Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
JusThat คดีเล็กงบน้อยเราดูแลให้
•
ติดตาม
12 ก.ย. 2022 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์
กู้ยืมเงิน คิดดอกเบี้ยโหด ดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ตกเป็นเป็นโมฆะ จริงหรือไม่
เวลาหมุนเงินไม่ทันก็คงต้องกู้ยืมก่อน ฝ่ายคนให้กู้ยืมเงินก็อาจคิดหรือไม่คิดดอกเบี้ยก็ได้ ซึ่งจะกำหนดดอกเบี้ยกันเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาจะตกลงกันแต่ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี เพราะหากคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ดอกเบี้ยที่จะได้รับก็จะตกเป็นโมฆะทั้งหมด
เนื่องจากการคิดดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ถือเป็นการละเมิดกฎหมายและมีความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 ดังนั้น เวลากู้ยืมเงินคู่สัญญาต้องตกลงเรื่องดอกเบี้ยกันให้ดีนะ
สำหรับการคำนวณดอกเบี้ยเราจะคิดเป็นร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็คือเศษส่วนที่มีส่วนเป็น 100
เช่น คิดดอกเบี้ยกู้ยืมเงินเต็มอัตรา 15% ต่อปี นั่นก็เท่ากับว่าจะได้รับดอกเบี้ย 15 บาทในเงินทุก ๆ 100 บาท หรือ 15 ส่วนจาก 100 ส่วนต่อปีนั่นเอง
เวลาเราคิดดอกเบี้ย จึงต้องเอาเงินต้นคูณกับเลขเปอร์เซ็นของดอกเบี้ยที่หารด้วย 100
ตัวอย่าง กู้ยืมเงิน 1,000 บาท คิดดอกเบี้ย 15% ต่อปี
วิธีคิดดอกเบี้ย (1,000 x 15)/100 = 150
ได้ดอกเบี้ย 150 บาทต่อปี
กู้ยืมเงิน วิธีคิดดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้
ปกติเวลาทำสัญญากู้ยืมเงินกันต่างฝ่ายต่างก็ต้องตกลงกันเรื่องดอกเบี้ยเอาไว้ แต่บางครั้งก็อาจตกลงไว้เพียงว่าจะให้ดอกเบี้ย แต่ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ ซึ่งกรณีแบบนี้เจ้าหนี้จะสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ 3% ต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 ที่ระบุไว้ว่า “ถ้าจะต้องเสียดอกเบี้ยแก่กันและมิได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรมหรือโดยบทกฎหมายอันชัดแจ้ง ให้ใช้อัตราร้อยละ 3 ต่อปี
ตัวอย่างเช่น A ให้ B กู้ยืมเงิน 50,000 บาท ตกลงกันว่าจะให้ดอกเบี้ยแต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ A จึงคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ให้ B กู้ยืมได้ 3% ต่อปี
วิธีคิดดอกเบี้ย (50,000 x 3)/100 = 1,500
ได้ดอกเบี้ย 1,500 บาทต่อปี
กู้ยืมเงิน ห้ามคิดดอกเบี้ยทบต้นทบดอก
หลายคนคงเคยเจอการเก็บดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกกันมาบ้าง เจ้าหนี้บางคนก็ให้กู้แบบขูดเลือดขูดเนื้อ หรือลูกหนี้บางคนก็ทำเป็นไม่สนใจแม้กระทั่งเรื่องดอกเบี้ย การคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกจึงมีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ในสังคม ซึ่งมีทั้งกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ทบได้และทบไม่ได้ จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
●
ไม่ได้ตกลงกันไว้ให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างมาทบเข้ากับเงินต้น กรณีนี้เจ้าหนี้จะเอาดอกเบี้ยมาทบกับเงินต้นไม่ได้เด็ดขาด
●
ตกลงให้เอาดอกเบี้ยมาทบกับเงินต้นได้ทันทีที่ผิดนัดชำระดอกเบี้ย กรณีนี้ข้อตกลงเรื่องการทบดอกเบี้ยกับเงินต้นตกเป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ละเมิดกฎหมาย เจ้าหนี้ไม่สามารถนำดอกเบี้ยมาทบเข้ากับเงินต้นได้เช่นกัน
●
ตกลงให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกิน 1 ปีมาทบเข้ากับเงินต้นได้ กรณีนี้เจ้าหนี้สามารถนำดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ค้างชำระเกิน 1 ปีมาทบกับเงินต้นได้
เช่น เงินต้น 10,000 บาท คิดดอกเบี้ย 15% ต่อปี ลูกหนี้ยังไม่เคยจ่ายเงินต้นและมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 1 ปี จำนวน 1,500 บาท เจ้าหนี้จะสามารถนำเงินทั้งสองก้อนมาทบกันได้ ดอกเบี้ยที่ค้างชำระก็ไม่มีแล้ว เพราะถูกนำไปรวมเป็นเงินต้นจำนวน 11,500 บาท เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ดอกเบี้ยที่จะเรียกได้ก็จะเป็น 1,725 บาทต่อปี
รู้หรือไม่?! ยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงได้ จะทำให้เรื่องถึงชั้นศาลได้เร็วขึ้น
#JusThat ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท บริการส่งฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา
1. แอดไลน์ @justhatapp
2. เริ่มต้นทำแบบประเมิน
3. หากต้องการ ส่งฟ้องได้ทันที
เรียนรู้เพิ่มเติม
justhat.app
กู้ยืมเงิน วิธีคิดดอกเบี้ย 15% ต่อปี - JusThat.app
กู้ยืมเงิน วิธีคิดดอกเบี้ย 15% ต่อปี เวลาหมุนเงินไม่ทัน […]
justhat
กฎหมาย
กฎหมายย่อยง่าย
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
คดีแพ่ง (ฟ้องด้วยตัวเองได้)
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย