🙏🙏😘😘🌹🌹สวัสดีครับเพื่อนๆ เพราะความอดทนกับความคิดถึงเพื่อนๆ ไม่ไหว จึงต้องแวะมาเขียนและแบ่งปันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มีโอกาสผ่านไปเที่ยวมา ซึ่งในช่วงที่กระแสเรื่องสิ่งแวดล้อมและการลดโลกร้อนมาแรง การเที่ยวก็คงหนีไม่พ้น การไปที่สวนสาธารณะ มีต้นไม้ร่มรื่น ลมโชยเย็นสบาย ชมนกชมไม้นานาพรรณ และนั่นผมกำลังพูดถึงสวนแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางเมืองชื่อว่า "สวนเบญจกิติ"🙏🙏😘😘🌹🌹
สวนเบญจกิติ
🏞🏞🛤🛤"สวนเบญจกิติ" ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษกใกล้ๆ กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กับถนนดำรงพิทักษ์ (ทางด่วนขั้นที่ 1 ช่วงเพลินจิต-พระราม4 ) มีพื้นที่สวนอันกว้างใหญ่ถึง 453 ไร่ โดยเฟสที่ 1 คือบริเวณที่เป็นบึงน้ำและสวนใกล้ๆ กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ เนื้อที่มากถึง 130 ไร่ ส่วนเฟสที่ 2-3 เนื้อที่มากถึง 259 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนของสวนที่มีการก่อสร้างเพิ่ม รวมทั้งมีการปรับปรุงอาคารโกดัง 3 หลัง เดิมของการยาสูบ กรมธนารักษ์ ให้กลายเป็นศูนย์กีฬาในร่ม ส่วนโรงงานผลิตยาสูบ 5 ได้พัฒนาเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ 🏞🏞🛤🛤
สวนเบญจกิติ
การใช้พื้นที่เก่าให้มีคุณค่า ถือเป็นการสร้างราคาให้ที่เก่าเหล่านั้นได้อย่างดี
@walkingthaitrips คนหนีเที่ยว
↪↪แนวคิดในการออกแบบสวนให้มีลักษณะเป็นแบบ "วนเกษตร" ซึ่งประกอบด้วยพรรณไม้พื้นบ้าน พรรณไม้ชายน้ำ พรรณไม้ป่าชายเลน พรรณไม้บึงน้ำจืด พรรณไม้ป่าดิบลุ่มต่ำ และพรรณไม้ป่าดิบแล้ง ถือเป็นห้องเรียนธรรมชาติ และพื้นที่ในการช่วยลดมลพิษ ที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร🛤🛤🏞🏞
การจัดสวนตามลักษณะของพรรณไม้ในสวนเบญจกิติ
↪↪รวมถึงการออกแบบสวนป่าเพื่อการใช้ประโยชน์หลายๆ อย่าง ในสวนเดียวกัน เช่น การพักผ่อน ออกกำลังกาย วิ่ง ปั่นจักรยาน อีกทั้งมีบึงน้ำสำหรับใช้ศึกษาธรรมชาติมากถึง 4 บึง และพื้นที่สีเขียวที่ใช้เป็นทางเดินธรรมชาติมากถึง 5.8 กิโลเมตร ทางวิ่งระยะทาง 2.8 กิโลเมตร และทางปั่นจักรยานระทางยาวถึง 3.4 กิโลเมตร🛤🛤
ทางปั่นจักรยาน ทางวิ่ง และทางศึกษาธรรมชาติ ภายในสวนเบญจกิติ
↪↪รวมทั้งบึงน้ำของ "สวนเบญจกิติ" ยังสามารถเป็นที่ในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพฯ ได้ โดยสวนแห่งนี้สามารถทำหน้าที่เป็นบึงรับน้ำได้มากถึง 128,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะมีการเก็บและอุ้มน้ำในลักษณะแก้มลิงในฤดูน้ำหลาก อีกทั้งจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำดูดซับน้ำของกรุงเทพฯ ที่ระบายไม่ทัน และท่วมขังมาเก็บไว้ในบึง รวมถึงมีการใช้เทคนิคการหน่วงน้ำในกรณีที่น้ำมากและท่วมกรุงเทพฯ และสามารถผันน้ำที่เก็บไว้นั้นไปใช้ในการรดน้ำต้นไม้ในสวนได้ ที่สำคัญยังสามารถใช้เป็นสถานที่บำบัดน้ำเสียโดยวิธีธรรมชาติอีกด้วย🏞🏞
บึงน้ำธรรมชาติเพื่อหน่วงน้ำ และกักเก็บน้ำ ในสวนเบญจกิติ
