Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
26 ส.ค. 2022 เวลา 13:15 • การ์ตูน
สาธารณะ
EP : 874 (Repost)
มายาสถาปัตย์ ปริศนาแห่งความหลัง
แม้จะเป็นภาพที่แสดงออกมาให้เขาเห็นเพียงแค่ชั่วครู่ เมื่อเขาได้บิดลูกบิดประตูห้องๆนึงในบ้านที่กำลังจะถูกรื้อด้วยความเก่าของมัน “นิวะ โทยะ” เด็กหนุ่มจากคณะสถาปัตยกรรม แห่งมหาลัยในโยโกฮาม่า ก็มั่นใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่น่าใช่ภาพหลอนที่เขาคิดไปเองแน่ๆ
นั่นก็ทำให้ค่ำคืนในวันนั้นเขาแอบกลับไปที่บ้านเก่าหลังนั้นเพื่อจะไปหาคำตอบและยืนยันในสิ่งที่เขาเห็น และเมื่อเขาเข้าไปยังบ้านหลังนั้น เขากลับพบเจอหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอคนนั้นมีใบหน้าที่คล้ายกับหญิงคนหนึ่งในรูปถ่ายของปู่ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วของเขา ซึ่งมิวะได้ไปเจอเข้าขณะที่กำลังย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของปู่เพราะมันใกล้กับมหาลัยที่เขาเรียน .... แต่รูปนั้นมันมีอายุหลายสิบปีแล้วนี่นา เธอคือใครกันแน่ และภาพที่เขาเห็นเมื่อช่วงกลางวันคืออะไร และนี่คือเรื่องราวที่ต้องหาคำตอบใน “มายาสถาปัตย์”
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อเรื่องอ่านง่าย และนำเสนอสิ่งที่อยากเล่าซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ออกมาในรูปแบบที่มีความแฟนตาซีหน่อยๆ แต่ดูไม่เหนือจริงเกินไป และออกมาได้ดีมากๆ เรื่องนึงเลยครับ
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้นำเสนอพล็อตเรื่องได้ถูกจริตผมมากนะครับ เพราะนำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง “ความทรงจำ” โดยในเรื่องนี้นำเสนอร่วมกับสิ่งปลูกสร้าง หรือที่เราเรียกว่า “สถาปัตยกรรม” ต่างๆ โดยใช้แนวความคิดที่ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความทรงจำฝังอยู่”
ซึ่งตรงจุดนี้มันเข้ากันได้ดีกับความคิดของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อนที่บอกว่า หากสิ่งของใดๆมีอายุเกิน 100 ปีแล้ว สิ่งนั้นจะเริ่มมีชีวิตและจิตใจ ... ซึ่งความคิดมันเข้าได้ดีกับเรื่องความทรงจำนะครับ ของที่เราหยิบจับ เวลาเราใช้มันเต็มไปด้วยความรู้สึก อารมณ์ต่างๆขณะใช้ สิ่งพวกนี้อาจติดเข้าไปอยู่ในสิ่งของเหล่านั้น เมื่อผ่านเวลาอันยาวนาน ไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกหรือความทรงจำของผู้ใช้ติดอยู่
และบ้านรวมถึงอาคารที่เราอยู่ก็เช่นกัน มันเป็นแหล่งรวมความรู้สึกต่างๆของค
นที่มาร่วมใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวและผ่านทุกข์และสุขมากมาย มันอาจไม่แปลกก็ได้ ถ้าเราบอกว่า ห้วงอารมณ์และความทรงจำเหล่านั้น มันอาจถูกถ่ายทอดเข้าสู่บ้านที่เราอาศัยอยู่ก็เป็นได้ แนวคิดในเรื่องนี้จึงเล่นและนำเสนอออกมาแบบในเรื่องนี้ครับ...
