างที่ผมย้ำไปว่าประเทศไทยมีกำลังผลิตมากเกินความต้องการ แล้วทุกโรงไฟฟ้าที่เราอนุมัติไปก็เป็นประชาชนนี่แหละครับที่เป็นคนจ่าย ต่อให้โรงไฟฟ้าไม่ต้องเดินเครื่องเลยก็ตาม เพราะเมื่ออนุญาตทำสัญญาซ์้อขายไฟฟ้ากับเอกชนไปแล้ว ประชาชนก็ต้องรับภาระไปอีก 25 - 30 ปี
และถ้ายึดตามหลักที่ว่าก๊าซในอ่าวไทยที่ราคาถูกต้องนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับประชาชนก่อน สุดท้ายแล้วต้นทุนไฟฟ้าในประเทศจะเหลือแค่ 1.9 บาท/หน่วย ซึ่งจะถูกกว่าโรงไฟฟ้าที่เขื่อนลาวที่จะรับซื้อที่ 2.9 บาท/หน่วยด้วยซ้ำ ดังนั้นการอนุมัติให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าเขื่อนที่ลาว จะยิ่งเพิ่มภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชนให้แพงขึ้น ซ้ำเติมให้ค่าไฟฟ้าที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์อยู่แล้ว แพงยิ่งขึ้นไปอีก
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ ค่าไฟฟ้าในประเทศไทยที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย กับ ความมั่งคั่งที่มากที่สุดของกลุ่มทุนพลังงานในประวัติศาสตร์ชาติไทยเช่นกัน จากภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่มีนโยบายเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนแบบนี้
เคยมีคำพูดคลาสิกนึงที่สะท้อนภาพความบังเอิญนี้ได้ดีที่สุดที่ว่า “เบื้องหลังความรวยอันลึกล้ำ คือ อาชญากรรมที่ยิ่งใหญ่” Behind the great fortune lies a great crime - Honore de Balzac, French Novelist
โฆษณา