4 ก.ย. 2022 เวลา 11:44 • ประวัติศาสตร์
เศรษฐกิจรัสเซีย ตอนที่ 1 สังคมนิยมสู่มหาเศรษฐี
สังคม เศรษฐกิจ เศรษฐี
ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจในรัสเซียเป็นอย่างไร ?
หลังจากสถาปนาสหภาพโซเวียตเสร็จก็ได้กลายมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลก หลังจากชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 คือการชนะเยอรมัน หลังจากที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้ก็โดนหลายๆ ชาติจับตามองในวิทยาการของรัสเซีย เช่น เรื่องยานสเปซ การส่งไปอวกาศของรัสเซีย ที่แข่งขันกับอเมริกาเพื่อไปอวกาศ และเป็นชาติแรกที่สามารถส่งยานอวกาศออกไปหมุนรอบโลกได้เป้นประเทศแรก วิทยาศาสตร์ของรัสเซียดีมาก
หรือโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลีย รัสเซียก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ แต่ในมิติเศรษฐกิจอาจจะไม่ก้าวหน้าเพราะว่าใช้ระบบคอมมิวนิสต์ หรือเรียกว่า Central Planning วางแผนโดยศูนย์กลางทั้งหมด ไม่มีใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์
ภาพรวมของรัสเซีย ณ เวลานั้น มีรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 45,000 แห่ง คือทุกอย่างกิจการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเมืองทอง เมืองแร่ โรงฆ่า โทรศัพท์ ฯลฯ ปัญหาอยู่ที่ว่า มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี เมื่อเทียบกับตะวันตก
ประเด็นอยู่ที่ว่ารัสเซียได้มีการเปลี่ยนผู้นำไปหลายคน ใครขึ้นมาอายุก็มากขึ้น และตายลง ทำให้รัสเซียเริ่มมองว่าเราต้องการผู้นำที่อายุน้อย และคนที่ขึ้นมาเป็นผู้นำของรัสเซียคนที่แปดและคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต คือ มิคาอิล กอร์บาซอฟ
และมิคาอิล ก็ได้มีนโยบาย เปเรสตรอยคาคือการปรับและกลาสนอสต์คือการเปลี่ยน มีการโปรโมทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเข้ากับอเมริกาได้ ยุติสงครามเย็นได้ แต่ประเด็นมิคาอิลไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ วิธีการคือการที่เราจะนำสินค้าบริโภคเข้ามาในประเทศ
โดยการเปลี่ยนจากที่เราจะหาสินค้าจากตลาดมืดเป็นเปิดให้คนสามารถเอาสินค้าจากโลกตะวันตกเข้ามาขายได้ในปลายศตวรรษที่ 80 ต้นศตวรรษ 90 จะพบว่าช่วงเวลานั้นใครที่จะใจกล้า ลองเอาสินค้าเข้ามาขาย ในช่วงเวลานั้นก็จะพบว่ามีเศรษฐีหลายคนเลยที่เกิดในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ คอมพิวเตอร์ รถมือสอง ฯลฯ
มิคาอิล กอร์บาชอฟ
แต่เมื่อมองเยอะไปกว่านั้นผลที่สุดแล้วว่ามิคาเอลปรับเรื่องทหารของสหภาพโซเวียตลง ถอนกำลังออกจากอัฟกานิถาน แต่ในเรื่องของเศรษฐกิจปัญหายังเกิดอยู่ จนท้ายที่สุดมิคาเอลได้ถูกรัฐประหาร ในปี 1991
และหลังจากนั้นได้มีคนใหม่ขึ้นมาคือบอริส เยอลต์ซิน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อรัฐเซียไม่ใช่สหภาพโซเวียต สิ่งที่เขาอยากจะทำคือปรับระบบเศรษฐกิจใหม่
โดยการที่เข้าไปหาจอร์จ บุช ที่วอชิงตัน ดีซี เรื่องอยากจะปรับเศรษฐกิจใหม่ จอร์จ บุชเลยยื่นข้อเสนอ Washington Consensus เนื้อหาก็จะเป็นเช่นเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ จะต้องมีการเปิดเสรีอุตสาหกรรม เป็นต้น
และหนึ่งในนั้นคือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นของเอกชน ที่มีแนวโน้มว่าจะทำธุรกิจได้ให้เป็นของเอกชน รัสเซียได้มี yegor gaidar และ anatoly chubais เพราะสองคนนี้ทำงานใกล้ชิดกับวอชิงตัน เพื่อดูว่าวิธีการที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นอย่างไร
บอริส เยอลต์ซิน
รัสเซียเลยทำการเอารัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งมาและทำการแบ่งหุ้นรัฐวิสาหกิจเป็น 3 ส่วน
  • 1.