↪↪นอกจากนั้น "สวนเบญจกิติ" ยังมี Sky Walk หรือทางเดินลอยฟ้า ที่มีความยาวมากถึง 1.8 กิโลเมตรด้วย โดยออกแบบให้มีลักษณะสูงต่ำ ลาดชันสลับกันไป และมีมุมให้ชมวิวแบบ 360 องศา ทำให้ได้วิวและภาพในมุมมองหลากหลายแตกต่างกันไป และมีอัฒจันทน์กลางสำหรับการจัดกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่สำคัญในบางพื้นที่ของสวนยังมีการก่อสร้างโดยยึดหลัก Universal Design ทุกคน ทุกวัย ไม่ว่าจะมีร่างกายเป็นอย่างไร ก็สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเท่าเทียมกัน🏞🏞
Sky Walk สำหรับชมวิว หลากหลายมุมมอง ของสวนเบญจกิติ
↪↪อีกทั้งมีการปรับปรุงโกดัง 3 หลังของกรมธนารักษ์ ให้กลายเป็นศูนย์กีฬาในร่ม โดยยังคงอนุรักษ์แนวคิดและสถาปัตยกรรมของโกดัง ตามหลักสถาปัตยกรรมในยุค 70-80 ไว้ครบ เช่น การก่อผนังอิฐโชว์แนว หรือโครงสร้างแบบรวงผึ้ง (Waffle Slab) ช่วงกว้างของอาคารมากถึง 20 เมตร เนื่องจากยุคนั้นยังไม่มีพื้นสำเร็จรูป และระบบพื้นอัดแรงหรือพื้นแบบไร้คาน (Post Tension Slab) จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอนุรักษ์รูปลักษณ์เดิมของอาคาร เพื่อคงคุณค่าสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ของงานก่อสร้างในสมัยก่อนไว้🌹🏚🏚
โกดัง 3 หลังเดิมของการยาสูบ
↪โดยโกดัง 3 หลัง🏘🏘 จะถูกเนรมิตสถานที่เก่าแก่และมีคุณค่าในเชิงการศึกษาสถาปัตยกรรมมาก ให้กลายเป็นอาคารเวิร์คช็อป ศูนย์กีฬาในร่ม คาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานที่ทำกิจกรรมสำหรับครอบครัว ส่วนโกดังที่ 2 ซึ่งเคยเป็นอาคารเก็บเครื่องจักรของการยาสูบ ก็มีการสร้างไฮไลต์อีกจุดของ "สวนเบญจกิติ" นั่นคือการสร้างหอคอย เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปชมวิวมุมสูงและความสวยงามของสวนในมุมมองแบบ Top View หรือแบบ Bird Eye View 🏞🏞🌹🌹
โกดังที่ 2 ของการยาสูบ กลายเป็นหอคอยสำหรับชมวิวมุมสูงของสวนเบญจกิติ
↪ส่วนโกดังที่ 3 ได้ถูกจัดให้กลายเป็น🚲🚲 Bike Center หรือ Bike Hub ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อม เช่า ซื้อจักรยาน เพื่อส่งเสริมการใช้จักรยานในเส้นทางระหว่าง "สวนลุมพินี" และ "สวนเบญจกิติ" ให้ได้รับความความนิยมมากขึ้น🏚🏚🧧🧧
ศูนย์กีฬาในร่มและ Bike Center
👉👉รวมถึงอาคารผลิตยาสูบ 5 ของการยาสูบกรมธนารักษ์ ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งยังคงยึดหลักการรักษาสถาปัตยกรรมยุค 70-80 เอาไว้เช่นกันกับ โกดังทั้ง 3 หลัง เพียงแต่มีการปรับปรุงให้ดีมากขึ้น เช่น การปรับพื้นที่ให้ใช้สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น โดยมีการรื้อผนังและเพดานเดิมออกบางส่วนเพื่อให้แสงสาดส่องเข้ามาภายในตัวอาคารมากขึ้น แต่ยังคงโครงสร้างผนังเดิมเอาไว้ เพื่อเล่าเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ ให้กับคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป🏘🏘
อาคารพิพิธภัณฑ์สวนเบญจกิติ
