19 ส.ค. 2023 เวลา 01:52 • ไลฟ์สไตล์

เรื่องสั้นๆ: ผิดเล็กๆ ในใจสารภาพออกไปดีขึ้นเยอะเลย

สายฝนเริ่มโปรยปรายขณะที่สามชัยเร่งกรีดยาง
ให้แล้วเสร็จ ท่ามกลางความมืดมิดแข่งกับเวลาอยู่นั้น
พลันสายตาก็ไปเจอกับเจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวน้อยทำให้หวนคำนึงคิดถึงความทรงจำครั้งวัยเยาว์
ปี 2532
ณ ดินแดนชนบทห่างไกล
ไฟฟ้าไม่มา ประปาไม่มี ถนนหน้าแล้งมีแต่ฝุ่นสีแดงๆ
ตอนเด็กชีวิตสามชัยค่อนข้างจะผูกพันกับเจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์สายพันธุ์นี้อยู่ไม่น้อยในฐานะนักล่าและผู้ถูกล่า
กิ้งก่าหรือกะปอม
หากขาดพวกมันไปชีวิตของสามชัยวัยเยาว์กับเพื่อนๆ คงเหงาแย่
เสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ได้ไปไหน สามช้ยกับผองเพื่อนจะมานัดรวมพลกันที่บ้านไอ้เขียวหัวโจกอย่างพร้อมเพรียง
สามชัย เขียว แดง ช้าง เค โค่ จ่อย เจ๊ก รวมทั้งเด็กเล็กเด็กโตอีกหลายคน วิ่งตามกันมาเป็นพรวน
เขียวจัดได้ว่าเป็นพลแม่นหนังสติ๊ก ระดับ
พระกาฬฉายา เขียว จับวาง
เพื่อนๆ ต่างซูฮกยกนิ้วให้เขียวเป็นหัวหน้าแก๊งโดยไม่สนใจเรื่องอายุว่าใครอ่อนแก่ เพราะวัดกันที่ฝีมือ
กายพร้อมใจพร้อมเพื่อนพร้อม อาหารน้ำดื่ม ไปหาเอาข้างหน้า
ตะวันสายโด่งได้เวลาออกล่า
ตัวนี้ไม่ใช่กะท่างแต่เราเรียกกะปอมไหม
เขียวทำแต้มนำห่างเพื่อนๆ ไปไกล
หลายคนได้แต่มอง
เขียวสอยตัวแล้วตัวเล่าด้วยความอิจฉาของผองเพื่อน
มีเสียงค่อนแคะจากใครสักคนแว่วมา"มันคือยิงแม่นแท้วะ"
"กะท่างๆ ตัวใหญ่ๆ "เสียงเขียวโหวกเหวกโวยวาย
จับใจความได้ว่าเขียวยิงกิ้งก่าตัวใหญ่แต่เอาไม่อยู่ มันวิ่งหนีขึ้นไปบนยอดสะแกขนาดเด็ก 12 ขวบโอบหลวม สูงกว่าสิบเมตร
"เงียบๆ กูจะปีนขึ้นไปสอยมันลงมา พวกมึงดักรออยู่ข้างล่าง อย่ายิงขึ้นไปเดี๋ยวโดนกู"
เขียวสั่งลูกทีมเสร็จสรรพ แล้วค่อยๆ ปีนขึ้นไป
พวกเรายืนรออยู่ข้างล่างมองดูเขียวป่ายปีนอย่างคล่องแคล่วดุจจงอางเลื้อยเข้าหาเหยื่อ
ชั่วเวลาไม่นาน เขียวตะโกนลงมาว่า"เจอตัวแล้วกูจะสอยมันลงไป พวกมึงรอเก็บให้ด้วย"
สามชัยในฐานะที่อาวุโสสุดในแก๊ง จัดวางตำแหน่งการยืนให้ถูกต้องตามหลักยุทธวิธี เผื่อกรณีต้องยิงซ้ำเพราะกลัววิถีกระสุนอาจพลาดเป้าไปโดนใครสักคนซึ่งคงไม่เกิดผลดีแน่
หลายคนเข้าใจยินดีปฏิบัติตาม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เจอสถานการณ์ เด็กเล็กหลายคนได้แต่ยืนงงๆ
ไม่นานพวกเราได้ยินเสียงอะไรบางอย่างหล่นลงมาดังตุ้บ!
ไม่ใช่เขียวแน่นอน เพราะรายนั้นตีนเหนียวยังกะตุ๊กแก
ภาพที่พวกเราเห็นคือกิ้งก่าตัวใหญ่ ใหญ่มากๆ หายาก คิดว่าคงไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ไม่รู้มันอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร ขนาดลำตัวเท่าด้ามหนังสติ้ก ยาวเกือบศอกสีฟ้าเข้มสลับดำ
เหมือนกับว่ามันมีทีท่าจะวิ่งไปต่อ
วินาทีนั้นสามชัยอยู่ใกล้สุด กะท่างตัวนั้นอยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่ก้าว ด้วยสัญชาตญาณสามชัยปล่อยกระสุนออกไปโดยไม่ต้องเล็งให้เสียเวลา เพราะผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน
เสียงลูกหนังสติ้กแหวกอากาศดังเฟี้ยว!
กระสุนดินเหนียวแดดเดียวเดือนเมษา กระทบเป้าหมายเสียงดังตุุ้บ!
กระท่างที่ทุกคนเข้าใจว่าเขียวสอยลงมาก่อนหน้านั้นนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ใต้ต้นสะแก
ไม่มีใครยิงซ้ำเพราะเข้าใจสถานการณ์ เก็บกระสุนไว้
ใช้งานหน้าดีกว่า
สามชัยรีบวิ่งไปคว้ามันไว้ในมือ เหมือนกลัวว่าจะมีใครเข้ามาแย่งไป
คำถามที่ตามมาในแก๊งคือใครสมควรจะได้เป็นเจ้าของกระท่างใหญ่ตัวนี้ระหว่างเขียวกับสามชัย
เขียวบอกเขาสมควรได้เพราะยิงโดนก่อนแม้ว่านัดแรกจะเอาไม่อยู่ก็ตาม และลงทุนลงแรงปีนขึ้นต้นไม้เพื่อตามไปสอยนัดสองส่งมันร่วงลงมา
ซึ่งเขียวก็รับประกันกับทุกคนว่าเขายิงไม่พลาด
แต่สามชัยก็ไม่ยอมเถียงเอาว่าเขาสมควรได้มากกว่า เพราะทุกคนก็เห็นว่าเป็นคนปล่อยกระสุนนัดสุดท้ายโดนเป้าหมายอย่างจัง
เถียงกันไปเถียงกันมาสุดท้ายสามชัยยึดเอาไปดื้อๆ เพราะถือว่าตัวอาวุโสกว่า โดยไม่สนใจว่าเขียวมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้า
สามชัยแยกตัวออกมากับเพื่อนสนิทบางคน
ทิ้งเขียวกับเพื่อนอีกหลายคนไว้ข้างหลัง เขียวเสียใจมากที่สามชัยกับพวกตัดสินใจทำอย่างนี้
นับแต่นั้นมาเขียวกับสามชัยก็ไม่เคยพูดคุยกันอีกเลย
หลายปีผ่านไปต่างคนต่างโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเรากับมาคุยกันอีกครั้ง
"ขอโทษหว่ะเขียวที่วันนั้นเราแย่งกิ้งก่านาย รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นสิทธิของนายแต่แรก"
"ไม่เป็นไรพวกเรื่องมันผ่านไปนานแล้วแต่..
.
"แต่อะไรพูดมาเขียวเรารอฟังอยู่อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ"
"เรามีอะไรจะสารภาพกะนาย วันนั้นเรายิงไม่โดนหว่ะ"
"ยังไงเราไม่เข้าใจ นายช่วยอธิบายหน่อยสิ"
"นัดแรกยิงแค่เฉี่ยวไม่นับว่าโดน
นัดสองไม่ทันได้ยิง มันกระโดดหนีไปก่อน"
"ไอ้เชี้ยเขียว..."
เกษตรเอส
โฆษณา