    เปิดระดมทุน ให้ต่างประเทศลงทุน
  • 2.
    แบ่งให้พนักงานเก่าจากบริษัทที่ถูกแปรจากรัฐสู่เอกชน
  • 3.
    เปิดให้เศรษฐีรัสเซียเข้ามาซื้อ
1
ในปี 1996 จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง เลยได้ทำการระดมทุน โดยหาคนรัฐเซียที่อยากเป็นเจ้าของรัฐเข้ามาซื้อ และเอาเงินที่เป็นส่วนเกิน หรือเรียกว่าเงินถอนเข้าไปที่สภา
เศรษฐีรัสเซียที่เคยทำธุรกิจนำรถเข้ามาจากต่างประเทศหรือทำธุรกิจอื่น ค่อยๆ สะสมเงินเข้ามาและค่อยๆ เข้าไปเป็นแกนกลางของรัฐ ตั้งแต่ตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
แต่กลไกลของรัฐเซียไม่ได้เปิดให้ทุกคนเข้ามาทำธุรกรมมได้ ธนาคารของรัฐหรือที่อื่นๆ ถ้าหากธนาคารใดที่รัฐกู้ได้ ธนาคารนั้นก็จะมีหุ้นหนึ่งในสามของรัฐไปด้วย หรือเรียกว่า 7 ผู้ยิ่งใหญ่
เช่น Boris Berezovsky ขายรถเก่ามาก่อนเมื่อรู้ว่าโอกาสกำลังจะมาก็เลยได้ทำการเทคโอเวอร์แบงค์ต่อ, Mikhail Khodorkovsky จากวิศวกรโรงงานกลั่นน้ำมันก็ไปเทคโอเวอร์ธนาคารตอนอายุ 30 ปี, Vladimir Potanin, Petr Aven, Mikhail Fridman เป็นต้น เรียกว่าเป็น 7 บุคคล 7 ธนาคารด้วยกัน
Boris Berezovsky
ฉะนั้นเข้าไปให้รัฐบาลกู้เงินเพื่อเป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจ เช่น ยูคอร์ส เป็นการควบรวมบริษัทน้ำมัน 3 แห่ง ซึ่ง Mikhail Khodorkovsky เข้าไปแล้วได้มาในราคา 130 ล้านดอลล่าสหรัฐ หรือ Boris Berezovsky เข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทก๊าสธรรมชาติ สถานีโทรทัศน์ และอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น ทั้ง 7 คนนี้ได้หุ้นมา 30% จากการให้รัฐกู้
และอีก 30% ที่เหลือที่แจกจ่ายให้กับพนักงาน ได้ถูกทำการซื้อต่อจากเศรษฐีทั้ง 7 คนนี้ที่ส่งคนเข้าไปขอต่อราคาในการซื้อหุ้น 30% จากพนักงานเหล่านี้ โดยการต่อราคาและจ่ายด้วยเงินสด ทำให้ซื้อไปซื้อมา เหมือนได้เปล่า เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันนี้จะมีมูลค่ามากขึ้น แต่ ณ เวลานั้นด้วยความที่คนไม่รู้เลยทำการขายออกไป
และทำให้กลายเป็นเศรษฐีที่อยู่ในตลาดหุ้นของรัสเซียมาจนถึงทุกววันหนึ่ง ด้วยกระบวนการต่างๆ เลยเรียกว่า Russian Oligarch หรือเศรษฐีครองเมือง หรือเรียกอีกอย่างว่า คนาธิปไตย คือการปกครองประเทศ กุมเศรษฐกิจของประเทศโดยชนกลุ่มน้อย และกลุ่มคนพวกนี้ก็ครอบครองอำนาจและหน้าที่ของพวกเขาคือการส่งเงินให้กับบอริส เยอลต์ซิน ตลอดระยะเวลาที่ครองอำนาจ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองก็ดี เศรษฐกิจก็ดี หรือในเรื่องต่างๆ ก็ดี
Mikhail Khodorkovsky
การบริหารการจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล
เชอร์โนบิลเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียที่อยู่ยูเครน แต่ทางสหภาพโซเวียตตรงนั้นใกล้แหล่งน้ำ เลยไปจัดการสร้างที่ตรงนั้นน่าจะเหมาะสมที่สุด และทำให้วิธีการบริหารการจัดการตรงนั้นถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นการบริหารการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพที่สุด
เชื่องช้า ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า เราจะเป็นเหมือนเดิมกันไม่ได้แล้ว ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองให้ทันสมัยและเปิดรับตะวันตกระดับหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงการช่วยเหลือคือได้รับน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ให้ความช่วยเหลือ
และส่วนหนึ่งบริษัทอเมริกันบอกว่า ถ้าคุณเปิดระดมทุนให้บริษัทต่างชาติเข้าไปร่วมลงทุน พวกเราขอเข้าไปด้วยได้ไหม ก็เลยกลายมาเป็นหนึ่งในสามของการแบ่งหุ้น ซึ่งรัสเซียเองก็ต้องการโนฮาว เลยยอมที่จะเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน
การเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจรัสเซีย
  • 1.
