Ari Aster ชายผู้สร้างความสยองที่แตกต่างและแปลกใหม่
ใครที่ได้ดู Hereditary และ Midsommar คงรู้สึกถึงความสยองที่แตกต่างจากหนังน่ากลัวที่เราเคยดูๆกันมาในอดีต ที่ Ari Aster สร้างมิติใหม่ที่มีความน่าสนใจกว่าเดิม ความอึดอัดของบรรยากาศที่หนักอึ้งที่ขยี้ใจคนดู ผู้คนในเรื่องที่มีพฤติกรรมความแปลกประหลาดที่สยองกว่าผีสาง มุมกล้องที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอด การตัดฉากที่กระฉากอารมณ์ วิธีเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์และนัยยะที่ลึกซึ้ง ที่ความสยองลงลึกไปในจิตใจกว่าเดิม
นั้นกลายเป็นลายเซ็นของ... Ari Aste
เกิดปี 1986 (ตอนนี้อายุ36) ในเมือง New York ในครอบครัวชาวยิวที่พ่อของเค้าเป็นนักดนตรีและแม่ชอบแต่งกลอน ที่เค้าได้ซึมซับสุนทรียภาพของดนตรี และเรื่องราวเทพนิยาม ความสวยงามของบทกลอน
เค้าเล่าว่าตอนสี่ขวบ ได้ดูหนังเรื่อง Dick Tracy ในโรงภาพยนตร์ พอถึงฉากที่มีการรัวกระสุนปืนกล Thompson ที่ฉากหลัง เต็มไปด้วยเปลวไฟ ทำเค้าก็ตกใจ สติแตกและวิ่งออกไปจากโรง ไกลถึงหกช่วงตึกเกือบโดนรถชน ก่อนที่แม่ของเค้าจะตามจับตัวได้ทัน ทำให้เค้าเริ่มหลงรักภาพยนต์ตั้งแต่ตอนนั้น
และเริ่มดูหนังมากขึ้น เค้าชอบเข้าไปแผนกหนังสยองขวัญของทุกร้านเช่าวิดิโอ เค้าอาจจะต่างจากนักสร้างนักคนอื่นๆที่พยายามสร้างหนังของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ แต่ Ari Aste พยายามเอาดีทางด้านเขียนบทหนังมากกว่า จึงเข้าเรียนที่ Santa Fe University of Art and Design ซึ่งหลังจากเรียนจบเค้าก็เข้าร่วมกับ American Film Institute ซึ่งเค้ายังเล่าอีกว่า
การเป็นมือเขียนบทหนังทำต้องเจ็บปวดมาก เพราะไม่สามารถควบคู่อะไรได้เมื่อเรายกบมให้คนอื่นไปแล้ว ตอนนั้นเองที่เค้าคิดว่าควรต้องเป็นผู้กำกับงานของตัวเองได้ซักที
The Strange Thing About the Johnsons (2011) เรียกว่าเป็นผลงานหนังสั้นที่แจ้งเกิดของ Ari Aste เลยทีเดียว ซึ่งอยากให้หลายๆคนลองไปหาดู เป็นเรื่องราวของครอบครัว Johnsons ที่นำเสนอความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกได้อย่างเหนือจินตนาการ ที่ถูกพูดถึงในวงกว้างเกี่ยวกับเนื้อหาที่ปวดตับเอามากๆ
และมีหนังสั้นอีกเรื่องที่อยากแนะนำ คือ Munchausen (2013) เป็นเรื่องราวความรักของแม่ที่อยากดูแลลูกชายของเธอตลอดไป ที่ยังเป็นแนวปวดตับอีกเหมือนเดิม
