5 ก.ย. 2022 เวลา 04:13 • ปรัชญา
"เรามีความสุขอยู่จริง ๆ รึเปล่า หรือความจริงแล้วเรากำลังสะกดตัวเองอยู่?"
เชื่อว่าเดี๋ยวนี้หลาย ๆ คนคงได้ยินเรื่อง "กฎแรงดึงดูด" หรือ Law of attraction (ไม่ใช่กฎฟิสิกส์ของนิวตันนะ) ที่ว่ากันว่าถ้าเราเป็นแบบไหนหรือมีความต้องการแบบไหน จะดึงดูดสิ่งที่เป็นเหมือนกับเราหรือเป็นแบบที่เราต้องการเข้ามาหา ซึ่งเอาจริง ๆ กฎนี้มีที่สนใจและเอาไปใช้กันเยอะมาก และแน่นอน สิ่งที่หลาย ๆ คนต้องการมากที่สุดก็คือความสุข เขาเหล่านั้นจึงพยายามจะดึงดูดให้ความสุขเข้ามาหาตัวด้วยการทำให้ตัวเองมีความสุข หรืออย่างน้อยก็แสดงออกว่าตัวเองมีความสุข
ซึ่งการพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขนั้นมันก็เป็นเหมือนดาบสองคมนะครับ มันอาจจะทำให้เรารู้สึกดี และดึงดูดสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเข้ามาหาเราได้ตามที่ทฤษฏีว่า แต่ถ้าเราพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขทั้งที่ความจริงข้างในมันไม่ใช่ มันจะเกิดภาวะที่เรียกว่า "Toxic Positivity" ซึ่งผมขอเรียกเป็นภาษาไทยเองว่า "ภาวะมองบวกเป็นพิษ"
ถ้าสมมุติเราไปวิ่งมาแล้วเกิดกล้ามเนื้ออักเสบ ทางที่ดีที่สุดควรไปหาหมอรักษาหรืออย่างน้อยก็ควรกินยา แต่ถ้าเรา "คิด" ไปเองว่าอาการปวดที่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวสักพักก็คงหาย แล้ววันต่อมาก็ออกไปวิ่งต่อ ใจเราอาจจะคิดว่าไม่เป็นไรแต่อาการกล้ามเนื้ออักเสบนั้นไม่ได้หายไปได้เอง มันอาจจะมีอาการมากขึ้นหรืออาจจะส่งผลเรื้อรังในอนาคตได้
Toxic Positivity ก็มีลักษณะคล้าย ๆ กันนี่แหละครับ ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดก็คือ เราอยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกวางตลาดมาก แต่เรามีเงินไม่พอ เราก็เลยตัดสินใจรูดบัตรเครดิตเพราะเราคิดว่า "เดี๋ยวถึงวันเงินเดือนออก เราก็มีเงินมาปิดตรงนี้เอง" ซึ่งถ้าคิดแบบนี้สะสมบ่อย ๆ เข้า หนี้บัตรเครดิตก็จะพอกพูนจนสุดท้ายเราก็จ่ายไม่ไหวไปเอง
ที่นี้ เราจะรู้ได้ยังไงว่า เรากำลังมีความสุขกับชีวิตจริง ๆ หรือเรากำลัง "พยายาม" ที่จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นว่าเราก็มีความสุขอยู่นะ มันมีข้อสังเกตุง่าย ๆ แบบนี้ครับ
1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย - คนที่มีความสุขไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องมีอารมณ์ดีตลอดเวลานะครับ ในแต่ละวันเราก็มีโอกาสเจอทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่ ดังนั้น บางช่วงเวลาเราก็อาจจะมีช่วงที่เศร้า โกรธ หรือทุกข์ได้บ้างเหมือนกัน แต่หากเป็นคนที่มีความสุขอยู่จริง ๆ เขาจะสามารถรับมือกับอารมณ์ที่ไม่ดีเหล่านั้นได้ดี และกลับสู่ภาวะปกติได้ค่อนข้างเร็ว
ในขณะที่คนที่ "พยายาม" ทำให้ตัวเองมีความสุขนั้น พื้นฐานอารมณ์เขาจะไม่ได้ดีเป็นทุนอยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้ามีเรื่องไม่ดีอะไรมากระทบจิตใจเขา มันจะส่งผลกับเขาค่อนข้างมาก และเขามักจะกลับมาสู่ภาวะอารมณ์ปกติไม่ได้ง่าย ๆ เช่น คนที่ออกบ้านมาด้วยอารมณ์แจ่มใสแต่กลับอารมณ์เสียไปทั้งวันเพราะโดนรถคันหนึ่งปาดหน้าก่อนมาถึงที่ทำงาน หรือผู้หญิงคนหนึ่งที่นอยด์ไปทั้งวันเพราะชุดใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมาใส่ดันมีเพื่อนร่วมงานอีกคนใส่มาซ้ำกัน
2. มีความรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา - ความเหนื่อยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ เมื่อไหร่ที่เราต้องเจอกับความยากลำบากหรืออะไรก็ตามที่เรารู้สึกว่ามันเป็นภาระที่เราต้องแบก เราก็จะรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเป็นธรรมดา แต่สำหรับคนที่มีความสุขกับชีวิตอยู่จริง ๆ นั้น เขาจะสามารถละทิ้งความเหนื่อยที่เขามีนั้นไปได้ อาจจะปลีกตัวไปทำกิจกรรมที่เขาชอบ หรือไปใช้เวลากับคนที่เขารัก ซึ่งนั้นเป็นวิธีที่คนที่มีความสุขจริง ๆ ใช้เพื่อเติมพลังก่อนที่จะมารับมือกับภาระที่เขามีอยู่ต่อไปได้