เรื่องนี้มีการนำเสนอเชิงซ้อน “หลายมิติ” ในหลายเรื่องราวผสมกันไปนะครับ เพราะในมิตินึงมันคือการสื่อสารข้อความผ่านทาง “สถาปัตยกรรม” แล้ว เรื่องยังนำเสนอในด้านการเติบโตและการเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการและความรู้สึกของตัวละครในเรื่องอีกด้วยครับ โดยในเรื่องนี้สร้างและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้สึก การเติบโต และความรัก
ผ่านตัวละครสองตัวหลักๆอย่าง ชายหนุ่ม “นิวะ โทยะ” และ สาวน้อย “ฟุคาซาวะ” ที่ต้องเกี่ยวข้องกันทั้งทางตรงกับการต้องมาร่วมกันหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่อาคารบ้านเรือนต้องการบอกพวกเขา และ เกี่ยวข้องในความสัมพันธ์เชิงซ้อนตั้งแต่เหล่าปู่ย่า จนมาถึงตัวพวกเธอและเขาสองคนนี้ครับ เพราะฉะนั้นในแง่การเล่าเรื่องจึงใช้วิธีการเล่าทั้งหลายทั้งหมดนี้ไปพร้อมๆกัน
อาจเพราะเรื่องนี้กำลังเล่าเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทางด้านอารมณ์เป็นหลักอย่างเรื่อง ความทรงจำ ความรู้สึกผูกพัน จนตกค้างอยู่ในบ้านหรือที่พัก ตัวเนื้อหาจึงได้เล่าเรื่องราวต่างๆในเรื่องที่มีส่วนผสมของความดราม่าและเต็มไปด้วยความซับซ้อนของอารมณ์ทุกเรื่องราวออกมาครับ ซึ่งผมมองว่ามันค่อนข้างจะเยอะสำหรับสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการเล่าและมันเป็นอะไรที่ยากต่อการเล่าไม่ใช่น้อยเพราะมันคือเรื่องความรู้สึก ความรักและความผูกพัน ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะหยิบเอามาเล่าครับ
ตัว “นิวะ โทยะ” พระเอกของเรื่องเรานั้น เนื้อหาได้ใส่อะไรไว้ซับซ้อนไม่ใช่น้อยนะครับ ตัวเขาที่เกิดมาในครอบครัวปกติทั่วไป ซึ่งครอบครัวทั่วไปก็ต้องมีปัญหาภายในบ้างอะไรซักอย่าง ซึ่งปัญหาที่ตระกลู “นิวะ” เจอนั้นก็คือการที่ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเขากับ “ปู่” ไม่ลงรอยและมีปัญหากัน ปัญหานั้นทำให้พ่อของ “โทยะ” ไม่พูดคุยและติดต่อ “ปู่” ของโทยะเลย ใ
นขณะที่ตัวโทยะ ก็ไม่มีความทรงจำดีๆ หรือความผูกพันให้เห็นระหว่างเขากับปู่คนนี้เช่นกัน เมื่อรวมกับเรื่องที่เขารับรู้มาว่า “ปู่” ของเขาไม่ได้รัก “ย่า” ของเขาแต่ต้องแต่งงานด้วย และเมื่อทุกอย่างไปด้วยกันไม่ได้ดีก็ทำให้ “ปู่” ของเขาแยกตัวย้ายออกไปอยู่คนเดียวที่โยโกฮาม่า นั่นก็เลยทำให้ตัวเขาไม่ได้มีความรักหรือผูกพันกับปู่ เลย
ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของ “โทยะ” กับ “ปู่” ของเขาเป็นในทำนองนั้น แต่เขากลับต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่ปู่เขาอยู่ในโยโกฮาม่า เพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และแน่นอน เขาย้ายไปเมื่อปู่เขาเสียชีวิตไปแล้ว
ความรู้สึกที่ไม่ได้ผูกพันหรือมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับปู่เขา แต่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นเพื่อประหยัดการเดินทางและค่าใช้จ่าย ทั้งๆที่เป็นบ้านของปู่เขาเอง แต่เขาก็รู้สึกได้ทันทีเมื่อเหยียบเข้าไปในบ้านหลังนี้ว่า .. บ้านหลังนี้ไม่ต้อนรับเขาทั้งๆที่เป็นหลาน เพราะบ้านหลังนี้สร้างขึ้นมาเพื่อ “ปู่” ของเขาเท่านั้น
