6 ก.ย. 2022 เวลา 02:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เจาะไตรมาส 3 หุ้น “กลุ่มซีพี” กูรูชี้แนวโน้มยังเป็นบวกต่อเนื่อง
ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 เป็นช่วงที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าธุรกิจที่พึ่งพิงกำลังซื้อภายในประเทศจะได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเมืองและการท่องเที่ยว ซึ่งหุ้นกลุ่มซีพี เป็นหนึ่งในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะเห็นแนวโน้มการบริโภคและใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน วันนี้ Wealthy Thai จึงได้รวบรวมแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 ของหุ้นกลุ่มซีพี ทั้ง CPALL CPF MAKRO และ TRUE มาฝากนักลงทุน
สำหรับ CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/65 ยังคาดว่า SSSG ยังเป็นบวก ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากฐานต่ำ สาเหตุจากไตรมาส 3/64 เป็นช่วงฐานต่ำ ถึงแม้ว่าบริษัทจะมี Lockdown เกิดจากการแพร่ระบาด Covid-19 ทำให้มี SSSG -9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ยอดขายต่อบิลทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 84 บาท
1
แต่จำนวนลูกค้าเข้าร้านกลับเพิ่มขึ้นเป็น 918 คนต่อวัน จาก 871 คนต่อวัน ในไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดแนวโน้มในครึ่งหลังของปี 65 จะยังเห็นการเติบโตของยอดขายต่อบิลและจำนวนลูกค้าเข้าร้านต่อคนต่อวันได้ ขณะที่ CPALL คงแผนขยายสาขาเพิ่ม ปัจจุบันมีสาขา 7-eleven จำนวน 13,433 สาขา ในครึ่งแรกของปี 65 บริษัทเปิดสาขาใหม่ 299 สาขา คิดเป็น 43% ของเป้าทั้งปีที่ 700 สาขา แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดเห็น การพลิกฟื้นที่ชัดเจนในไตรมาส 4/65 แนะนำ ซื้อ ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ 75 บาท
CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 3/65 จะปรับเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาส 2/65 และไตรมาส 3/64 จากแนวโน้มราคาไก่และหมูในไทยและจีนปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเห็นสัญญาณบวกจากราคาหมูในจีน เฉลี่ยตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส 3/65 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 45% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 50% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนมาอยู่ที่ที่ 22.1 หยวนต่อกก. (116 บาทต่อกก.)
ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 14 เดือน จากการทยอยคลาย lock down ในจีน และรัฐบาลจีนมีการสต็อคหมูเข้าสินค้าคงคลังมากขึ้นชั่วคราว นอกจากนี้ ยังเป็นช่วง High season ของการส่งออกไก่และกุ้งสู่ต่างประเทศ แนะนำ ซื้อ รับการฟื้นตัวของธุรกิจในปี 65 ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท
MAKRO หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/65 ของ MAKRO จะเติบโตจากไตรมาส 3/64 โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจ B2B และธุรกิจ B2C ที่ดีขึ้น (SSS) เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลางถึงสูง และประโยชน์จากการผนึกกำลังทางธุรกิจ (ตั้งเป้าไว้ที่ 2.7 พันลบ. ในช่วงครึ่งหลังปี 65-66)
และเติบโตจากไตรมาส 2/65 จากปัจจัยฤดูกาล หากการรีไฟแนนซ์หนี้เงินกู้สกุลดอลลาร์สูหรัฐเป็นหุ้นกู้สกุลบาทแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ MAKRO จะบันทีกค่าใช้จ่ายในการชำระหนีคืนก่อนกำหนดที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่จะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นในระยะถัดไป ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ MAKRO ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 65อ้างอิงวิธี DCF ที่ 43 บาท
และสุดท้าย TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แม้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลประกอบการปกติของบริษัทในไตรมาส 3/65 จะยังขาดทุน แต่น่าจะมี แนวโน้มที่ดีขึ้น โดยจะเป็นการขาดทุนในจำนวนที่น้อยลง หลังเริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาเพิ่มจากกำลังซื้อที่เริ่มดูดีขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดจะทำให้ส่งเสริมการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้บริการมือถือ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยพยุง ARPU ไม่ให้ ลดลงแรง แม้การแข่งขันยังรุนแรง
ทั้งนี้คาดหวังการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่องไปในไตรมาส 4/65 เพราะจะได้แรงหนุนจากผลบวกของฤดูกาล โดยในไตรมาส 4 ของทุกปี จะมีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นทั้งยอดขายมือถือและลูกค้าใหม่ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ หากสามารถควบรวมกับ DTAC ได้ จะช่วยเสริมศักยภาพในการทำกำไรให้ดีขึ้น และมีฐานะการเงินที่เข้มแข็งขึ้น ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ยังให้น้ำหนักว่าการควบรวมจะเกิดขึ้นได้ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 5.70 บาท
โฆษณา