    รัฐวิสาหกิจ
  • 2.
    Privatization
  • 3.
    ระดมทุนจากต่างชาติและเศรษฐีรัสเซีย
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล
เศรษฐกิจในเชิงภูมิศาสตร์
รัสเซียจัดการกับภูมิศาสตร์โดยการทำเท่าที่ต้องการใช้ สมัยก่อนรัสเซียไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำมันเยอะ รัสเซียก็ขุดเท่าที่ต้องการจะใช้ออกมา เช่น แร่ธาตุก็มีเท่าที่กับการใช้เทคโนโลยีของโซเวียต กับการใช้อาวุธของโซเวียต
และบางบริษัทที่เป็นเมืองทองก็ไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และในปัจจุบันเป็นหนึ่งในสิบของบริษัทที่จดทะเบียนหลักทรัพย์ของมอสโกในเวลานี้ก็ยังคงเป็นบริษัทที่ขุดเหมืองทองอยู่ ในยุคนั้นสิ่งที่โซเวียตต้องการคือการรักษาแสงยานุภาพเอาไว้
มหาอำนาจไม่ใช่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่ในเชิงของการมีอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศที่เป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือเรียกได้ว่าเป็นทรัพยากรที่มีอยู่แล้วแต่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรในการนำมาใช้เพื่อพานิชย์
ต้องยอมรับว่าคอมมิวนิสต์ 74 ปีทางการเมือง ที่เป็นลัทธิทางการเมืองที่เราไม่ได้ทำเเพื่อบริหารความมั่งคั่งของประเทศ แต่ต้องยอมรับว่าเมื่อมันถูกกดเอาไว้นาน แล้วมีคนที่มือเขายาวและระบบที่ทำให้เขาสามารถสาวได้สาวเอา ทำให้รู้ว่ามีวิธีแบบนี้อยู่
และในตอนหลังเมื่อทำการเปิดประเทศ ก็เกิดลูกค้าใหม่ ถ้าเป็นสมัยก่อนกลุ่มลูกค้าเดิมที่ไม่ได้หวังผลกำไร เช่น บริษัทก๊าส ถ้าวันนั้นขุดก๊าสในปริมาณเท่ากันกับในวันนี้ แต่เขาจะไม่สามารถขายให้กับเยอรมันได้ เพราะสภาพสังคมมันเป็นแบบนั้น
แต่หลังจากที่มีลูกค้าชัดเจน บริษัทต่างชาติเองก็เริ่มต้นที่จะเข้าไป เริ่มต้นที่จะไปซื้อทรัพยากร ทำให้บริษัทเหล่านั้นเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด มีเทคโนโลยี มีเถ้าแก่
รัสเซีย
จุดเปลี่ยนที่ทำให้โซเวียตเปลี่ยนระบบการบริหาร
วิสัยทัศน์ของ มิคาอิล กอร์บาซอฟ เขารู้ว่ารูปแบบริหารเดิมอยู่ไม่ได้ แต่มิคาอิลไม่สามารถที่จะลงมือปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จได้
กลไกที่สำคัญของระบบโซเวียตคือกลไกระบบราชการ วิสัยทัศกับความคาดหวังไปไกลแล้วแต่การดำเนินงานยังไม่ไปไหน เมื่อเปลี่ยนรูปแบบการบริหารแล้วคนที่ไปได้ไกลคือพวกเถ้าแก่
ด้วยการมีเทคโนโลยีของต่างชาติและในเรื่องของค่าจ้างที่ดีขึ้นจากบริษัทที่เป็นเอกชนแล้ว มันก็ทำให้เซกเตอร์นั้นเติบโตขึ้นในขณะที่เซกเตอร์เดิมยังอยู่ที่เดิม