แต่สำหรับคนที่พยายามจะมีความสุขนั้น เขาจะไม่สามารถสลัดความเหนื่อยนั้นออกไปได้เลย มันจะยังฝังอยู่ในใจของเขาแทบจะตลอดเวลาจนมันไปรบกวนเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตของเขาไปหมด ต่อให้เขาแสดงออกว่าเขากำลังโอเคอยู่แต่ในใจเขาจะรู้สึกว่าชีวิตของเขามันช่างเหน็ดเหนือยเหลือเกิน ซึ่งการที่ความเหน็ดเหนื่อยนั้นสะสมอยู่ในใจเรื่อย ๆ มันอาจพัฒนาไปเป็นภาวะทางจิตบางอย่างในอนาคตได้ เช่น ภาวะวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า
3. มีความรู้สึกว่าต้องพยายามเพื่อที่จะให้คนอื่นเห็นว่ามีความสุข - ถ้าเป็นคนที่มีความสุขอยู่จริง ๆ เขาแทบจะไม่ต้องพยายามอะไรเลย เวลาเรามองไปที่เขาเหล่านั้นเราจะรับรู้ได้เลยว่าเขากำลังมีความสุขอยู่จริง ๆ และทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมามันจะเป็นธรรมชาติมาก ๆ เพราะสิ่งที่เขาเป็นอยู่นั้นมันออกมาจากใจของเขาจริง ๆ
ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่ได้มีความสุขแต่พยายามจะทำให้คนอื่นเห็นว่าเขามีความสุขนั้น เขาจะต้องดิ้นรนอย่างมากในการพยายามแสดงออกให้คนอื่นเห็นว่า เขามีชีวิตที่ดีและมีความสุขนะ เช่น พยายามอัพสตอรีว่าวันนี้ไปร้านอาหารที่กำลังดังมา โพสต์ลงโซเชียลบ่อย ๆ ว่าชีวิตเขาช่างมีความสุขไม่แพ้ใคร ฯลฯ ซึ่งถ้ายิ่งบ่อยก็แสดงว่าเขากำลังพยายามอยู่
4. ยินดีที่จะอยู่คนเดียว - ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว เราจำเป็นที่ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมเพื่อเติมเต็มสิ่งอื่น ๆ ในชีวิต คนที่มีความสุขในชีวิตเขาจะเข้าใจตรงนี้ และยินดีที่จะเปิดรับมิตรภาพใหม่ ๆ หรือรักษาความสัมพันธ์กับคนที่จริง ๆ เขาก็รู้ว่าไม่ได้ชอบเขานั่นเพราะเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งมันอาจจะกระทบถึงตัวเขาได้ เราจึงมักจะเห็นว่าคนที่มีความสุขมักจะเป็นคนที่ Friendly กว่าคนอื่น ๆ
แต่กับกลุ่มที่พยายามจะแสดงออกว่ามีความสุข เขามักจะเชื่อว่าความสุขสร้างได้ด้วยตัวเองและจะค่อยข้างสงวน Comfort Zone ของตัวเองมาก ๆ เขาพึงพอใจกับจำนวนเพื่อนและคนที่รู้จักที่เขามีอยู่ตอนนี้แล้ว และไม่อยากเปิดรับคนใหม่ ๆ ให้เข้ามาในชีวิตเท่าไหร่ ถ้าเรารู้สึกว่า การยิ้มกลับให้กับคนแปลกหน้าที่บังเอิญเดินสวนกันเป็นเรื่องที่ยากมาก หรือการตัดสัมพันธ์กับเพื่อนที่รู้จักกันมาหลายปีได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะเขามีแนวคิดในบางเรื่องที่ไม่ตรงกับเรา บางทีลึก ๆ แล้วเราอาจไม่ได้มีความสุขอยู่จริง ๆ หรอก
5. ยังต้องอาศัยตัวช่วยจากภายนอก - ความสุขที่แท้จริงนั้นมันอยู่ภายในใจเรา ถ้าใจของเรามีความสุขแล้วเราจะสามารถมองหาสิ่งที่สร้างความสุขได้ง่าย ๆ แม้แต่ในสถานการณ์ที่ดูแล้วไม่ค่อยน่าอภิรมณ์เท่าไหร่ นี่คือคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่คนที่มีความสุขจริง ๆ เป็น
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า ต้องใช้ตัวช่วยจากภายนอกถึงจะทำให้เรามีความสุขได้ เช่น สุรา ยาเสพติด หรือสิ่งที่เป็นนามธรรมแต่เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะบันดาลความสุขได้ เช่น โชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ แบบนี้แสดงว่า ใจของเราไม่สามารถมองหาความสุขได้ด้วยตัวเอง นั่นก็คือลึก ๆ แล้วเราไม่ได้มีความสุขนั่นแหละ ยิ่งเราต้องอาศัยตัวช่วยจากภายนอกบ่อยเท่าไหร่ ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเราไม่มีความสุขมากเท่านั้น
อันนี้เขียนขึ้นจากการอ่านมาหลายที่นะครับ ไม่รู้จะอ้างอิงใครที่ไหนดี
ขอให้ทุกได้เจอ "ความสุขที่แท้จริง" ของตัวเองกันนะครับ
โฆษณา