การสื่อสารออกมาให้เรารู้ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า ตัว “โทยะ” นั้นเป็นคนแปลกหน้าสำหรับบ้านของปู่เขา แม้วันนี้จะไม่มีปู่เขาอยู่แล้วแบบนี้ก็ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความหนักของปัญหาและตอกย้ำสายสัมพันธ์ที่ไม่มีเยื่อใยระหว่างเขากับปู่ของเขาเลย
และเรื่องก็ตอกย้ำและสร้างความรู้สึกระหว่างเขาและปู่เพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อมีปัญหาใหญ่สองอย่างที่เกิดขึ้น หนึ่งก็คือ ตัวปู่ของเขาเองเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากในโยโกฮาม่า แทบจะไม่มีใครในวงการนี้ที่ไม่รู้จัก “อ.นิวะ” เลย และก็เหมือนยอกย้อนที่เขาเองก็กำลังศึกษาอยู่ในคณะสถาปัตยกรรมเพื่อมาเป็น “สถาปนิก” ในอนาคต ทั้งๆที่เขาไม่ได้มาเรียนสาขานี้เพราะปู่เขา
แต่ด้วยความชอบของเขาเองต่างหาก การที่ทุกที่ที่เขาไป และเกี่ยวข้องจะมีแต่การทักทาย เรียกหาและเสียงชื่นชมต่อ “อ.นิวะ” อยู่เสมอนั้น ทำให้เขาอึดอัดใจไม่น้อย แม้เขาจะไม่ได้เกลียด “ปู่” ของเขามาก่อนก็ตาม
เท่านั้นยังไม่พอเรื่องยังสร้างคำถามขึ้นทับซ้อนกับคำถามที่เป็นเรื่องราวระหว่างปู่กับครอบครัวของเขา เพราะในวันที่เขาย้ายเข้าไปและทำการจัดของอยู่นั้น เขาได้พบรูปถ่ายใบนึงที่ถูกซ่อนเอาไว้ โดยเป็นรูปหญิงสาวคนนึง ซึ่งดูจากความเก่าของรูป ทำให้เขาคิดว่า หรือนี่คือผู้หญิงที่ คุณปู่รักอยู่
จนเป็นเหตุให้มีความหมางเมินระหว่างปู่กับย่าเขา จนลามไปถึงพ่อและแม่รวมถึงเขาและน้องสาว และเป็นเหตุให้ปู่ของเขาย้ายออกมาอยู่คนเดียวหลายสิบปี ซึ่งเรื่องนี้ได้ตอบคำถามนี้ด้วยการเจอกันระหว่าง “มิวะ โทยะ” และ หญิงสาวที่เขาเจอในวันที่กลับไปเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ตาฝาดที่เห็นภาพบางอย่างโผล่ขึ้นมาเมื่อเขาบิดลูกบิดในบ้านหลังเก่าหลังนั้น และนั่นคือการเปิดตัวของคำตอบนี้ที่เรื่องต้องใช้พื้นที่ทั้งเรื่องในการเล่ากับ “ฟุคาซาวะ” ครับ
เพราะด้วยความสามารถพิเศษในการสามารถรับรู้ถึงความทรงจำที่ค้างคา และติดอยู่ในบ้านและอาคารที่มีอายุอย่างยาวนาน ซึ่งตื่นขึ้นมาหลังจากการเข้ามาอยู่ในบ้านของปู่หลังนี้นั้น เกิดขึ้นพร้อมกันกับอีกคนนึงนั่นก็คือ “ฟุคาซาวะ” และเมื่อทั้งสองได้มายืนอยู่ในที่เดียวกันและจับมือใช้พลังนี้ร่วมกันก็ทำให้ทั้งสองเข้าถึงและสามารถนำสิ่งที่เห็นมาร่วมแก้ไขปริศนาว่าแท้จริงแล้วสิ่ง "ค้างคา” ที่บ้านและอาคารอยากบอกกับพวกเขาคืออะไร
แต่ที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นที่เรื่องได้สร้างให้ “ฟุคาซาวะ” หญิงสาวคนนี้นั้นมีหน้าตาที่เหมือนกับคนในรูปภาพเก่าที่ปู่เขาซ่อนและ “มิวะ โทยะ” พบในวันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้น ทำให้เกิดคำถามเชิงซ้อนขึ้นอีกนอกจาก “ทำไมเขาและเธอถึงมีพลังนี้” ในช่วงนี้ และ จริงแล้ว “ฟุคาซาวะ” คนนี้คือใคร มีความสัมพันธ์กับคนในรูปภาพนั้นอย่างไร ที่สำคัญ มีความสัมพันธ์กับ “ปู่” ของเขาหรือไม่ อย่างไร ทำให้เราได้เห็นว่าเรื่องนี้วางปมเอาไว้หลายชั้นแหละหลายอย่างมากครับ