ซึ่งตัวเค้าเองก็ยังมองตัวเองว่าไม่ได้ต้องการจะทำหนังสยองขวัญ แต่ด้วยบรรยากาศของเรื่องที่เค้าทำออกมามันดูดำมืดและเยือกเย็นจนกลายเป็นหนังสยองขวัญไปโดยไม่รู้ตัว แม้ตัวเค้าจะพยายามปฏิเสธมากเท่าไรก็ตาม หนังแนวสยองก็ยังดึงดูดเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งเค้าพูดถึงหนังน่ากลัวที่เค้าชอบมากๆในช่วงหลังๆอย่าง The Witch ,Let the Right One In ,The Wailing ที่เค้าชอบมากๆ ที่ตัวหนังมันมีอะไรให้คนดูได้ค้นหามากกว่าการทำให้ตกใจกลัวเท่านั้น คือ ทำให้ความน่ากลัวมันเข้าถึงจิตใจคนดูในลึกกว่าเดิม ไม่ใช่กลัวแบบชั่วคราวดูจบแล้วก็ลืมไป แต่มันจะติดอยู่ในความรู้สึกของคนดูไปต่อในอนาคต นั้นละคือหนังที่ Ari Aste อย่างจะทำ
ปี 2018 Hereditary จากค่าย A24 ด้วยฝีมือกำกับและเขียนบทของ Ari Aste ก็ออกมาให้โลกได้รับชม Toni Collette พูดถึงความยอดเยี่ยมของบทโดยชื่นชมว่ามันเข้าใจความเป็นครอบครัว เข้าใจความเป็นมนุษย์ มันคือพายุหิมะ ซึ้่งตัวหนังทำหน้าที่มากกว่าน่ากลัวแต่กลับแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่สร้างบาดแผลให้ซึ่งกันและกันอย่างน่ากลัว กลายเป็นฝันร้ายสู่หายนะที่เกินคาดเดา
ซึ่ง Ari Aste พาคนดูไปสู่เส้นทางที่น่ากลัวและมุมมืดที่หนังส่วนมากไปไม่ถึง ที่ตัวเค้าเองยอมรับว่าการได้ทำหนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกได้เยี่ยวยาจิตใจของตัวเอง เพราะเรื่องที่ถ่ายทอดออกไปนั้นมันส่วนตัวมากๆ ตัวหนังเองหลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่มีพลังอย่างมาก ที่ถูกสร้างขึ้นจากวิธีเล่าเรื่องที่สร้างความวิตกกังวลที่ไม่ได้รับการแก้ไขให้คนดูได้จริงๆ ทำให้คนดูรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ที่เราเหมือนถูกอะไรบางอย่างควบคุมอยู่
ผลงานต่อมาคือ Midsommar ในปี 2019 หนังที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาที่เดินทางไปเทศกาลฤดูร้อนในหมู่บ้านห่างไกลผู้คนในประเทศสวีเดน ที่ตัว Ari Aste ต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลมากมายเกี่ยวกับตำนานพื้นเมืองโบราณ พิธีกรรมเก่าแก่ ในแถบสแกนติเนเวีย
จนไปถึงความเชื่อลัทธิเกี่ยวกับธรรมชาติต่างๆ ที่เคยมีในอดีตที่น่าสนใจเพื่อนำมาใช้ในหนัง ที่ผสมผสานศาสนาทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้าไปอย่างน่าทึ่ง กลายเป็นหนังลิทธิหลอนที่เล่นกับความเชื่อและวัฒนธรรมได้อย่างแปลกใหม่ ยังเล่นกับความสว่างที่เล่นงานคุณได้ไม่แพ้ความมืดเลยจริงๆ
ทำให้ Ari Aste หลายเป็นผู้นำความสยองขวัญในทิศทางใหม่ที่เล่นงานคนดูได้อยู่หมัด และจะติดอยู่ในใจคนดูไปอย่างน่าตกใจจริงๆ
ข้อมูล
ใครชอบเนื้อหาแบบนี้ช่วยกด like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจในการทำผลงานแบบนี้มาเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ
#AriAster
#หลับต้นเรื่อง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
