31 ส.ค. 2022 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
BGC กับความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ครั้งแรก
8
ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ กับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก BGC หรือ บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส ผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (Total Packaging Solutions) เมื่อวันที่ 29-30 สิงหาคม 2565 ผ่านธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบัน ท่ามกลางหุ้นกู้ที่หลากหลายจากการเสนอขายจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
11
หุ้นกู้ของ BGC เป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 จำนวนไม่เกิน 1 ล้านหน่วย ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.98% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
2
จุดเด่นคือการที่บริษัทฯ ได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อที่ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” (คงที่) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ตอกย้ำถึงศักยภาพผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร โดยมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นบรรจุภัณฑ์แก้วและแพคเกจจิ้ง เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก ขวด PET และหลอดพรีฟอร์ม
ขณะที่ผลการดำเนินงานล่าสุดของ BGC ถือว่ามีความแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ราคาน้ำมัน ความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ฯลฯ
โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รายได้จากการขายของบริษัทฯ อยู่ที่ 7,355 ล้านบาท เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 325 ล้านบาท เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
3
ปัจจัยเติบโตของรายได้มาจากยอดขายและปริมาณการขายสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้วและแพคเกจจิ้งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเบียร์ บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม หลังเปิดประเทศอย่างเต็มรูป ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และข้อจำกัดการเดินทาง ตลอดจนประชาชนเริ่มคลายความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19
1
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการทำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ ลดการสูญเสีย ปรับสูตรการผลิต เพื่อรับมือกับราคาวัตถุดิบผันผวนในช่วงที่ผ่านมาและลดผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงทยอยเจรจากับลูกค้าเพื่อปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่แท้จริง
จากผลการดำเนินงานที่มีรายได้เติบโตแข็งแกร่งและกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงการปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
1
ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมสำหรับงวด 6 เดือน ปี 2565 อยู่ที่ 1.6 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 1.7 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 2.10 เท่า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินที่ดี
1
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ BGC จะมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและทำรายได้เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1) การเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
2) นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการผลิต
3) ปรับสูตรการผลิตเพื่อควบคุมต้นทุน
4) บริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
5) เจราจาปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต
นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นเพิ่มยอดขายในประเทศรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วและแพคเกจจิ้งที่เพิ่มขึ้น และแผนงานขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้ว และสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ดีอีกด้วย ซึ่งจะผลักดันการเติบโตให้แก่ BGC อย่างต่อเนื่อง
2
โฆษณา