การที่สร้างสภาพแวดล้อมของตัวละครให้เป็นไปในทางเดียวกับการเล่าเรื่องคือสิ่งที่เรื่องนี้สร้างเอาไว้ได้ดีมากครับ แม้เป็นเรื่องปกติที่เรื่องจะต้องทำออกมาเป็นแบบนี้อยู่แล้วก็ตาม ผมรู้สึกว่าด้วยการนำตัวละครไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาและ นำเสนอในแง่มุมในเชิงสถาปัตยกรรม เป็นสิ่งที่เรื่องนี้เซ็ทเอาไว้ได้น่าสนใจนะครับ เพราะหาเรื่องที่หยิบเรื่องราวแนวนี้มาเล่าไม่ได้บ่อยๆ นัก
ส่วนใหญ่แล้วเราจะได้เห็นเรื่องราวแนวสถาปัตยกรรมกับการใส่เป็นฉากหลังหรือแบล็คกราวน์เพื่อช่วยเล่าเรื่องราวต่างๆ มากกว่า แต่การที่เรื่องนี้หยิบมาเล่าเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ แม้ส่วนนึงเรื่องนีไม่ได้กะจะเล่าแบบหนักๆ เน้นๆ ใส่ข้อมูลแบบเต็มๆมาให้อ่านก็ตาม เพราะจากที่ได้อ่านผมว่ามันอยู่ในลักษณะ “พอดี”
เพราะเมื่อผมอ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่า “มากไป” หรือ “แน่นไป” ครับ ด้วยการนำเสนอที่พอดีแบบนี้ นอกจากช่วยให้คนอ่านโฟกัสในแง่มุมสถาปัตยกรรมไปตลอดทั้งเรื่องได้แล้ว ในหลายๆจังหวะ มันเป็นตัวกลางในการเชื่อมอารมณ์และจังหวะการเล่าได้ดีครับ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องเล่าอะไรหลายๆอย่างผสมกันไปพร้อมๆ กัน องค์ประกอบความเป็นสถาปัตยกรรมจึงเป็นส่วนผสมที่เรื่องนี้นำเสนอได้อย่างลงตัวครับ
ในแง่สถาปัตยกรรมเรื่องนี้ทำได้ดีและพอดีในความรู้สึกผมนะครับ และในแง่เรื่องราวความรู้สึกก็เช่นกัน ผมว่าเรื่องนี้ก็ยังคงทำได้ดีเหมือนกัน ทั้งในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครเอกสองตัวที่ต้องหาคำตอบในหลายๆอย่าง หรือที่มาที่ พื้นหลังของทั้งสองคน ก็มีความดราม่าหนักๆ ผสมเข้ามาให้อ่านเช่นกัน
และในแง่การเล่าให้เห็นการเติบโตของทั่งคู่ในด้านงาน ความรู้สึก การใช้ชีวิต เรื่องก็เล่าออกมาได้ดีไม่แพ้กันครับ เพราะฉะนั้นสำหรับผมผมว่าเรื่องนี้รักษาบาลานซ์ในหลายๆอย่างในเรื่องได้เป็นอย่างดี มีการใส่รายละเอียดเข้ามาไม่รกมากจนเกินไป ไม่มากไม่น้อย ทำให้เรารู้สึกและเข้าใจในความเป็นไปทั้งหมดของทั้งความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันไปมาหลายอย่างและในหลายแง่มุมครับ
อีกเรื่องที่เรื่องนี้ทำได้ดีก็คือภาพวาดครับ ทั้งในแบบลายเส้นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆเรื่องนึง ด้วยรายเส้นที่นำเสนอออกมาแนวหยาบหน่อยๆ ไม่เน้นการตัดเส้นขอบให้ชัด ทำให้บางครั้งดูเหมือนเป็นภาพร่าง ซึ่งทำให้คนอ่านอย่างผมรู้สึกถึงความดิบจากรูปเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าวาดคนไม่เรียบร้อย มันทำให้รู้สึกว่าเป็นสไตล์การวาดเฉพาะของตัวเองมากกว่า
การออกแบบตัวละครก็ทำได้ดีครับ แม้ไม่ได้โดดเด่น แต่จดจำได้ดี รวมถึงงานวาดอาคารซึ่งในเรื่องเป็นสิ่งที่เรื่องต้องนำเสนอตลอดทั้งเรื่องอยู่แล้ว และด้วยเรื่องต้องนำเสนอว่าเป็นอาคารเก่ายุคโชวะ เพราะเกี่ยวกับการลื้อถอนอาคารด้วย ทำให้เราได้เห็นอาคารเก่า บรรยากาศภายใน องค์ประกอบหลายอย่างที่ทั้งละเอียดและใช้ในการสื่อสารได้ดี โดยภาพรวมถือเป็นงานวาดที่มีเสน่ห์อีกเรื่องครับ
