สรุปเหตุการณ์ P miner แชร์ลูกโซ่คริปโตวงใหม่ที่สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 1,700 ล้าน !
เอาอีกแล้วค่าา แชร์ลูกโซ่วงเก่ายังไม่เคลียร์ วงใหม่โผล่มาอีกแล้วกับ “บริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป” หรือ P miner Cryptocurrency ที่มี “กิติกร อินต๊ะ” เป็นหัวเรือในการนำขบวนฉ้อโกงครั้งใหญ่นี้ และปัจจุบันมียอดความเสียหายแล้วกว่า 1,700 ล้านบาท !
โดยล่าสุดทาง ทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 5 จ.เชียงใหม่ หรือ DSI ก็ได้รับเรื่องและประกาศร่วมมือกับ ปปง. เพื่อติดตามยึดทรัพย์ของ “กิติกร อินต๊ะ” แล้ว พร้อมกับตั้งค่าหัวเป็นจำนวนเงินกว่า 50,000 บาทหากใครพบเบาะแสของมิจฉาชีพรายนี้
ส่วนเหตุการณ์ทั้งหมดมีความเป็นมายังไง ใครที่ตามไม่ทัน เดี๋ยวแอดจะสรุปให้ฟังค่ะ
1.ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นาย กิติกร อินต๊ะ ได้เริ่มจดทะเบียนบริษัทในชื่อ พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป เป็นครั้งแรก เพื่อทำกิจการรับจ้าง และออกแบบเว็ปไซต์
2.บริษัทมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในปี 2565 ทางบริษัทก็ได้ตัดสินใจเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกกว่า 500,000 บาท พร้อมกับเริ่มชักชวนให้คนเข้ามาลงทุนเพื่อรับเงินปันผลสูงถึง 10 - 15 % ต่อปี ผ่านการฝากเทรดเหรียญคริปโต และการลงทุนในเหมืองขุด
3.สิ่งที่ทำให้นาย กิติกร อินต๊ะ เริ่มโด่งและกลายเป็นตำนานขึ้นมาได้นั้น ก็มาจากการที่เค้านำเงินไปลงทุนในเหรียญ Luna ช่วงที่เหรียญแตกเป็นจำนวน 60,000 หมื่นบาท และสามารถทำกำไรได้สูงถึง 22 ล้านบาท (แต่ก็ไม่รู้ว่าเสียไปมากเท่าไร) จากนั้นก็มาโพสต์โชว์ พร้อมกับการสร้างภาพและแชร์ชีวิตสุดหรูผ่าน Social Media เพื่อดึงดูดความน่าสนใจของนักลงทุนอยู่บ่อยครั้ง
4.โดยถ้าหากใครสนใจจะต้องเอาเงินมาลงทุนเป็นจำนวน 1 ล้านบาท และต้องเสียค่าสมาชิกในการเข้ากลุ่ม VIP ที่มีมูลค่ากว่า 19,000 บาทก่อนด้วย
5.อย่างที่รู้กันว่า ปีนี้ตลาดคริปโตเริ่มเข้าสู่ Bear Market ทำให้ราคาเหรียญต่าง ๆ เริ่มร่วงหนัก ทางบริษัทก็เลยเกิดปัญหาสภาพคล่อง และเกิดการขาดทุนกว่า 70% ดังนั้นทางบริษัทเลยประกาศว่าจะขอหยุดจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนชั่วคราว
6.ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มหวั่นใจกับการลงทุนในครั้งนี้ แต่ทางบริษัทก็ได้สร้างความมั่นใจ โดยการให้สัญญาว่า จะขุดเหรียญตามปกติ และมีการใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และจะมีการเทรดเหรียญต่อไป เพื่อนำรายได้มาคืนให้กับนักลงทุน
7.พร้อมกับปิดทิ้งท้ายว่า ไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนีแต่อย่างใด และได้ขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว อีกทั้งยังขอร้องให้นักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเองก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบต่อกับทั้งทางบริษัท และต่อนักลงทุนเอง
8.แต่กลิ่นตุ ๆ ก็เริ่มแรงขึ้น เมื่อมีเพจดังเข้าไปพบเจอว่า นายกิติกร ไม่ได้มีเหมืองขุดจริง เป็นแค่เหมือง .jpg
9.ในวันที่ 24 สิงหาคม 65 นายกิติกร อินต๊ะ ก็ได้โพสต์ขายรถยนต์เฟอร์รารี่ แลมโบกินี่ในที่สุด เพื่อต้องการนำเงินมาชำระหนี้ และนี้คือโพสสุดท้ายของเค้า
10.วันที่ 25 สิงหาคม 65 ทางกลุ่มผู้เสียหายทนไม่ไหวจึงรวมตัวกันแจ้งความกับทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ (DSI)
11.วันที่ 30 สิงหาคม 65 ทาง DSI ได้ทำการเข้ายึดทรัพย์ แต่ปรากฎว่า ตอนเข้าบ้านไปนาย กิติกร อินต๊ะ และครอบครัวไม่อยู่แล้ว
12.ทาง DSI เลยตั้งค่าหัวนาย กิติกร อินต๊ะ เป็นจำนวน 50,000 บาท ให้กับใครก็ตามที่แจ้งเบาะแสและสามารถนำไปสู่การจับตัวได้
ก็ถือว่าเป็นอีกหนี่งขบวนการฉ้อโกงที่น่าตกใจมาก เพราะมีผู้หลงเชื่อจำนวนไม่น้อย และมูลค่าความเสียหายก็สูงจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้จะจบลงตอนไหนก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และแอดขอเตือนนักลงทุนอีกครั้งว่า อย่าให้ผลตอบแทนมายั่วใจเราได้ง่าย ๆ ไม่งั้นอาจจะต้องหลงเป็นเหงื่อของแชร์ลูกโซ่วงใหม่อีกก็เป็นได้..
นี่ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองก่อนทุกครั้ง
==========================
ถ้าชอบคอนเทนต์แบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดติดตามเพจไว้นะคะ จะได้ไม่พลาดสาระดี ๆ จากเพจของเรา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