เช่น บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในรัสเซียเวลานี้ คือบริษัทที่มาจากบ้านเกิดของปูติน คือ Gazprom ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ย้อนไปปี 2003 หุ้นของ Gazprom สูงกว่าหุ้นของ Apple inc ประมาณ 5 เท่า แต่ในปี 2022 หุ้นของ Apple inc สูงกว่า Gazprom 25 เท่า
เพราะว่าเซกเตอร์ของ Gazprom ยังอยู่ที่เดิม ในขณะที่เชกเตอร์ของ Apple inc เปลี่ยนไป
Gazprom
บทเรียนจากการหยุดพัฒนาด้านเทคโนโลยีในรัสเซีย
ไม่มีแรงกระตุ้นจากคนที่กำลังไต่เต้าทางสังคม
เพราะรัฐบาลเชื่อในแบบเดิมและรัสเซียเองไม่เคยแสดงออกว่าอยากจะเป็นเศรษฐกิจเบอร์ต้นๆ ของโลก รัสเซียยังคงเชื่อเรื่องแสงยานุภาพมากกว่า หรือพูดได้ว่าโครงสร้างทางเศรษฐกิจของรัสเซียถูกแช่แข็งตั้งแต่หลังแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
อะไรคือความแตกต่างของรัสเซียและจีน
คุณภาพชีวิตของประชาชน
เติ้งเสี่ยวผิง
ไม่ว่าแมวมันจะเป็นสีอะไรมันจับหนูได้ หนู = คุณภาพชีวิตของประชาชน
อะไรคือพื้นฐานที่ประชาชนต้องมี ?
เติ้งเสี่ยวผิงเดินทางไปประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโป เพื่อพบกับลี กวนยู ว่าทำอย่างไรให้คนทั้งประเทศมีชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร สิ่งที่เติ้งเสี่ยวผิงคิดคือ Urbanization คือการขยายเมืองเพื่อที่จะไม่ทำให้คนมากระจุกตัวอยู่ที่เดียวกัน และตัดถนน มีรถยนต์ มีรถไฟ
ลีกวนยู คิดถึงเป็นสิ่งแรกๆเลย คือคนบนเกาะต้องมีบ้าน
แต่รัสเซียมีนิยามที่ต่างออกไป อาจจะไม่ได้เห็นเรื่องคุณภาพชีวิตสำคัญกว่าแสงยานุภาพ วันที่มิคาอิล ลงจากต่ำแหน่งมีคนถามมิคาอิลว่า รัฐบุรุษสำหรับมิคาอิลมีความหมายว่าอะไร และแตกต่างจากนักการเมืองอย่างไร
รัฐบุรุษคิดถึงอนาคต แต่นักการเมืองคิดถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป
มิคาอิล
ลี กวน ยู
ทำไมคุณภาพชีวิตจึงสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจ
ระบบในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป พลเมือง คือบุคคลที่มีคุณภาพเพียงพอที่จะมีพละกำลังให้กับประเทศ
จีนอาจจะคิดว่าพัฒนาโดยพรรคคอมมิวนิสต์อาจจะไม่สามารถที่ก้าวกระโดดไปได้ไกล จึงต้องให้คนทุกคนมาร่วมกันพัฒนาประเทศไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นเลยมีการกระจายเรื่องต่างๆ
แต่รัสเซียอาจจะมองว่า GDP โตแล้ว ประเทศทันสมัยแล้ว บวกกับเรื่องสถานะภาพทางการเมืองที่อยากให้มันสมูท ทำให้รัสเซียไม่เห็นเซกเตอร์ของการเปลี่ยนแปลงที่จะไปเป็นผู้นำเศรษฐกิจ
โฆษณา