🎀🎀ยิ่งกว่านั้นอาคารผลิตยาสูบ 5 ที่ผ่านการปรับปรุงแล้ว จะเน้นให้เป็นสถานที่สำหรับรองรับการทำกิจกรรมหลากหลาย เช่น กีฬา พื้นที่แสดงและจัดนิทรรศการ กิจกรรมเกี่ยวกับป่าเนื่องจากมีการย่อสวน และนำต้นไม้มาปลูกไว้ในอาคาร เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียว และเพิ่มพื้นที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติภายในอาคารให้กับประชาชน🎀🎀
อาคารพิพิธภัณฑ์สวนเบญจกิติ
🧧🧧ยิ่งกว่านั้นอาคารพิพิธภัณฑ์ "สวนเบญจกิติ" ยังมีส่วนในการแสดงนิทรรศการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านเกี่ยวกับป่าไม้ และการอนุรักษ์ป่าไม้ มีการแสดงพันธุ์ไม้อัดแห้ง (Herbarium) ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายาก และใกล้ศูนย์พันธุ์ รวบรวมมาไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ด้วย🧧🧧
การย่อสวนมาไว้กลางอาคาร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการศึกษาธรรมชาติ
😀😀🌹🌹🏆🏆🥇🥇เล่ายาวๆ มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงอยากจะไปเที่ยว "สวนเบญจกิติ" เพื่อไปดูให้เห็นกับตาและสัมผัสด้วยตัวเองแล้วใช่มั๊ยครับ ผมแนะนำไปได้เลยครับ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อกับการเสพธรรมชาติครับ สวนเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 ครับ🌹🌹😀😀🏆🏆🥇🥇
ความสวยงามและร่มรื่นภายในสวนเบญจกิติ
↪การเดินทางด้วยรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซต์ สามารถนำรถมาจอดที่ลานจอดในเฟสที่ 1 และ 2 ได้ มีลานจอดรถได้หลายร้อยคัน ลานจอดเปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น.
↪ส่วนใครเดินมาสามารถมาได้หลายทาง ทั้งเดินมาจาก "สวนลุมพินี" มาตามสะพานเขียว เพื่อมาเข้า "สวนเบญจกิติ" ในประตูที่ 10 (เพิ่งเปิดให้ประชาชนใช้เมื่อเดือนสิงหาคม 65 )
↪หากมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา และเดินต่อมายังซอยสุขุมวิทซอย 10 สามารถเดินมาเข้าประตูที่ 2 ของสวนก็ได้
↪หรือใครที่เดินมาจากสถานีบีทีเอสอโศกก็เข้าทางเฟสที่ 1 ของ "สวนเบญจกิติ" ได้เช่นกัน
สะพานเขียวเชื่อมระหว่างสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
↪นอกจากนั้นคนที่ปั่นจักรยานจาก "สวนลุมพินี" มายัง "สวนเบญจกิติ" สามารถมาเข้าที่ด้านล่างของ Sky Walk ของประตูที่ 10 ก็ได้ (❎ห้ามปั่น🚲🚲จักรยานบน Sky Walk และ❎🐕🐈🦔🐭🐩ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าสวน)
↪และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังสวนแนวตรง (Bangkok Linear Park) แห่งแรกของไทยได้ที่บริเวณนี้ด้วย
สะพานเขียวและประตู 10 ของสวนเบญจกิติ เชื่อมกับสวนลุมพินี และสวนแนวตรงเลียบทางด่วนมหานคร
🏞🏞มาเถอะครับ มาสัมผัสกับธรรมชาติ แล้วจะรู้ว่าธรรมชาติดีดี อยู่ใกล้แค่ในกรุงเทพฯ🏞🏞
@walkingthaitrips คนหนีเที่ยว
ออกไปสัมผัสธรรมชาติ เพราะในธรรมชาติมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย
สวนเบญจกิติ
เมื่อไหร่ที่เราออกเดินทางไม่ได้ เราจะเสียดายความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้
ฝากติดตามช่องยูทูปที่
ขอบคุณข้อมูลจาก www.baanlaesuan.com
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
