24 ส.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
ธุรกิจแบบไหน ? ที่สัญชาตญาณ วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกให้ซื้อ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การลงทุนของนักลงทุนระดับโลกอย่าง คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ มักได้รับความสนใจอยู่เสมอ
“Nebraska Furniture Mart” เป็นหนึ่งในการลงทุนเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจ
โดยคุณบัฟเฟตต์ ยอมควักเงินซื้อร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ว่านี้ ด้วยมูลค่าราว 5,600 ล้านบาท แลกกับสัดส่วนความเป็นเจ้าของ 90% โดยที่ใช้สัญชาตญาณของตนเองในการตัดสินใจ และไม่ตรวจสอบอะไรมากนัก ก่อนที่จะจ่ายเงิน
แล้วทำไมคุณบัฟเฟตต์ ถึงอยากเป็นเจ้าของ Nebraska Furniture Mart ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องราวทั้งหมดของ Nebraska Furniture Mart มีจุดเริ่มต้นมาจาก ผู้หญิงที่ชื่อ คุณโรส บลัมคิน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “Mrs. B”
โดยคุณบลัมคิน เกิดในครอบครัวชาวยิว เมื่อปี 1893 ที่ประเทศเบลารุส
แต่ในเวลาต่อมา เธอได้อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ในปี 1917
แม้ในช่วงแรกที่อพยพมานั้น คุณบลัมคินจะมีปัญหาในหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสื่อสาร เนื่องจากในประเทศเบลารุส สื่อสารโดยใช้ภาษารัสเซีย และภาษาเบโลรัสเซียเป็นหลัก อีกทั้งการศึกษาของเธอ ก็ยังเรียนไม่จบในระดับมัธยมศึกษา
1
อย่างไรก็ตาม 2 ปีต่อมา หลังจากที่เธอได้ย้ายมาที่เมืองโอมาฮา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณบัฟเฟตต์
และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเนแบรสกา
เธอก็ได้เริ่มเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง เพื่อหารายได้ในการใช้ประทังชีวิต
4
หลังจากนั้น คุณบลัมคินก็ค่อย ๆ เก็บออมเงิน จากการขายเสื้อผ้ามือสอง
จนอีก 18 ปีต่อมา คุณบลัมคินก็มีเงินเก็บก้อนหนึ่ง ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน ประมาณ 3.3 แสนบาท
ซึ่งเธอก็ได้ตัดสินใจนำเงินเก็บก้อนนี้ ไปลงทุนเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่ชื่อ Nebraska Furniture Mart หรือ NFM
โดยในช่วงแรก เธอเริ่มต้นธุรกิจจากการนำเฟอร์นิเจอร์มือสองมาขาย
หลังจากนั้นจึงค่อยทำการต่อยอด มาขายเฟอร์นิเจอร์มือหนึ่ง
3
ในส่วนของกลยุทธ์ที่คุณบลัมคิน เลือกหยิบมาใช้กับร้านของเธอ คือ การขายสินค้าที่มีราคาถูกกว่าร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่ว ๆ ไป โดยเธอจะตั้งราคาขายที่สูงกว่าต้นทุน เพียงแค่ 5-10% เท่านั้น
ซึ่งกลยุทธ์ที่ว่านี้เหมือนจะมาถูกทาง
NFM เริ่มแย่งลูกค้า มาจากคู่แข่งได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
และเมื่อคู่แข่งรายอื่น เริ่มเสียลูกค้าให้กับทาง NFM
เรื่องนี้ทำให้คู่แข่งรายใหญ่บางรายไม่พอใจ จนถึงขนาดไปร้องขอกับบริษัทซัปพลายเออร์เฟอร์นิเจอร์ ให้หยุดขายเฟอร์นิเจอร์ให้กับ NFM
