23 ส.ค. 2022 เวลา 02:38 • หนังสือ
มีโอกาสคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ แนะนำเราอยู่บ่อยครั้งว่าก่อนจะซื้อเล่มไหน ข้อแรกเราควรมีเป้าหมายก่อน ว่าเรา ‘อยากจะรู้อะไร’ เพราะถ้าไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดการอ่านคงเป็นไปอย่างเลื่อนลอย และสองสิ่งที่อ่านไปต้องนำไปใช้ได้จริง
ต่อให้เป็นหนังสือดังแค่ไหนถ้านำไปใช้ไม่ได้การอ่านก็ไร้ประโยชน์
ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อแรก แต่กลับไม่เห็นด้วยกับข้อสองนัก เพราะเราจะตอบคำถามกับคนที่อ่านนิยาย การ์ตูนหรือหนังสือวิชาการที่ห่างไกลจากชีวิตประจำวันมากๆ เหล่านี้อย่างไร ?
เพราะหลายคนต้องการแค่อ่านเพื่อความบันเทิง ความรู้หรืออรรถรสเท่านั้น
อันที่จริง การอ่านมีวัตถุประสงค์หลายแบบที่ผู้อ่านไม่ได้ต้องการนำไปประยุกต์ใช้ แต่ผู้อ่านต้องการที่จะอยากรู้ในเรื่องนั้นๆ (ถ้าไม่อยากรู้ก็คงไม่หยิบอ่านจริงไหม?) ซึ่งความอยากรู้นี้ก็เพียงพอเเล้วไม่ใช่หรือสำหรับคนที่ตั้งใจจะค้นคว้าเรื่องที่สนใจ ไม่ว่าความอยากรู้นั้นจะเอาไปใช้ได้จริงหรือไม่ก็ตาม
เราไม่ได้บอกว่าการอ่านแล้วนำไปใช้จริงเป็นเรื่องที่ผิด มันดีด้วยซ้ำ แต่ต้องไม่เหมารวมว่าการอ่านหนังสือทุกเล่มต้องเอาไปใช้จริงเท่านั้นถึงดี มีประโยชน์
ของบางอย่างไม่จำเป็นต้องเอาไปใช้หรอก แค่มันเปลี่ยนมุมมองความคิดเราบางอย่างไป ก็มากพอแล้ว เราไม่มีวันรู้ได้ว่าวิธีคิดที่เปลี่ยนไปหลังการอ่านหนังสือเล่มนั้นจะเป็นยังไง มันคงไม่ได้เอาไปใช้ได้จริงทันที
หรือเอาไปใช้แบบตรงๆ มันอาจเป็นการบ่มเพาะ หรือค่อยๆหล่อหลอมวิธีคิดและมุมมองการใช้ชีวิตของเราให้แหลมคมขึ้น จนกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จก็ได้ ของพวกนี้อาจต้องใช้เวลา
ขอเปรียบเทียบจากหนังสือ Inner Engineering ที่นิ้วกลมเคยเล่าไว้ว่าการรู้อะไรบางอย่างบางทีอาจไม่ได้นำไปสู่ข้อสรุปอะไรก็ได้ แต่มันก็แค่รู้ มันไม่ต่างอะไรจากการหาคำอธิบายว่าชีวิตคืออะไร
เราพยายามที่จะหาความหมายที่มัน ‘นิ่ง’ จนมันกลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นอิสระ พอเรานิยามมันแล้ว ว่าเราเป็นใคร โตที่ไหน เรียนอะไร เราก็จะยึดติดกับสิ่งนั้นทั้งที่จริงชีวิตเป็นสิ่งที่คลุมเคลือสุดๆ
ถ้าเราเป็นสิ่งมีชีวิตแบบคลุมเคลือ คือวันนี้เป็นอีกอย่าง พรุ่งนี้เราก็เป็นอีกอย่างที่อยากจะเป็นได้ โลกที่ไม่แน่นอนแต่กลับนิยามชีวิตที่แน่นอน อาจเป็นชีวิตที่สวนทางกับโลกแห่งความจริง
 
การแช่แข็งนิยามว่าการอ่านจะต้องเอาไปใช้ได้จริงเท่านั้น ก็คงเป็นการมองโลกที่แคบไปหน่อย หรือไม่ก็เราเองที่เป็นคนไม่เอาไหนเพราะไม่ได้เอาความรู้จากหนังสือทุกเล่มมาใช้ในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม มันเหมือนจะขัดแย้งกันเบาๆระหว่างข้อสองกับข้อแรก เพราะมันอาจหมายถึงสิ่งที่อยากรู้ ต้องเป็นสิ่งที่เอาไปใช้ได้เท่านั้น ซึ่งมันตีกรอบความคิดของการอ่านหนังสือมากสำหรับเรา
หากการอ่านเป็นไปเพื่อการนำมาใช้จริงเพียงอย่างเดียว แล้วจินตนาการจะคงอยู่ไปเพื่ออะไร…
โฆษณา