30 ส.ค. 2022 เวลา 03:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุป ความเปลี่ยนแปลงของ KAMU หลังจาก OR เข้ามาถือหุ้น
“อีก 3-5 ปี ข้างหน้า KAMU จะมี 350 สาขา และเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศไทย”
นี่คือความตั้งใจของผู้ก่อตั้งแบรนด์ KAMU
หลังจากที่ OR เข้ามาถือหุ้น 25% ในบริษัท
และในตอนนี้ ใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว ที่ KAMU ได้พาร์ตเนอร์คนสำคัญมาร่วมทีม
สิ่งที่น่าติดตาม ก็คือ KAMU มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร หลังจาก OR เข้ามาลงทุน ?
ซึ่งในวันนี้ ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณแทน ทินกฤต สินทัตตโสภณ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KAMU ถึงทิศทางใหม่ที่เกิดขึ้น
โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คือ
1. ต้นทุนวัตถุดิบ ถูกลง
คุณแทนเล่าว่า การมี OR เป็นพาร์ตเนอร์
ช่วยให้ทาง KAMU สามารถควบคุมต้นทุนของวัตถุดิบได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดย OR จะเข้ามาช่วยสนับสนุน KAMU ในการหาวัตถุดิบใหม่ ๆ หรือจัดซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก ผ่านทางแบรนด์ย่อยในเครืออย่าง Café Amazon เพื่อนำมา “ลดต้นทุนสินค้า” ให้แบรนด์ KAMU
เนื่องจาก ที่ผ่านมา แบรนด์ KAMU ต้องการคงราคาสินค้า ให้เฉลี่ยอยู่ที่แก้วละ 40-50 บาท และไม่เกิน 100 บาท สำหรับสินค้าพรีเมียม
ซึ่งตลอดเวลา กว่า 10 ปี ที่ KAMU ดำเนินธุรกิจมา
แบรนด์เคยขึ้นราคาสินค้า เพียงแค่ 2 ครั้ง ในราคาไม่เกิน 5 บาทต่อแก้วเท่านั้น
ดังนั้น ในขณะที่ทั้งค่าแรง และต้นทุนวัตถุดิบ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ประกอบกับการที่ แบรนด์เองก็ “ไม่ต้องการลดคุณภาพวัตถุดิบลง” แต่ก็ไม่อยากขึ้นราคาสินค้า
ซึ่งหนึ่งในทางออกของเรื่องนี้ ก็คือ เน้นการขายสินค้าให้ได้จำนวนมากขึ้น ผ่านการขยายสาขาออกไปเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ รวมไปถึงการดึงพาร์ตเนอร์ อย่าง OR ให้มาเป็นตัวกลาง ช่วยหาซัปพลายเออร์ ที่สามารถส่งวัตถุดิบที่ได้ตามมาตรฐานเดิมของแบรนด์ ในราคาที่ถูกลง
2. การขยายสาขา และกลยุทธ์ใหม่
ก่อนที่ OR จะเข้าลงทุน
KAMU มีจำนวนสาขาอยู่ประมาณ ​​140 แห่ง
โดยมักจะกระจายสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ ตามตึกออฟฟิศ, ห้างสรรพสินค้า และแหล่งวัยรุ่น
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ
สาขาในห้างสรรพสินค้า และตึกออฟฟิศหลายแห่ง ต้องถูกปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากผลของโควิด 19
และถึงแม้จะมียอดขายจากดิลิเวอรี มาช่วยพยุงธุรกิจบ้าง
แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยยอดขาย ในส่วนของหน้าร้านที่หายไป ได้มากนัก
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต
การกระจายสาขา ออกไปนอกห้างสรรพสินค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ก็อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ
โดยหลังจากได้ OR เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ ก็ช่วยให้ KAMU ขยายสาขา ออกมานอกห้างสรรพสินค้า ไปอยู่ตาม PTT Station ในหลาย ๆ จังหวัด มากขึ้น
ในปัจจุบัน KAMU มีสาขาใน PTT Station ทั้งหมด 14 แห่ง และในอนาคต คาดว่าจะเปิดอีก 50 แห่ง ภายในปี 2023
ที่สำคัญ คือ ด้วยโมเดลของ KAMU ที่มีรูปแบบการ​​ขาย “แฟรนไชส์”
ทาง OR ก็ยังเข้ามาช่วยเรื่องนี้ ด้วยการเป็นตัวกลาง เจรจาหาผู้ซื้อแฟรนไชส์
ในกรณีที่ ผู้ซื้อแฟรนไชส์ PTT Station ต้องการต่อยอดธุรกิจที่มากกว่าการให้บริการเติมน้ำมัน ก็สามารถซื้อแฟรนไชส์ KAMU ไปพร้อม ๆ กันได้
3. โอกาสในการ “ขยายตลาด” นอกประเทศ
แม้ว่า “ตลาดชานม” ในประเทศไทย จะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
และมีมูลค่าตลาดประมาณ 26,600 ล้านบาท
แต่คุณแทนก็มองว่า หากมุ่งเน้นการขยายสาขาอยู่ในไทยอย่างเดียว ก็อาจจะถึงวันที่ตลาดอิ่มตัว เหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ
ดังนั้น การจับมือกับ OR ก็น่าจะช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้
เพราะทาง OR มีพาร์ตเนอร์ อยู่ในประเทศกลุ่ม CLMV อย่างกัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม
ซึ่งในอนาคต เราก็อาจจะมีโอกาสได้เห็น KAMU แบรนด์ชานม สัญชาติไทย ออกไปตีตลาดนอกบ้านมากขึ้น
สุดท้ายนี้ คุณแทนยังได้เปิดเผยโปรเจกต์ในอนาคตของ KAMU ว่า จะมีการคอลแลบกับแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ OR อย่างแน่นอน
ไม่แน่ว่า เราอาจจะเห็นเครื่องดื่ม จาก KAMU ดัดแปลงไปเป็นเมนูในร้านสลัดโอ้กะจู๋ หรือร้านอาหารญี่ปุ่น KOUEN ก็เป็นได้
และก็เป็นที่น่าติดตามต่อไปว่า ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
เราจะได้เห็น KAMU สามารถขยายสาขาได้ถึง 350 แห่ง ตามแผนที่วางไว้หรือไม่
เพราะถ้าหากทำได้จริง
ลองคิดเล่น ๆ ว่า ในวันนี้ KAMU มียอดขายเฉลี่ยต่อสาขา อยู่ที่ 1.6 ล้านบาทต่อปี
ดังนั้น ในวันที่ขยายสาขาได้ตามเป้า บริษัทก็อาจจะมีรายได้ถึง 560 ล้านบาทเลยทีเดียว..
Sponsored by JCB
ออมเงินได้มากขึ้น กับสิทธิประโยชน์จาก JCB กว่า 100 ร้านค้าได้ทุกวันตลอดทั้งปี ที่ร้านอาหารชั้นนำ แพลตฟอร์มสั่งอาหาร ส่วนลดการจองที่พัก การชำระเงินรูปแบบ e-wallet บริการรถเช่า ประกันการเดินทาง Pocket WiFi และส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำอีกมากมายทั้งหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์ พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต JCB เท่านั้น www.facebook.com/JCBCardThailandTH และ LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)
#JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา #JCBThailand #JCBOwnHappinessOwnStory
References
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณแทน-ทินกฤต สินทัตตโสภณ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KAMU
โฆษณา