6 ก.ย. 2022 เวลา 18:18 • นิยาย เรื่องสั้น
แม่รู้ว่ามันสวย น่ารักฟรุ้งฟริ้ง
ซื้อได้บ้างแต่อย่าซื้อเยอะแยะ ของพวกนี้ใส่ไม่กี่ทีก็เป็นขยะ เก็บเงินไว้ซื้อเครื่องประดับทองแท้จะดีกว่าเผื่อฉุกเฉินจะได้แปรรูปได้ เราไม่ได้มีฐานะดีขนาดที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยนะลูก
ฉันรู้สึกขัดใจกับแม่นัก ของราคาแค่40-50บาทก็ซื้อไม่ได้จะงกไปถึงไหน คนเราก็อยากแต่งตัวสวยบ้างจริงไหม แต่ก็ได้แต่หน้างอไม่พอใจ ไม่กล้าเถียงแม่เพราะความงกของแม่นี่หล่ะที่ทำให้ฉันได้เรียนต่อในร.ร.ประจำอำเภอ ได้ไปเข้าค่าย ไปทัศนศึกษา อย่างที่เด็กที่ครอบครัวเค้ามีฐานะได้ไปกัน ทั้งที่บ้านฉันนั้นเข้าข่าย ยากจนเลยทีเดียว เพื่อนหลายคนเลือกเรียนร.ร.ใกล้ๆบ้านเพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่าร.ร.ในอำเภอมาก ทำให้สมัยนั้นฉันดูโก้มากเลยที่ได้เรียนในร.ร.ประจำอำเภอ
ฉันถูกเลี้ยงถูกสอนมาแบบลูกคนจน
ขยัน ประหยัด อดทน
แต่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับลูกคนฐานะกลางๆจนภึงฐานะดีได้เพราะการจัดการวางแผนชีวิตของแม่
หลายครั้งรู้สึกแย่และน้อยเนื้อต่ำใจทำไมไม่รวยบ้างวะ จะได้ซื้อเครื่องประดับดีๆเสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่ต้องทำงานพิเศษ ในขณะที่เพื่อนที่มีฐานะดีกลับบอกว่า คนมีฐานะก็ไม่ใช่จะได้ซื้ออะไรได้ตามอำเภอใจหรอกนะ แต่ฉันว่าเป็นคนรวยยังไงมันก็ดีกว่าไง
ระหว่างเดินทางกลับจากร.ร.
ฉันจะหยุดยืนมองดูตุ้กตาที่อยู่ในตู้โชว์
มองผ่านกระจกไปชื่นชมความน่ารักของเธอ ตุ้กตาฝรั่งไขลานมีเสียงดนตรีแสนไพเราะ
ฉันชื่นชมมันผ่านสายตาอย่างมีความสุข
และหวังว่าสักวันจะต้องได้มันมาครอบครอง
ไม่ต้องถามนะแม่ไม่มีวันซื้อให้ฉันแน่
ลื้อชอบมากเลยสิ่เนี่ยเห็นมายืนดูทุกวันเลย
ฉันหันไปยิ้มให้โกเจ้าของร้าน
อยากได้ไหม
หัวใจฉันพองโตพยักหน้าอย่างดีใจ
แต่ลื้อต้องเข้าใจนะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
ถ้าลื้ออยากได้จริงๆนะ
โกยื่นตุ้กตาออมสินรูปหมูขนาดกลางให้ฉันพลางพูดต่อว่า
ลื้อเอาเหรียญ10ใส่ให้เต็มหมูทองนี่
ถ้าเต็มแล้ว มารับตุ้กตาตัวนี้ไปได้เลย!
ฉันได้ยินแต่คำว่า #เต็มแล้วมารับไปได้เลย
จึงรีบรับหมูออมสินกลับมาบ้านด้วยความดีใจ
หลังจากนั้นทุกวันฉันรีบกลับบ้านแล้วช่วยแม่ขายขนมเพื่อขอเงินหยอดวันละ10บาท
ทุกวัน ทุกวัน เป็นปี จนมันเต็มแล้ว
จึงรีบอุ้มหมูไปหาอาโกเจ้าของร้าน
แต่..ร้านตุ้กตา...ไม่อยู่แล้ว ....
เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน
พาให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
มีเพียงฉันที่ยังเก็บเจ้าหมูทองนี้ไว้
รอวันที่อาโกจะพาตุ้กตาตัวนั้นกลับมา
ฉันยังคงเดินทางชีวิตแบบที่แม่สอน
แม้ว่าแม่จะไม่อยู่แล้ว
แต่ชีวิตฉันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ยังคงต้องตื่นเช้าทำงานทำมาหากิน
และยังไม่รวยอย่างที่อยากรวย
ช่วงเวลาชีวิตผันผ่านมาหลายปี
เราต้องเจอกับสถานการณ์วิกฤตหลากหลายในชีวิตทั้งพิษเศรษฐกิจและโควิด
วันหนึ่งขณะที่ฉันต้องพึ่งพา
สถานธนานุบาลของรัฐ ฉันยืนมองผ่านกระจกเข้าไป หัวใจยังนึกถึงตุ้กตาไขลานตัวนั้น ทำให้เผลอมองอยู่ครู่หนึ่ง จนตอนเดินเข้าไม่ทันระวังชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตา แต่งตัวดูดี
แบบภูมิฐาน ฉันรีบขอโทษเขา
ระหว่างที่รอเรียกชายคนนั้นถูกเรียกก่อน
เค้าถอดนาฬิกาหรูจำนำ เจ้าหน้าที่บอกว่า 500ค่ะ ชายคนนั้นเปิดกระเป๋าแล้วหยิบโน้ตบุ้คเครื่องหรูหราใหม่กริ๊บออกมา เจ้าหน้าที่บอก 1,000บาท ชายคนนั้น ขอ2,000ได้ไหม คิดดอกเพิ่มก็ได้ เจ้าหน้าที่บอกรุ่นใหม่ยังได้แค่1,500เอง ชายคนนั้นคงรู้สึกแย่เขาปฏิเสธคือไม่จำนำ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเก็บของเจ้าหน้าที่เรียกชื่อฉัน3,000บาท ชายหนุ่มหันมามองฉัน ฉันเผลอสบตาเค้าแว่บหนึ่ง เค้ามองเจ้าหน้าที่นับเงินให้ฉันแล้วหยิบแหวนทองวงเล็กๆใส่กล่อง เขาหันมองฉันแว่บนึงก่อนเดินจากไป
ฉันรู้สึกเศร้าและเข้าใจความรู้สึกของเขาเลยนะ เขาคงจำเป็นที่จะใช้เงินจำนวนนั้น และเค้าคงคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่เค้ามีทำไมกลายเป็นของที่ด้อยค่ากว่าของชิ้นเล็กๆเพียงชิ้นเดียว ในสถานที่แห่งนี้ ฉันเดินออกจากสถาธนานุบาลอย่างหดหู่ แต่อยู่ๆก็คิดถึงคำสอนของแม่ ถือเป็นโชคดีแท้ๆที่ฉันทำตามที่แม่สอนมาตลอดทำให้วันนี้ฉันรอดจากความลำบากเพราะฉันเก็บเป็นเครื่องประดับทองคำชิ้นเล็กๆไว้หลายชิ้น ไม่ซื้อสร้อยมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งอย่างที่ใจชอบ
ฉันหันกลับไปมองผ่านกระจกสถานธนานุบาล ภาพรอยยิ้มจางๆของอาโกและตุ้กตาฝรั่ง ผุดขึ้นมาลางๆหลังกระจก ชายหนุ่มกับนาฬิกาและโน้ตบุ้คของเขา ผ่านเข้ามาทำให้คำสอนของแม่มีความหมายมากกว่าที่เป็น
เครื่องประดับมุ้งมิ้งกับความจริงในชีวิต
โฆษณา