อีวีจากค่ายญี่ปุ่น ตกขบวนหรือยังไม่ถึงเวลา?
วันนี้มีประเด็นที่น่าสนใจ ที่ยังคงไม่พ้นเรื่องรถอีวี แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบรรยากาศในตลาดรถอีวีเมืองไทย ที่ดูเหมือนจะคึกคัก ดูเหมือนจะมีความสดใหม่ และดูเหมือนจะแตกต่างไปจากความเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของตลาดรถยนต์ที่ผ่านมา
ที่ว่าแตกต่าง ก็หมายถึงผู้เล่นรายเดิมๆ ที่เคยเป็นผู้นำ กลับทำตัวนิ่งสนิท จนถูกมองว่าเชื่องช้า ปล่อยให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาสร้างสีสัน จนลูกค้าจิตอ่อนพากันคิดไปว่าแบรนด์เก่าแก่ทั้งหลายกลายเป็นผู้ตามในเรื่องของเทคโนโลยีไปเลย😁
พูดตรงๆ คือ ในตลาดโลก ญี่ปุ่นเองแท้ๆ ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถอีวีและไฮบริด มีสินค้าให้เลือกมากมาย ครอบคลุมเกือบทุกเซกเมนต์ รวมถึงแบรนด์ยุโรปและอเมริกันเองก็ทยอยหันมาลุยพลังงานทางเลือกแบบเต็มตัว ซึ่งบรรยากาศเหล่านี้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดในประเทศไทย จนมีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ไฉนจึงปล่อยให้รถอีวีจากจีนเข้ามาขายกันอย่างสนุกสนานปานนี้⁉️
และบังเอิญที่คุณหมอไปอ่านเจอในเพจ Thailand Development Report ที่เขียนถึงความเคลื่อนไหวของอีวีในไทย มีภาพประกอบให้ดูด้วย เป็นภาพจากเพจดังกล่าวนะครับ ดูแล้วจะพอเห็นภาพว่า ทั้งญี่ปุ่นและยุโรปเหมือนจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่ต้วมเตี้ยมไปหน่อย แน่นอนว่าบรรดายักษ์เหล่านี้ มีเหตุผลที่ยังไม่ทำอะไรผลีผลามตอนนี้
ที่ผ่านมาเรื่องเทคโนโลยีด้านยานยนต์จากฝั่งเอเชีย ญี่ปุ่นไม่เคยเป็นรองใคร ทั้งแง่ความทันสมัยและเชื่อใจได้ ปรัชญาของญี่ปุ่นคือความรับผิดชอบต่อสังคม หมายถึงทำอะไรออกมาแล้วคนซื้อไปใช้ต้องไม่ปวดหัว ไม่มีปัญหาจุกจิก ซึ่งผู้ผลิตฝั่งญี่ปุ่นก็ได้ภาพลักษณ์นี้ติดตัวมาตลอด ไม่ว่าขาย ณ ส่วนใดของโลก ฝรั่งเองถ้าจะเลือกซื้อรถญี่ปุ่น ก็ด้วยเหตุใดเรื่องความทนทานที่ล่ะ👍
แต่เหตุใดป่านนี้เรายังไม่ค่อยเห็นรถอีวีแท้ๆ จากแบรนด์ญี่ปุ่นขยับตัวกันเลย สาเหตุหลักก็คือความไม่พร้อมทั้งหลาย เริ่มตั้งแต่ไม่พร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องรองรับผู้ใช้งานรถอีวีได้จริง ไม่ใช่ทำแบบขอไปที ต่อมาคือไม่พร้อมเรื่องการลงทุน จะเห็นว่าแรงจูงใจในการลงทุนผลิตและจำหน่ายรถอีวีในบ้านเรา ยังเน้นเอาใจจีนแบบออกนอกหน้า และเป็นปกติที่รัฐบาลจะไม่ให้สิทธิพิเศษใดๆ กับใครถ้าไม่ได้ผลประโยชน์กลับมา อีกทั้งธุรกิจน้ำมันก็ยังเป็นรายได้หลัก💰
ถ้าดูจากภาพประกอบ โตโยต้าเองน่าจะใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แต่ก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี เพราะรถอีวีรุ่นแรกของตนเพิ่งสะดุดขาตัวเองล้มไม่เป็นท่า ใครที่ตามข่าวน่าจะพอทราบว่า ในต่างประเทศโตโยต้ารุ่น bZ4X กำลังมีการเรียกคืนครั้งใหญ่ ถึงขนาดรับซื้อคืนจากลูกค้ากันเลย เพราะเจอปัญหาที่อาจทำให้ "ล้อหลุด" ขณะขับขี่ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ เรื่องนี้น่าจะทำให้ต้องมีการปรับปรุงกันใหม่หมด ไม่รู้ว่าแผนเปิดตัวในไทยจะถูกเลื่อนออกไปด้วยหรือเปล่า
ส่วนแบรนด์อื่นก็เร่งศึกษาปัจจัยต่างๆ อย่างเข้มข้น การทำตลาดแบบตีหัวเข้าบ้านไม่ใช่นิสัยคนญี่ปุ่น บวกกับสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนตอนนี้ ยิ่งทำให้ทุกอย่างช้าออกไปอีก ลำพังเร่งส่งมอบรถอีวีในบ้านเกิดตัวเองยังเหนื่อยเลยครับ🚗🚙
มุมมองของผู้บริหารค่ายญี่ปุ่น หากจะเข้ามาลุยตลาดรถอีวีในไทยจริงๆ แปลว่าตนมีความพร้อม ตลาดพร้อม และพร้อมทั้งระบบจริงๆ ไม่ใช่มาเพราะแห่ตามแบรนด์จีนเข้ามา เพราะญี่ปุ่นมองแล้วว่า กระแสรถอีวีราคาถูกในไทยตอนนี้ "มันไม่ยั่งยืน" และ "ไม่ใช่ของจริงให้ต้องวิ่งตาม"
ส่วนแบรนด์รถอีวีเกิดใหม่ที่เราเห็นมีตัวแทนจำหน่ายผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดก็ไม่ใช่อะไร หลายที่ก็เป็นพวกที่หลุดจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถญี่ปุ่นหลายๆ แบรนด์ เห็นว่าของใหม่น่าจะหาเงินง่าย ขายง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะ ก็เลยเปลี่ยนใจมาสมัครเป็นตัวแทนขายรถอีวีแบรนด์ใหม่ๆ อีกอย่างก็เพราะเจ้าของแบรนด์รายใหม่มักไม่เรื่องเยอะ ในเรื่องมาตรฐานดีลเลอร์ ขอแค่มีหน้าร้าน มีพื้นที่ศูนย์บริการให้เห็น ก็เอาโลโก้มาแขวนได้แล้ว😅
อย่างไรก็ตาม อนาคตรถอีวีต้องมาแน่ สุดท้ายเราก็ต้องเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากน้ำมันไปสู่พลังงานรูปแบบอื่น ช่วงนี้ยังเป็นแค่ลมที่พัดมาให้ฝุ่นตลบเล็กน้อย ใครรีบก็เชิญก่อนเลยครับ
ถ้าคิดว่าคลินิกนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์นะครับ ยิ่งมีคนอ่านมาก ก็มีความรู้มาก จะได้ลดการกระจายข้อมูลแบบปากต่อปากที่ผิดเพี้ยน
#mycarclinic
#เลือกรถที่ใช่
#เลือกรถอะไรดี
#เลือกรถไฟฟ้า
#เลือกรถไฮบริด
#ดูแลรถด้วยตัวเอง
#besmartdriver
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
