เกิดอะไรขึ้นที่ประเทศปากีสถาน
นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2022 อุทกภัยในประเทศปากีสถานที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climage change) ฝนมรสุม 8 ลูก ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยละลายและความละเลยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์นี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,000 คน รวมถึงเด็ก 350 คน (ในวันที่ 28 สิงหาคม 2022) นายทหาร 6 นายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือ นับเป็นอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่อุทกภัยในเอเชียใต้ปี 2017
แผนที่เปรียบเทียบวันที่ 27 สิงหาคมของปี 2021 กับปี 2022
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปากีสถานส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คน มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในอนาคต นอกจากความร้อนที่เพิ่มขึ้น ความแห้งแล้ง ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นทุกปีและสภาพอากาศที่รุนแรงในบางส่วนของประเทศแล้ว การละลายของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยยังส่งผลกระทบต่อแม่น้ำสายสำคัญหลายสายของปากีสถานอีกด้วย
ในปีนี้หน่วยงานสภาพภูมิอากาศปากีสถานบันทึกปริมาณน้ำฝนสูงกว่าปกติในแคว้น Sindh มีฝนตกมากกว่าปกติถึง 784% และแคว้น Balochistan มีฝนมากกว่าปกติถึง 500% โดยบันทึกมรสุมในปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอินเดียและบังคลาเทศ มหาสมุทรอินเดียเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ร้อนขึ้นเร็วที่สุดในโลก โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 1°C (เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งโลกที่ 0.7°C)
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลนั้น จะเพิ่มปริมาณฝนตกให้มากขึ้น นอกจากนี้ทางตอนใต้ของปากีสถานยังประสบกับคลื่นความร้อนแบบ back-to-back ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน โดยรวมแล้วปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดความร้อนอย่างรุนแรง ทำให้ฝนตกหนักกว่าปกติ รวมถึงคลื่นความร้อนยังก่อให้เกิดการละลายของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยทางตอนเหนือของประเทศอีกด้วย
ฝนมรสุมที่ตกหนักและน้ำท่วมได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 33 ล้านคนในปากีสถานตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ทำลายบ้านเรือนไปแล้วกว่า 1 ล้านหลังคาเรือน ในแคว้น Sindh (สินธุ์) และแคว้น Balochistan (บาลูจิสถาน) เป็นสองแคว้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในแง่ของผลกระทบต่อมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐาน
ปศุสัตว์หลายล้านตัวถูกฆ่าตาย พื้นที่การเกษตรมากกว่า 1.5 ล้านตารางกิโลเมตรถูกน้ำท่วม เส้นทางคมนาคมถูกทำลายรวมกันกว่า 3,600 กม. สะพานถูกทำลาย 145 แห่ง โรงเรียนกว่า 17,560 แห่งเสียหายหรือถูกทำลาย การเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยังคงเป็นไปได้ยาก มีเพียงการเข้าถึงทางอากาศโดยอาศัยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้นที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
น้ำท่วมในแคว้นบาลูจิสถาน
วันที่ 1 สิงหาคม เฮลิคอปเตอร์กองทัพบกปากีสถานปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในแคว้นบาลูจิสถานขาดการติดต่อกับหน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศ ภายหลังพบว่าเกิดอุบัติเหตุตกในพื้นที่ดังกล่าว โดยรายงานจากทางการในการสืบสวนเบื้องต้นระบุว่าสาเหตุเครื่องบินตกมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพทั้งหมด ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงจากกลุ่มก่อความไม่สงบว่าเป็นผู้ยิงเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นตก แต่แหล่งข่าวไม่ได้รับการยืนยันและถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
ก้อนหินขนาดเล็กใหญ่กระจัดกระจายหลังถูกมวลน้ำพัดลงมาจากภูเขาทางตอนเหนือ
ความช่วยเหลือจากนานาชาติ
- องค์การสหประชาชาติได้จัดสรรเงิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐจากกองทุนรับมือเหตุฉุกเฉินกลาง (CERF) เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
- วันที่ 18 สิงหาคม นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ 1 ล้านดอลลาร์แก่รัฐบาลปากีสถานเพื่อเอาชนะความท้าทายที่เกิดจากอุทกภัย
- วันที่ 25 สิงหาคม กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยและผู้สูญเสีย พร้อมส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินและเงินช่วยเหลือจากสภากาชาดจีนเป็นจำนวน 300,000 ดอลลาร์ ภายใต้กรอบความร่วมมือทางสังคมและเศรษฐกิจ ระเบียงเศรษฐกิจจีน - ปากีสถาน (CPEC)
- วันที่ 27 สิงหาคมรัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศกองทุนช่วยเหลือน้ำท่วมจำนวนเงิน 1.5 ล้านปอนด์และในวันเดียวกัน รัฐบาลอาเซอร์ไบจันประกาศว่าจะมอบเงินช่วยเหลือให้รัฐบาลปากีสถานเป็นจำนวน 2 ล้านดอลลาร์
- 75
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
