25 ส.ค. 2022 เวลา 12:00 • อสังหาริมทรัพย์
【Forex 3D กับอสังหาริมทรัพย์จีน เหมือนกันอย่างไร?】
1
ผมจะให้ผลตอบแทน 50% ภายใน 45 วัน คุณมาลงทุนกับผมมั้ย สมมติลงทุนกับผม 10,000 บาท รอแค่เดือนครึ่งคุณได้กลับไป 15,000 บาท
2
ฟังดูไม่เลวใช่มั้ยครับ
3
ย้อนกลับไปประมาณ 100 ปีที่แล้ว ช่วงทศวรรษที่ 1920 ชาลส์ พอนซี ก็น่าจะพูดกับกลุ่มนักลงทุนรายแรก ๆ ประมาณนี้
แรกสุดมีคนลงเงินกับเขา 18 คน
แล้วพอนซีเอาเงินนักลงทุนไปทำอะไร ถึงได้ผลตอบแทน 50% ภายใน 45 วัน
สมันนั้นมี “คูปอง” แบบหนึ่ง เรียกว่า International Reply Coupon “คูปอง” นี้เอาไปแลก “สแตมป์ไปรษณีย์” กับประเทศสมาชิกทั่วโลกได้
1
ภาพ International Reply Coupon
พอนซีเห็นโอกาสจากอัตราแลกเปลี่ยน และช่วงนั้นเงินเฟ้อที่ยุโรปสูงมาก เขาเลยซื้อ “คูปอง” ที่อิตาลี และเอาไปแลก “สแตมป์” ที่อเมริกา
พูดเป็นภาษานักลงทุนให้ดูโก้ ๆ หน่อย ก็คือนายพอนซีทำ Arbitrage จากการที่ตลาดสองแห่งซื้อขายสินทรัพย์ตัวเดียวกันในราคาแตกต่างกัน
พอชวนคนมาได้เยอะ ๆ ปัญหามีอยู่ว่าพอนซีไม่ได้เอาเงินไปทำ Arbitrage จริง ๆ แต่เขานำเงินของนักลงทุนที่มาทีหลังไปจ่ายให้นักลงทุนที่มาก่อน
2
จนในที่สุดพีระมิดก็ล่มสลาย
ว่ากันว่าถ้าพอนซีลงทุนใน “คูปอง” จริง มันจะมีคูปองมากถึง 150 ล้านใบ ซึ่งต้องใช้เรือขนาดใหญ่เท่าไททานิกขนคูปองเหล่านั้นจากยุโรปไปขายที่อเมริกา อย่าลืมว่าสมัยนั้นยังไม่มีการทำธุรกรรมด้วยระบบดิจิทัลนะครับ
และนั่นก็ทำให้ผู้คนเรียกการฉ้อฉลทางการเงินแบบลูกโซ่ หรือพีระมิด แบบนี้ว่า อุบายพอนซี หรือ Ponzi scheme
ภาพ ชาลส์ พอนซี
กลับมายุคปัจจุบันที่ประเทศไทย Forex 3D ก็เป็น Ponzi scheme ล่าสุด ลักษณะไม่ต่างจากเมื่อ 100 ปีที่แล้ว สัญญาว่าจะเอาเงินนักลงทุนไปซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และจ่ายปันผลให้ นอกจากนั้นสมาชิกเดิมจะได้ 5% จากเงินปันผลของคนที่ไปชวนมาใหม่
1
ปัญหาก็คือมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อขายเงินตราต่างประเทศให้ได้กำไร เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ต้องนำเงินของนักลงทุนที่มาทีหลังไปจ่ายเป็นปันผลให้นักลงทุนที่มาก่อน
ดำเนินไปจนพีระมิดล่มสลาย
เราข้ามประเทศไปที่จีนกันต่อครับ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน เช่น Evergrande ก็ใช้กลยุทธ์แบบ Ponzi scheme มาขายบ้านให้ลูกค้า โดยเรียกว่า Presale
ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินดาวน์ บางครั้งสูงถึง 40% ของราคาบ้าน และก็เริ่มผ่อนทันที แม้ว่าโครงการบ้านที่ซื้อนั้นจะยังไม่เริ่มก่อสร้างก็ตาม
พอบริษัทได้เงิน Presale มาแล้ว ก็นำเงินก้อนนั้นไปใช้ก่อสร้างโครงการก่อนหน้า หรือปิดหนี้โครงการก่อนหน้า
พูดง่าย ๆ ก็คือเงินสำหรับใช้จ่ายในโครงการปัจจุบัน มาจากเงิน Presale ของโครงการถัดไปนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าเป็นกลยุทธ์เดียวกับ Ponzi scheme โดยการนำเงินของคนที่มาทีหลังไปใช้กับคนที่มาก่อน
1
ทุกอย่างดูจะไปได้ จนปี 2020 ที่พรรคคอมมิวนิสต์เข้ามาควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ จนหลายบริษัทจ่ายหนี้ไม่ได้ (Evergrande เป็นหนึ่งในนั้น)
โครงการของ Evergrande ที่ยูนนาน | เครดิตภาพ: Windmemories - Own work
พอเงินขาด สภาพคล่องไม่มี ก็ต้องหยุดการก่อสร้างบางโครงการ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เล่าข้อมูลจาก Bloomberg ไว้ในเฟซบุ๊กว่า
“จากจุดเล็ก ๆ จากจดหมายประท้วงสั้น ๆ 590 คำ ของลูกบ้านในโครงการ Dynasty Mansion Project ของ Evergrande ที่มณฑลเจียงซี”
1
“แจ้งเพื่อทราบว่า ‘ถ้าไม่เริ่มสร้างต่อ ลูกบ้านก็จะไม่จ่ายเงินเช่นกัน’”
“ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่สัปดาห์ ได้แพร่ระบาดไปยังเมืองต่าง ๆ ประมาณ 100 เมือง 300 กว่าโครงการ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวิกฤตอสังหาจีน”
ที่ข่าวแพร่ระบาดไปได้ถึง 100 เมืองนั้น ก็เพราะว่าพอลูกค้าพากันหยุดจ่ายเงินแล้ว พวกเขาได้แชร์ข้อมูลต่อ ๆ กันลงในแอปอย่าง WeChat และ Douyin แต่เป็นที่ทราบกันว่าแอปเหล่านี้จะถูกพรรคคอมมิวนิสต์เซ็นเซอร์อย่างรวดเร็ว พูดอะไรมากไม่ได้
1
ที่น่าสนใจคือมีช่องทางหนึ่งที่เซ็นเซอร์ยาก ช่องทางนั้นคือ GitHub ซึ่งเป็นบริการที่บริษัทเทคโนโลยีจีนจำนวนมากใช้กัน ข้อมูลจึงถูกแชร์ต่อ ๆ กันในนั้น
1
ดร.กอบศักดิ์ ทิ้งท้ายว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ามันจะจบแบบไหน คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า จะเกิดอะไรขึ้นครับ
โฆษณา