1 ต.ค. 2022 เวลา 00:03 • ไลฟ์สไตล์
จุดบอดของชีวิต ไม่รู้หรือมองข้าม
ทุกวันนี้เราอยู่ในสังคม Innovation มีความรู้ใหม่ๆ มีการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าอย่างหลากหลาย
จึงไม่แปลกที่เราไม่รู้ หรือไม่มีความเชี่ยวชาญในบางเรื่องหรือแม้แต่ในหลายๆ เรื่อง ที่เราไม่อยู่ในแวดวงการทำงานหรือต้องใช้ความรู้หรือเทคโนโลยีเหล่านั้น
แต่มีหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ แถมยังทะนงตน ไม่ทำตัวใฝ่รู้ และยังดูถูกคนอื่นที่คิดว่ารู้น้อยกว่าตัวเอง คนกลุ่มนี้น่าสงสารและอาจสร้างปัญหาให้แก่สังคมได้ด้วย
วันหนึ่งผมขับรถออกจากซอยเพื่อขึ้นถนนใหญ่หน้าหมู่บ้าน ในจังหวะที่เลี้ยวขวาข้ามเลนออกไปก็เจอกับรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งมาทางซ้าย ทั้งๆ ที่มั่นใจว่าตัวเองดูทุกอย่างดีแล้ว โชคดีที่ยังเบรคทัน ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ
Blind spot จุดบอดหรือจุดอับสายตาในการขับรถ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งกระจกมองข้าง เสา A หรือเสาหน้ารถทั้งซ้ายขวา เป็นจุดบังสายตาที่เกิดจากการออกแบบรถยนต์ มีหลายคนพยายามแก้จุดบอดนี้โดยการติดกระจกโค้งกลมเพื่อเพิ่มองศาการมองที่กระจกมองข้าง ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีกล้องติดรอบตัวรถและมีสัญญาณเตือนเมื่อมีวัตถุวิ่งเข้ามาใกล้ในจังหวะที่เราเปลี่ยนเลน เป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
กลับมาที่ตัวเราเอง เราเป็นมนุษย์ที่มีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่ในตัวเอง มีสิ่งที่เราถนัดทำได้ดี รู้บางเรื่องอย่างลึกซึ้ง แน่นอนว่าในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายเรื่องที่เราไม่ถนัด อาจจะถึงขั้นไม่เข้าใจและทำไม่เป็นเลย นั่นคือเรื่องปกติ
แต่เราจะรู้มั้ยว่า Blind spot ของเราคืออะไร
เราต้องเริ่มจากการสำรวจและประเมินตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เรารู้และไม่รู้ สิ่งที่เราทำได้และทำไม่ได้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเองคืออะไร และมีผลต่อสิ่งใดที่ตามมาบ้าง
ขั้นต่อมาคือการยอมรับและตระหนักว่าเราไม่รู้หรือมีจุดด้อยนั้น คนที่ยอมรับก็จะสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้ ส่วนคนที่ไม่ยอมรับก็ขึ้นอยู่กับว่าจุดด้อยนั้นจะสร้างปัญหาให้ตัวเขาเอง มีผลต่อธุรกิจและสังคมส่วนรวมหรือไม่ ถ้าไม่ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่คงหวังว่าจะมีความก้าวหน้าหรืออย่างน้อยไม่ให้ถูก Disrupt หรือถูกแซงหน้า คงเป็นไปไม่ได้
เมื่อเรายอมรับ Blind spot ของเราแล้ว ขั้นต่อมาคือการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงได้ก็เป็นผลบวกกับตัวเราเอง แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ปรับปรุงไม่ได้หรืออยู่นอกเหนือการควบคุมก็ให้ดูว่าจุดด้อยนั้น Impact กับตัวเราหรืออาชีพการงานของเรามากน้อยแค่ไหน
เราอาจจะมีจุดเด่นในด้านอื่นที่เราพัฒนาเพื่อมากลบจุดด้อยนั้นได้ เหมือนมีจุดดำอยู่บนกระดาษขาว เราไม่มองพื้นที่สีขาวที่เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของกระดาษแต่กลับโฟกัสอยู่แต่จุดดำที่มันลบไม่ได้และไม่มีวันที่จะทำให้จางหายไป สร้างความทุกข์และบั่นทอนความมั่นใจในตัวเอง อย่าลืมว่าทุกคนมีจุดด้อยและไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เราหันมามองและพัฒนาจุดเด่นนั้นให้ดียิ่งขึ้นแทนได้
Blind spot ของรถยนต์ไม่สามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ 100% หากคนขับยังขาดสติขาดความระมัดระวัง แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีหรือตัวช่วยดีขนาดไหนก็ยังเกิดปัญหาดังเดิม
Blind spot ของมนุษย์ก็ไม่สามารถพัฒนาหรือลบมันออกได้ 100% เช่นเดียวกัน ถ้าคนคนนั้นไม่ยอมรับว่าตัวเองมีจุดบอดนั้นอยู่ ทำให้ขาดการพัฒนาปรับปรุงและมีแต่ความเสื่อมถอย
รู้และพัฒนาตัวเองให้ทันเวลา ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ทำกันดีกว่าครับ
รู้ตัวเอง ยอมรับ และปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นหนทางของคนที่ประสบความสำเร็จ
*ช่วยกันกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แว่นด้วยครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ
โฆษณา