30 ส.ค. 2022 เวลา 09:24 • ธุรกิจ
***ไม่จำเป็นที่เราต้องฝึกจนได้ฌานพิเศษแบบฤาษีอินเดียแต่ไร้สติปัญญาที่พุทธเน้นเป็นฐานของการตอบโจทย์
#ก็แค่การบ่มเพาะสร้าง "ตาของจิต" "หูของจิต" "จมูกของจิต" "ปากของจิต" "สัมผัสของจิต" "ใจ/อารมณ์ของจิต"
ด้วย
1.พื้นฐานการฝึกใช้จิตเชื่อมสมองเพื่อเกิดสติปัญญาในการใช้ความคิดที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วย
1.1การฝึกตาของจิต ด้วยการเน้นการจินตนาการ ในส่วนของสมองซีกขวาที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยหลักของเหตุและผล (casaulity)
เพราะจินตนาการสำคัญกว่าความรู้(ที่มีของเรา)
ด้วยการสร้างจินตนาการเป็นภาพ
เพื่อเก็บความคิดเป็นภาพเหมือนเป็นภาพในคอมพิวเตอร์ที่เสมือนเชื่อมกับจิตจักรวาล ดั่งหนึ่งเราเอา "ภาพความทรงจำที่เป็นจินตนาการ
คือไม่จำเป็นต้องเกิดเหตุการณ์จริง แต่เป็นความทรงจำเป็นภาพดั่งไอสไตล์เอาความคิดที่นักวิจัยเก่งๆคิดเอามาวิเคราะห์ หาจุดเชื่อมโยงที่เป็นไปได้สร้างสมดุลย์ใหม่และประสานพลัง ก่อตั้งทฤษฏีใหม่ขึ้นมาให้นักวิจัยเป็นเส้นทางทดสอบ
เชื่อมไว้ใน "คลาว/cloud")
1.2 บ่มเพาะสร้าง "หูของจิต" ที่จะต้องสดับตรับฟัง
ด้วย "จิตมุทิตา"ชื่นชมความสำเร็จของคนหลากหลายที่เป็น best practice เกี่ยวข้องต่อการตอบโจทย์การงานและชีวิตของเรา
เพื่อให้จิตของเรา "get inspires/แรงดลใจของเราจากคนสำเร็จ"
ปรับมาเป็นแรงบันดาลใจ ของตัวเราเอง ว่า "อุปนิสัย"และ"คุณลักษณะ/chracteristic" อะไรที่สามารถตอบโจทย์การงานและชีวิตเราได้
เพื่อมาสร้างเป็นกลยุทธ/มรรค/strategy ที่โฟกัสที่ "ทางกลาง" ที่ไม่ตึงไม่หย่อนของเส้นทางหนทางอันชาญฉลาดของเราในการบรรลุภาพรวมอนาคต(scenario)/นิโรธ
1.3 บ่มเพาะใจของจิตให้เกิดสภาวะของ "passion/ความปรารถแรงกล้าที่จะตอบโจทย์ภาพรวมอนาคตให้บรรลุเป้าหมายการงานและชีวิต ตามเส้นทางของความมั่งคั่งของโภคทรัพย์อริยทรัพย์ของพุทธโลกิยสุข
เมื่อมีความปรารถนาแรงกล้าของกุศลกรรมที่จะสร้างตุณาประโยชน์แก่สังคมโดยรวม
1.4 การปรับกระบวนการคิดของจิตที่เชื่อมองค์ความรู้ที่ใช้หลักของเหตุและผล
ของสมองด้านซ้าย
เพื่อใช้วิธีการ(how to) ที่เหมาะสม ให้ตอบโจทย์ครบ"องค์รวม 360องศา" ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับ
1.4.1. ใช้ 5 what(แนวทางของโตโยต้า) คือตั้งคำถาม อะไร อะไร อะไร อะไร อะไร
ดั่งหนึ่งเป็น "หูของจิต"
เช่น อะไรที่ต้องทำ
ตัวอย่างในเนื่องนี้เช่น
อะไรเป็นเหตุปัจจัยหลักที่จะตอบโจทย์/ในรูปของโมเดล/model=เหตุปัจจัยอะไรที่เป็นหลักสำคัญในการตอบโจทย์20ที่ตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาร้อยละ80 ตามหลักพาเรโต
เพราะปัญหาแม้ตอบได้100% ก็ไม่มีประโยชน์เพราะเมื่อเปลี่ยนโจทย์ใหม่ ปัญหาที่เกิด "ยิ่งสูงยิ่งหนาวเพราะโลกแปรผันไม่หยุดนิ่งทำให้ความสลับซับซ้อนสูงขึ้นตลอด" หนทางตอบโจทย์พื้นฐานต้องละลดอัตตาแต่ไม่เลิกกิเลส/โลภ โกรธ หลงของตัวเรา แต่ไม่ลดเป้าหมายชีวิตจากปียเขาเล็กสู่เขาใหญ่ที่เน้น "ความพอดี/ทางสายกลาง"ตามกำลังแห่งตน
1.4.2 ทำไม (why) ทำเพื่อประโยชน์อันใดฤา
1.4.3 ทำเมื่อใด(when)
1.4.4 ทำที่ไหน ( where)
ทั้ง4ประเด็นต้องครบจึงตอบ "how to" ได้อย่างแท้จริง
2.กระบวนการคิดนั้นต้องเชื่อมโยงเข้ากับการสนองตอบผลประโยชน์ของผู้มีว่วนได้สว่นเสีย รวมทั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการปรับ/ฝึกฝน
อุปนิสัย(habit) คุณลักษณะ(characteristic) ที่จะสร้างการเจริญเติบโตแก่ตัวเรา ที่จะเป็นเหตุปัจจัยในการปรับองค์กรของเรา
ดั่งเสมือนเป็น "ปากของจิต" ที่จะนำทางให้เกิดพรหมวิหาร4(เมตตา กรุณา มุทิตา(ชื่นชมผู้คนที่สำเร็จ) อุเบกขา(จิตผ่านปาก ที่วางเฉยด้วยปัญญาต่อทุกสถานการณ์ แต่พร้อม "ปฏิการะ=ปฏิบัติการตอบแทนคุณของส่วนรวมและบุคคล"
และแน่นอนด้วย "ใจของจิต=การมีอารมณ์บวก และการทำงานเชิงรุก(กำหนดอนาคตตนเอง)
**โดย ศ.ดร.ดิเรก ฤกษ์หร่าย 30 สิงหาคม 2565
www.blockdit/direkrerkrai
โฆษณา