8 ก.ย. 2022 เวลา 03:17 • ไอที & แก็ดเจ็ต
#ZZTnews เปิดราคาไทย #iPhone14Series ปรับเปลี่ยนติ่งเป็นการแสดงผล Dynamic Island เปิดพรีออเดอร์ 9 กันยายนนี้
สิ้นสุดการรอคอยแล้วกับ iPhone 14 Series ที่มาคราวนี้เปิดตัวปุ๊บ ก็พร้อมเปิดพรีออเดอร์ และวางจำหน่ายเร็วที่สุดเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพราะทาง Apple ขยับให้ไทยเราขึ้นมาเป็น Tier 1 หรือกลุ่มประเทศแรกที่จะวางจำหน่ายนั่นเอง โดยจะเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 9 กันยายนนี้ และจะวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายนนี้นั่นเอง
ราคา iPhone 14
- ความจุ 128GB ราคา 32,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 36,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 45,900 บาท
ราคา iPhone 14 Plus
- ความจุ 128GB ราคา 37,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 41,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
ราคา iPhone 14 Pro
- ความจุ 128GB ราคา 41,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 45,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 63,900 บาท
ราคา iPhone 14 Pro Max
- ความจุ 128GB ราคา 44,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 48,900 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 57,900 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 66,900 บาท
*พรีออเดอร์ในวันที่ 9 กันยายนนี้ และจะวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายนนี้
iPhone 14 I 14 Plus
- โดยในปีนี้มีการตัดเอารุ่น mini ออก และใส่ iPhone 14 Plus เข้ามาแทนที่ เอาใจคนที่ชอบใช้งานขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง การดีไซน์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆไปจาก iPhone 13 ทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอ OLED Super Retina XDR รองรับ HDR และ Dolby Vision กระจกหน้าจอ Ceramic Shield ขนาดหน้าจอจะแตกต่างกัน โดยมีขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ
- ชิปเซตใช้ Apple A15 Bionic ที่สถาปัตยกรรม 5nm ตัวที่เคยอยู่ใน iPhone 13 Pro แรงเหลือๆแน่นอนอยู่แล้ว
- กล้องหลังให้มาทั้งหมด 2 ตัว 12MP + 12MP เลนส์หลักและเลนส์ Ultra Wide โดยมาพร้อม Photonic Engine การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้น เซ็นเซอร์และพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น รองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K@60fps ถ่าย HDR แบบ Dolby Vision ตั้งแต่ต้นจนจบ Action Mode ควบคุมการสั่นได้ดีขึ้น วิดีโอดูสมูทมากขึ้น กล้องหน้าก็ให้ความละเอียดมาที่ 12MP TrueDepth พร้อมฟีเจอร์ Auto Focus
- แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้นเค้าว่ามาอย่างนั้น
- รองรับการกันน้ำมาตรฐาน IP68
- ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos, Spatial Audio
- Wi‑Fi 6 Bluetooth 5.3
- ฟีเจอร์ Crash Detection ตรวจจับรถชนหากเกิดอุบัติเหตุ จะโทรหาเบอร์ฉุกเฉินให้
- รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม SoS via Sattelite
- มีทั้งหมด 5 สี สีดำ สีขาว สีแดง สีฟ้า(ใหม่) สีม่วง(ใหม่)
iPhone 14 Pro I 14 Pro Max
- ที่ต้องพูดถึง และเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจที่สุดก็คือหน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic Island ที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนมาใช้หน้าจอเจาะรูบนหน้าจอเหมือนมือถือแบรนด์อื่น โดย Dynamic Island สามารถแสดงผลในรูปแบบต่างๆได้ สามารถ ยืด หด ขยาย ตามข้อมูล ต่าง ๆ เช่น การแสดงเปอร์เซ็นแบตเตอรี่, แสดงการเล่นเพลง, การใช้งานแผนที่ ,การจับเวลา การรับสายโทรศัพท์ เป็นต้น ถือเป็นมิติใหม่ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
- ทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED Super Retina XDR ค่า Refresh Rate 120Hz รองรับ HDR และ Dolby Vision กระจกหน้าจอ Ceramic Shield พร้อมเทคโนโลยี ProMotion หรือก็คือ Always-on Display นั่นเอง โดยใช้ค่า Refresh Rate 1Hz เซฟแบตเตอรี่ไปในตัว ขนาดหน้าจอจะแตกต่างกัน โดยมีขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ
- ชิปเซตใช้ Apple A16 Bionic ที่สถาปัตยกรรม 4nm เคลมว่าการจัดการพลังงานทำได้ดีขึ้นเยอะทีเดียว
- กล้องหลังให้มาทั้งหมด 3 ตัว 48MP Main sensor-shift OIS + 12MP Tele 3x optical zoom OIS + 12MP UltraWide + TOF 3D LiDAR scanner รองรับการถ่าย ProRAW สำหรับมือโปรที่นำภาพไปแต่งเพิ่ม มาพร้อม Photonic Engine การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้น เซ็นเซอร์และพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น
รองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K@60fps 10-bit HDR, Dolby Vision HDR (up to 60fps), ProRes, Cinematic mode (4K@30fps), stereo sound rec. Action Mode ควบคุมการสั่นได้ดีขึ้น วิดีโอดูสมูทมากขึ้น กล้องหน้าก็ให้ความละเอียดมาที่ 12MP TrueDepth พร้อมฟีเจอร์ Auto Focus
- แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้นเค้าว่ามาอย่างนั้น
- รองรับการกันน้ำมาตรฐาน IP68
- ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos, Spatial Audio
- Wi‑Fi 6 Bluetooth 5.3
- ฟีเจอร์ Crash Detection ตรวจจับรถชนหากเกิดอุบัติเหตุ จะโทรหาเบอร์ฉุกเฉินให้
- รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม SoS via Sattelite
- มีทั้งหมด 4 สี สีดำ สีทอง สีเงิน สีม่วงเข้ม
By : Laboony
โฆษณา