ด้วยความที่คู่แข่งรายใหญ่เหล่านั้น มีปริมาณการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่มากกว่า NFM
ทำให้บริษัทซัปพลายเออร์ ต้องยอมหยุดขายเฟอร์นิเจอร์ให้กับทาง NFM
อย่างไรก็ตาม คุณบลัมคินไม่คิดที่จะยอมแพ้ เธอจึงตัดสินใจนั่งรถไฟออกจากโอมาฮา ไปอีกหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อตามหาซัปพลายเออร์รายใหม่
ในตอนนั้น คุณบลัมคิน ได้ออกตระเวนไปตามเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมืองแคนซัส ชิคาโก และนิวยอร์ก จนในที่สุดเธอก็สามารถตามหาซัปพลายเออร์ ตามที่เธอต้องการได้สำเร็จ
และก็เป็นอีกครั้ง ที่กลยุทธ์การขายในราคาถูกของเธอ สามารถเอาชนะคู่แข่งได้
หลังจากวันนั้น ธุรกิจของ NFM ก็ค่อย ๆ ได้รับความนิยม และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
กลายมาเป็นผู้ค้าปลีกของตกแต่งบ้าน ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
1
จนในที่สุด ความสำเร็จของ NFM ก็ไปเข้าตานักลงทุนชื่อดังอย่าง คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์
ซึ่งในกรณีของ NFM เขาไม่ได้เพียงแค่อยากซื้อหุ้นบางส่วน แต่เขาอยากซื้อ NFM ทั้งบริษัท
เพราะเขาประทับใจกับการเติบโตของกิจการ และการบริหารงานของคุณบลัมคิน
3
ซึ่งครั้งหนึ่ง คุณบัฟเฟตต์ เคยพูดถึงคุณบลัมคินว่า “ไม่ว่าเธอจะไปทำธุรกิจอะไร ผมก็อยากที่จะไปร่วมเป็นหุ้นส่วนกับเธอเสมอ ๆ”
คุณบัฟเฟตต์ซื้อ NFM โดยไม่ได้ตรวจสอบอะไรมากมายนัก
แต่เพราะว่าสัญชาตญาณของเขาบอกว่า “ต้องซื้อ”
เขาเพียงแค่ถามคุณบลัมคินว่า “บริษัทของคุณมีหนี้ไหม” ซึ่งเมื่อเธอตอบกลับมาว่า “ไม่มี”
คุณบัฟเฟตต์ จึงตัดสินใจเขียนเช็ค จำนวน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน ประมาณ 5,600 ล้านบาท ในทันที เพื่อขอซื้อหุ้น NFM ที่สัดส่วนราว 90%
ซึ่งคุณบลัมคินตอบตกลง ส่วนหนึ่งเพราะว่า คุณบัฟเฟตต์มักจะให้อิสระในการบริหารงานแก่ เจ้าของธุรกิจเดิมอย่างเต็มที่
1
โดยครอบครัวของเธอ ยังถือหุ้นอยู่ที่ 10% แต่ก็ยังคงบริหารงานอยู่
แม้จะขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับคุณบัฟเฟตต์ไปแล้วก็ตาม
ซึ่งคุณบัฟเฟตต์เคยบอกว่า การที่เขาตัดสินใจซื้อ NFM นั้น
ไม่ใช่เพียงแค่ NFM เป็นธุรกิจที่ดี แต่เขายังมองหาเจ้าของธุรกิจ ที่จะไม่สูญเสียความหลงใหลในธุรกิจนั้นไป แม้จะขายธุรกิจไปแล้วก็ตาม
 
ซึ่งในความคิดของเขานั้น คุณบลัมคินเป็นผู้ที่มีความหลงใหลในการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก
ทำให้เธอมีความใส่ใจในการทำธุรกิจ จนสามารถสร้าง NFM ให้เติบโตและยิ่งใหญ่ได้ ในเวลาต่อมา
และนี่คือเรื่องราวของคุณโรส บลัมคิน ผู้ก่อตั้ง Nebraska Furniture Mart ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่แม้แต่นักลงทุนระดับโลกอย่าง คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังต้องมาขอซื้อกิจการนั่นเอง..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
1
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา