11 ก.ย. 2022 เวลา 06:57 • ความคิดเห็น
เรื่องของโลกแห่งความเป็นจริงนี้ มีนักปราชญ์สองกลุ่มที่แสดงทัศนะเอาไว้แตกต่างกันคือ กลุ่มจิตนิยมและกลุ่มวัตถุนิยม และมีการจำแนกออกเป็น 3 แง่ดังนี้ 1. แง่ของอภิปรัชญา : พวกจิตนิยม ถือว่า จิตและวิญญาณ พระเจ้า ความดี ความงาม เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงแบบปรนัยหรือสิ่งที่มีอยู่โดยไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งใด / ส่วนพวกวัตถุนิยม ถือว่า สสารเท่านั้นที่มีอยู่จริง ดังนั้นพระเจ้าไม่มี มนุษย์ไม่มีวิญญาณ ความดีและความงามเป็นเรื่องของความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบของแต่ละคนเป็นอัตนัยหรือสิ่งที่จิตเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง
2. แง่ของการแก้ปัญหา : พวกจิตนิยม ถือว่าจิตใจสำคัญกว่าร่างกาย จิตเป็นตัวกำหนดวัตถุ ต้นเหตุของมนุษย์ทั้งหลายอยู่ที่จิตใจ วิธีแก้จึงต้องทำจิตใจของคนให้ดีเสียก่อน เมื่อจิตดีแล้ว วัตถุก็จะดีตาม ( การฝึกอบรมจิตให้มีคุณภาพและสร้างบุคคลากรที่เน้นทางจิต ) / ส่วนพวกวัตถุนิยม ถือว่าร่างกายเป็นพื้นฐานของจิตใจ วัตถุเป็นตัวกำหนดจิต ต้นเหตุของปัญหาทั้งหลายของมนุษย์อยู่ที่วัตถุ วิธีแก้จึงต้องทำวัตถุให้ดีเสียก่อน แล้วจิตใจของคนจะดีตามไปเอง ( สร้างโลกแห่งวัตถุ )
3. แง่ของจุดหมายของชีวิต : พวกจิตนิยม ถือว่าหลังจากตายไปแล้ว วิญญาณยังต้องชดใช้กรรมในโลกหน้า ไม่ใช่การแสวงหาความสุขในโลกนี้ ( จิตนิยม มีแนวโน้มเห็นด้วยกับพวกวิมุตินิยม หรือพวกที่เขื่อเรื่องการหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาและบรรลุมรรคผลนิพพานและพวกปัญญานิยม หรือพวกที่เขื่อว่าความรู้เป็นสิ่งมีค่าสูงสุด การพัฒนาด้านจิตวิญาณและปัญญา ) / ส่วนพวกวัตถุนิยม ถือว่าจุดหมายของชีวิตอยู่ในโลกนี้ โลกหน้าไม่มีอยู่จริง ( วัตถุนิยม มีแนวโน้มที่เห็นด้วยกับ พวกสุขนิยม ที่ถือว่าความสุขทางกายเป็นพื้นฐานของความสุขทางใจ )
เรียบเรียงโดย อ. พุทธสิทธิ์ จันฤาไชย ( มหาวิทยาลัยราขภัฏลำปาง ) เรื่อง อภิปรัชญา Metaphysics : อะไรคือความเป็นจริง : ลัทธิจิตนิยมและสสารนิยม
ในพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนในเรื่องของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อให้เราปล่อยวางจากสิ่งทั่งหมดทั้งมวลที่เรายึดมั่นถือมั่นอยู่ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมายา ที่ลวงให้เราติดอยู่ในวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดครับ
โฆษณา