แต่เรื่องนี้ก็ยังมีปัญหาสำหรับคนกลุ่มใหญ่อยู่นะครับ นั่นคือด้วยวิธีการเล่าเรื่องหลายๆเรื่องปนๆ กันแบบนี้ ผมว่า อ. คงเลือกจะเล่าให้มันง่ายๆ และเคลียร์ๆ ไว้ก่อน มุมมองที่ได้อ่านจึงเป็นปกติ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา
ปัญหาคือด้วยการเล่าเรื่องออกแนวเอื่อยๆ เพื่อสามารถเล่ารายละเอียด เหตุการณ์ หรือความสัมพันธ์ต่างๆ ออกมาให้เข้าใจเพราะมันต้องเล่าหลายๆอย่างไปด้วยกัน ด้วยการเล่าสไตล์เอื่อยๆ แบบนี้ ผมว่าคงมีหลายคนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อและหลายจังหวะอาจรู้สึกไม่มีฉากตื่นเต้นหรือน่าสนใจเพื่อดึงสายตาก็ว่าได้ ถ้าคนอ่านอยู่ในจังหวะเร่งรีบ ไม่ได้มีเวลาอ่านมาก อาจถอดใจวางเรื่องนี้ทิ้งไปก็ได้ครับ เพราะโทนเรื่องมันออกสโลว์ไลฟ์กันจริงๆ ถือเป็นจุดอ่อนของเรื่องนี้ก็ว่าได้ครับ
“มายาสถาปัตย์ ปริศนาแห่งความหลัง” เรื่องและภาพโดย อ. Kei Toume ออกมาทั้งหมด 4 เล่มจบ กับค่าย DEXpress ครับเป็นหนังสือที่ออกมานานระดับนึงแต่ยังหาอ่านมือหนึ่งน่าจะได้อยู่นะครับ ใครสนใจลองไปหาอ่านได้นะครับ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องจะดี ภาพสวยแล้วค่ายนี้ยังพิมพ์ออกมาในรูปแบบบิ๊กบุ๊คกับราคาที่ไม่สูงเลย มีหน้าสีอีกต่างหาก รีบหาอ่านก่อนหาอ่านยากนะครับ ขอเตือนครับ
สำหรับผมแล้วเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่นำเสนอด้วยพล็อตเรียบง่ายแต่น่าสนใจครับ มีไม่เยอะสำหรับเรื่องที่หยิบเรื่องราวเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมมาเล่า และเล่าพร้อมๆกับแนวเรื่องหลายๆแนว ไม่ว่าจะเป็น แนวรัก แนวสถาปัตยกรรม แนวสืบสวน แนวแฟนตาซี แนวลึกลับ แนวปริศนาและแนวดราม่า หลายๆอย่างเหล่านี้ผสมกันอยู่ในเรื่องเดียวและสามารถเล่าออกมาได้รู้เรื่อง
ด้วยการเล่าทุกอย่างพร้อมๆกันไปด้วยกันแบบนี้ ไม่บ่อยเลยที่จะเจอเรื่องที่เล่าออกมาแล้วเคลียร์และอบอุ่นไปกับคำตอบที่นำเสนอออกมา แม้วิธีการเล่าอาจจะดูเนือยๆ เอื่อยๆ ชวนหลับในหลายๆจังหวะก็ตาม แต่ด้วยองค์ประกอบที่ดีงามของเรื่องนี้อย่างที่ผมบอก รวมถึงงานวาดที่สวยทั้งคนและอาคารมีเอกลักษณ์อยู่ในทุกหน้าที่ได้เห็น นี่เป็นอีกเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดจริงๆครับ มีทุกอารมณ์และทุกแนวผสมอยู่และเล่าได้ดีอย่างนี้ มีไม่มาก และนี่คือหนึ่งในเรื่องนั้นครับ ห้ามพลาดครับ
ภาพ 9.4/10
เรื่อง 9.4/10
ความประทับใจ 9.3/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #4เล่มจบ #DEXpress #การ์ตูนแนวสถาปัตยกรรม #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวความรัก #9คะแนน #มายาสถาปัตย์ปริศนาแห่งความหลัง #หนังสือการ์ตูน #Rate13 #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #การ์ตูนแนวภาพสวย #การ์ตูนแนวลึกลับ #การ์ตูนแนวปริศนา #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
1
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย