E.S.C.Shamim
ฌมีม เด็กสาวที่เติบโตในครอบครัวนักกฎหมาย พ่อถูกใส่ร้ายเรื่องสินบน ทำให้ครอบครัวของเธอถูกรังเกียจ และเพื่อนร่วมชั้นเรียนมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม ฌมีมเชื่อเสมอว่าพ่อบริสุทธิ์เพราะคำพูดของพ่อยังก้องอยู่ในหูว่า
“ ฌมีมต้องรักชาตินะลูก คนไทยไม่ค่อยรักชาติ ชอบหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง”
https://pixabay.com
ฌมีมสัญญากับตนเองว่า สักวันหนึ่งเธอต้องหาวิธีเพื่อตรวจสอบ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพ่อให้ได้ ฌมีมจึงตั้งใจเรียนและเรียนหนักมาก เพื่อจะได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เธอจึงเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศไทย
ขณะที่เข้าเรียนชั้นปีที่ 1 ฌมีมฐานะค่อนข้างลำบากเนื่องจากพ่อต้องโทษอยู่ในเรือนจำพิเศษ มีแม่คนเดียวที่สุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัว วันหนึ่งเธอเห็นประกาศของมหาวิทยาลัย รับสมัครนักศึกษาเพื่อเป็นผู้ช่วยวิจัยในสถาบันวิจัยของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
ไม่ลังเล ฌมีมไปสมัครพร้อมสัมภาษณ์ อาจารย์ที่สัมภาษณ์เป็นอาจารย์ชาวอินเดีย สาขาฟิสิกส์ ชื่อดร.เจเน็ต ที่มีแม่เป็นชาวอเมริกา มาอยู่เมืองไทยจนใช้ภาษาไทยได้ดี
https://pixabay.com
“ทำไมถึงอยากมาทำงานกับสถาบันวิจัยครับ” ดร.เจเน็ต ถาม
“หนูอยากได้ความรู้เป็นอันดับ 1 และอยากได้เงินเป็นอันดับ 2” ฌมีมตอบด้วยรอยยิ้ม
น่ารัก
“แต่ยังอยู่ชั้นปีที่ 1 คงได้ความรู้ไม่มากแค่เรียงเอกสาร” ดร.เจเน็ต พูดพร้อมทั้งยิ้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ แรกเริ่มเรียงเอกสาร เนิ่นนานหนูได้ความรู้” ฌมีมตอบอย่างจริงจัง
“ แต่หนูจะเลิกเสียก่อนได้ความรู้ เรียนหนัก งานหนักนะ” ดร.เจเน็ต พูดต่อ พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
“อาจารย์คอยดูก็แล้วกันนะคะ” ณมีมตอบอย่างมั่นใจ
ไม่สู้ได้ยังไง อยากได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาช่วยอบี
ฌมีมนึกในใจ
สามวันต่อมา มหาวิทยาลัยประกาศผู้ช่วยวิจัย ณมีมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คนเดียวที่ผ่านการคัดเลือก
อัลลอฮ์ช่วยเราแน่ ดุอาอฺที่เราขอทุกครั้งที่ละหมาดพระองค์ทรงตอบรับ ฌมีมพึมพำกับตนเอง
https://pixabay.com
วันหนึ่ง ฌมีมนั่งเรียนวิชาชีววิทยา อาจารย์สอนเรื่องการเคลื่อนที่ของกระแสประสาท
สิ่งที่ฌมีมรู้ ณ ตอนนั้นก็คือ การเคลื่อนที่ของกระแสประสาทมีประจุ เกิดขึ้นทั้งภายในเซลล์ประสาทและภายนอกเซลล์ประสาท เธอไม่ลังเลที่จะไปหา ดร.เจเน็ตเพื่อเชื่อมโยงกับวิชาฟิสิกส์ เธอไปวันแรก ดร.เจเน็ต ติดประชุม เธออาสาเรียงเอกสารที่สถาบันวิจัยค้างอยู่
วันนี้มาก่อนเวลา ดีเสียอีกได้อ่านเอกสารไปด้วย เธอคิดในใจ
วันนี้หลังจากเลิกเรียนตอนเย็น เธอไปสถาบันวิจัยเพื่อทำหน้าที่จัดเอกสารตามแบบฉบับของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และไม่ลืมถามรุ่นพี่ถึงดร.เจเน็ต ว่าเธอสนใจงานวิจัยอาจารย์จะช่วยหรือไม่ รุ่นพี่ตอบทำให้รู้สึกสบายใจมาก เพราะรุ่นพี่บอกเธอว่าดร.เจเน็ต เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจกต์ของเขา
“เราต้องทำสมมติฐานของเราให้เป็นจริงให้ได้” ฌมีมพูดกับตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาสดใส
https://pixabay.com
หลายวันต่อมา ฌมีมไปห้องสมุดเพื่อค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับกระแสประสาทและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ว่าสามารถสัมพันธ์กันได้หรือไม่เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ฌมีมจำได้เสมอว่านักวิทยาศาสตร์ ต้องมีความพยายามและอดทนเพื่อค้นคว้าทดลองเรื่องที่เธอตั้งสมมติฐานนี้ให้ได้ แม้แต่มาดามมารี คูรี ใช้เวลาถึง 4 ปี ในการค้นพบธาตุกัมมันตรังสี แม้ความรู้เธอน้อยนิดแต่ดร.เจเน็ตต้องช่วยเธอได้แน่จากสมมติฐานของเธอ ดังนั้น ห้องเรียน สถาบันวิจัยและห้องสมุด 3 สถานที่นี้ ฌมีมวนเวียนเพื่อศึกษาค้นคว้า
https://pixabay.com
วันนี้โชคดีมากเธอได้พบกับดร.เจเน็ตที่ห้องสมุด เธอจึงได้เข้าไปคุยถึงสมมติฐานที่เธอตั้งไว้ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างกระแสประสาท วงจรอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ต้องประดิษฐ์อุปกรณ์เพื่อเข้าถึงความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมของบุคคลที่ต้องการตรวจสอบ
“ ฌมีมไม่เรียนหรือครับ” ดร.เจเน็ตถามฌมีม
“เรียนแล้วค่ะ ช่วงนี้หนูว่างค่ะ หนูอยากเจออาจารย์พอดีเลย ไปหาหลายครั้งแล้วค่ะ” ฌมีมตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
“มีอะไรคุยกับผมหรือครับ” ดร.เจเน็ตพูดหยอกพร้อมรอยยิ้มสดใส
“หนูมีสมมติฐานค่ะ” ฌมีมพูด
“ว่ามา อยากทำงานวิจัยหรือครับ” ดร.เจเน็ตพูดพร้อมกับรอยยิ้มอย่างแปลกใจ
“ค่ะ หนูได้ค้นคว้ามาบ้างแล้ว แต่อยากปรึกษาอาจารย์อีกทีหนึ่งค่ะ หนูไม่ค่อยถนัดทางด้านฟิสิกส์” ฌมีมพูดอีกครั้ง สายตามีความมุ่งมั่น
“บอกมาคร่าว ๆ ครับ” ดร.เจเน็ตพูดต่อพร้อมกับยิ้มอย่างแปลกใจ
“หนูอยากทำอุปกรณ์ตรวจสอบความคิด เกี่ยวกับพฤติกรรมบุคคลค่ะ โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสประสาท วงจรอิเล็กทรอนิกส์และแปรผลจากคอมพิวเตอร์ค่ะ” ฌมีมบอกต่อ
“เป็นอย่างนี้ต้องคุยกันนานครับ ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันที่ห้องทำงานผมที่สถาบันวิจัยนะ” ดร.เจเน็ต บอกฌมีม
“ค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากนะคะอาจารย์” ฌมีมตอบด้วยนัยน์ตาเปล่งประกาย
แววตาแห่งความหวังของฌมีมลุกโชนขึ้นทันที รอยยิ้มแห่งความดีใจเกิดขึ้น และโอกาสที่จะช่วยพ่อกำลังเข้าใกล้มาทุกขณะ
หลังจากได้คุยกับดร.เจเน็ต ที่สถาบันวิจัยถึงรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ฌมีมได้ ดร.เจเน็ตรับเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ร่วมค้นคว้าทดลองเพื่อยืนยันสมมติฐานที่ฌมีมได้ตั้งไว้ เธอเริ่มศึกษาจริงจัง เมื่อปลายชั้นปีที่ 1เป็นต้นมา
https://pixabay.com
ในโลกแห่งความสับสนวุ่นวาย ในโลกแห่งการใส่ร้ายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง หนีไม่พ้นที่มนุษย์ต้องใช้วิทยาศาสตร์เป็นที่พึ่ง ฌมีมเป็นเด็กสาวที่มีปมในชีวิต และไม่เคยลืมคำสั่งจากพ่อว่าต้อง “รักชาติและเป็นคนดี” เธอและดร.เจเน็ต จึงร่วมกันศึกษาในวิทยาศาสตร์ 2 แขนงวิชา คือ ทางชีววิทยาและฟิสิกส์ เพื่อเชื่อมโยงกระแสประสาทเข้ากับวงจรอิเล็กทรอนิกส์และแปรผลสู่จอคอมพิวเตอร์
https://pixabay.com
วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เธอไม่เคยย่อท้อต่อการทดลอง หลายครั้งที่เธอต้องอดทน บ่อยครั้งที่เธอต้องอดข้าวเที่ยงเพราะการทดลองที่ติดพัน และเมื่อเธอเรียนมหาวิทยาลัย
ชั้นปีที่ 3 การเรียนของเธอก็เริ่มหนัก งานของสถาบันวิจัยก็ต้องรับผิดชอบมาก เธอไม่ละทิ้งในทุกความรับผิดชอบ
ในที่สุด การทดลองของเธอสำเร็จผล เป็นไปตามสมมติฐานที่วางไว้ เธอตั้งชื่อสิ่งประดิษฐ์ของเธอนี้ว่า E.S.C.Shamim
E ย่อมาจาก Electronic
S ย่อมาจาก Shirt (หมายถึงเสื้อ)
C ย่อมาจาก Computer
Shamim คือ ชื่อฌมีม
https://pixabay.com
วันนี้ ฌมีมได้ไปเยี่ยมพ่อของเธอที่เรือนจำพิเศษ พร้อมด้วยแววตาปลื้มปิติ แต่ก็อดที่จะน้ำตาร่วงไม่ได้เมื่อนึกถึงว่า
ผู้รักษากฎหมายต้องมาถูกพิจารณาคดีเสียเอง
https://pixabay.com
“ อบีคะ หนูคิดสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยอบีให้พ้นผิดแล้วค่ะ” ฌมีมพูดกับพ่อ
“อบีสบายดี อีกไม่นานจะพ้นโทษแล้ว อบีเป็นนักโทษชั้นดีนะ อุมมี ๖เป็นยังไงบ้าง” พ่อถาม
“อุมมีสบายดีค่ะ อุมมีฝากสลามถึงอบีด้วยนะคะ”
ฌมีมกล่าวกับพ่อ
“บอกอุมมีว่าอีกไม่นานแล้ว อบีจะได้พ้นโทษ อินชาอัลลอฮ์” พ่อกล่าว
พ่อลูกคุยกันอยู่สักพัก
“อบีรักษาสุขภาพด้วย...ดุอาอฺนะคะ ถ้างั้นหนูกลับก่อน”
ฌมีมลากลับ เมื่อได้ยินสัญญาณ หมดเวลาการเยี่ยมดังขึ้น
พ่อไม่เคยลืมที่จะถามถึงแม่ เพราะแม่สุขภาพไม่ดี เธอได้เรียนเพราะได้ทุนกู้ยืมจากรัฐบาลและเงินจากการทำงานจากสถาบันวิจัยตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ส่วนสิ่งประดิษฐ์ E.S.C. Shamim ได้ทุนสนับสนุนจากดร.เจเน็ต ซึ่งเป็นทุนสนับสนุนจากสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยนั่นเอง
https://pixabay.com
“หายไปไหนมาครับ” ดร.เจเน็ตถามเมื่อเจอกันที่สถาบันวิจัย
“ไปเยี่ยมพ่อที่เรือนจำพิเศษมาค่ะ” ฌมีมตอบ
“พ่อสบายดีมั๊ยครับ” เขาถาม
“ค่ะ สบายดีค่ะ” เธอตอบ
“ ไปโม้เรื่อง E.S.C. Shamim มาหรือครับ”ดร.เจเน็ตแซวพร้อมทั้งยิ้มให้ด้วยแววตาเอ็นดู
“ค่ะ ไม่ได้ไปเยี่ยมนานแล้ว งานนี้ถ้าไม่มีอาจารย์คงไม่สำเร็จหรอกค่ะ” ฌมีมตอบพร้อมทั้งยิ้มด้วยความปลื้มปิติ
“ พรุ่งนี้พร้อมยัง” ดร.เจเน็ตถาม
“อาจารย์ไม่นำเสนอเองหรือคะ” ฌมีมถามบ้าง
“อ้าวก็ตกลงกันแล้วว่าให้เรานำเสนอ ผมก็นั่งอยู่ด้วย ถ้าขาดตกบกพร่องผมจะช่วยเสริม”
ดร.เจเน็ตอยู่ประเทศไทยมาหลายปีเลยพูดภาษาไทยคล่องมาก
วันนำเสนอผลงาน
https://pixabay.com
พรุ่งนี้เป็นวันที่นำเสนอผลงาน งานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ของนักศึกษาปริญญาโท และนักศึกษาปริญญาเอก ส่วน
สิ่งประดิษฐ์ของฌมีมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์พิเศษ เลยต้องนำเสนอวันเดียวกันเพื่อการรับรู้ของคณาจารย์ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ดร.เจเน็ตจึงมอบให้ฌมีมเป็นคนนำเสนอ
วันนี้ฌมีมอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับเวทีขนาดใหญ่เพราะเธอแค่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 แต่งานที่ทำเองยังไงก็นำเสนอได้ ต้องตอบคำถามได้แน่นอน
E.S.C. Shamimช่วยฉันด้วย เธอนึกในใจ
Pixel.com
“E.S.C. Shamim เป็นเสื้ออิเล็กทรอนิกส์ ข้างในบรรจุวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่สื่อเข้ากับกระแสประสาทในร่างกายของคน ที่ต้องการข้อมูลทั้งหมดไปต่อเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถประมวลผลความรู้สึก ความคิด ดักจับเรื่องราวของบุคคลนั้น โดยสามารถระบุวัน เวลา สถานที่ ๆ บุคคลนั้นเกี่ยวข้อง ต้องการรับรู้โดยการใส่เสื้อ E.S.C. Shamim และ E.S.C. Shamim จะมีปุ่มสำหรับเรียกดูเรื่องราวที่ต้องการ”
ฌมีม อธิบายไปเรื่อย ๆ หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่บางคนขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจ
“ใครสงสัยถามได้นะคะ” ฌมีมกล่าว
“กระแสประสาทจะทำงานกับเสื้อตัวนั้นได้อย่างไรคะ” ผู้ฟัง 1 ถาม
“ปกติการเคลื่อนที่ของกระแสประสาทมีทั้งประจุบวกและประจุลบ เช่นเดียวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นสองอย่างนี้จึงสื่อเข้ากันได้ เพราะต่างมีประจุเหมือนกัน เราประดิษฐ์ให้
E.S.C. Shamim สามารถประมวลผลเรื่องราวของบุคคล
ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา และเราทำให้สามารถอ่านรายละเอียดย้อนหลังได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นไปพบใคร และมีความคิด ความรู้สึกอย่างไร เมื่อใส่เสื้อ กดปุ่มที่เราต้องการทราบรายละเอียด การบันทึกผลภายในเสื้อก็จะเกิดอัตโนมัติ และแปลผลจากคอมพิวเตอร์ได้” ฌมีมตอบด้วยความมั่นใจ
“เราต้องวัดตลอดเวลากับคอมพิวเตอร์หรือคะ” ผู้ฟัง 2 ถาม
“เปล่าค่ะ เราสามารถบันทึกไว้ใน E.S.C. Shamim ได้เลยค่ะ เมื่อเราต้องการแปลผล นำไปต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ค่ะ เราทำให้รองรับกับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นค่ะ”
ฌมีมตอบ
การซักถามข้อสงสัยมีอยู่ประมาณ 20 นาที ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี ทุกคนแยกย้ายกันไปรับประทานอาหาร ส่วนฌมีมก็ไปรับประทานอาหารกับ ดร.เจเน็ต
ขณะรับประทานอาหาร
https://pixabay.com
“ตอบคำถามได้ดีนะ” ดร.เจเน็ตชม
“ขอบคุณค่ะอาจารย์ แต่ถ้าไม่มีอาจารย์หนูก็ไม่มีวันนี้ค่ะ” เธอกล่าวอย่างถ่อมตน
“แต่เธอตั้งสมมติฐานได้ถูกต้องและเป็นจริงนะ”
ดร.เจเน็ตพูดต่อ
“แต่ถ้าไม่มีอาจารย์หนูก็ไม่มีทุนสำหรับใช้ในการทดลอง”
ฌมีมพูดบ้าง
“เฮ่อ !!! แต่เธอเก่งนะ ผมชอบในความพยายาม” ดร.เจเน็ตชมอีกครั้ง
“เหมือนหมาจนตรอกน่ะค่ะอาจารย์ พ่อถูกใส่ร้าย เลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออก
เท่ากับวิทยาศาสตร์ หากเรื่องนี้สามารถนำไปใช้ได้ในองค์กรต่าง ๆ หนูหวังว่าสินบน
คอรัปชั่น โจรผู้ร้าย อาชญากรรม ต้องหมดไปจากประเทศไทยค่ะ” เธอพูดต่อ
หลังรับประทานอาหารเสร็จ ก็มีการนำเสนอผลงานจบในวันนั้น ในขณะที่หลายคนไม่เคยรู้จักเธอก็เข้ามาทักทาย ถามเรื่องราวถึงสิ่งประดิษฐ์ E.S.C. Shamim เธอก็อธิบายจนเข้าใจ และบางคนก็ยังงง ๆ อยู่
ฌมีมได้นำ E.S.C. Shamim เสนอต่อกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำไปทดสอบ แล้วจะได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ แต่ไม่เป็นที่ยอมรับถือว่าไม่เป็นจริง เป็นสิ่งประดิษฐ์ตรวจสอบไม่ได้
ฌมีมไม่หยุดอยู่แค่นั้นเธอยึดหลักนักวิทยาศาสตร์ นอกจากมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แล้ว ต้องมีความพยายามพยายามและอดทน เธอจึงไปหาอาสาสมัครเพื่อตรวจสอบ E.S.C. Shamim เครื่องมือของเธอมีอาสมัครถึง 4 อาชีพ คือ
นักกฎหมาย นักการเมือง ตำรวจและทหาร
อาสาสมัคร
https://pixabay.com
“ความหวังของ E.S.C Shamim ขึ้นอยู่กับพวกคุณนะคะ” ฌมีมกล่าวกับอาสาสมัคร
ฉันจะทำให้ประเทศไทยปราศจาก สินบน คอรัปชั่น และอาชญากรรมด้วย E.S.C. Shamim ฌมีมนึกในใจ
ฌมีม แบ่งการทดลองออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้อาสาสมัคร
กลุ่มที่ 1 ใช้นักกฎหมาย กลุ่มละ 20 คน
ทดลอง 10 ครั้ง
กลุ่มที่ 2 ใช้นักการเมือง กลุ่มละ 20 คน
ทดลอง 10 ครั้ง
กลุ่มที่ 3 ใช้ตำรวจ กลุ่มละ 20 คน
ทดลอง 10 ครั้ง
กลุ่มที่ 4 ใช้ทหาร กลุ่มละ 20 คน
ทดลอง 10 ครั้ง
ผลการทดลองใช้ได้จริง เป็นไปตามสมมติฐาน ทุกคนที่ใส่เสื้อE.S.C. Shamim เมื่อนำมาตรวจสอบว่าแต่ละวันไปไหน ทำอะไร มีความคิดอย่างไร คอมพิวเตอร์สามารถแปลผลถูกต้องเป็นจริง ทำให้อาสาสมัครพึงพอใจ
ฉันจะต้องทำให้ทุกหน่วยงานยอมรับ และประชาชนต้องรับรู้ เธอกล่าวกับ
จัดแถลงข่าว
https://pixabay.com
“อาจารย์คะหนูจะจัดแถลงข่าวค่ะ” ฌมีมบอก
“ได้เลย มีอะไรให้ผมช่วย” ดร.เจเน็ตถาม
“อาจารย์ต้องไปกับหนู เพราะอาจารย์มีความรู้และมีตำแหน่ง หนูเป็นเด็กอาจไม่เป็นที่ยอมรับได้ค่ะ” ฌมีมกล่าว
“ตกลง เราแถลงข่าวกันที่ไหนดี ? ที่มหาวิทยาลัยก็ได้ ผมทำหนังสือขออนุญาตให้” ดร.เจเน็ตอาสา
“ขอบคุณค่ะอาจารย์ ขอบคุณจริง ๆ ฌมีม” ยกมือไหว้แล้ว
ไหว้อีกครั้ง
“ หนูจะติดต่อนักข่าวค่ะ” ฌมีมพูดพร้อมยกมือไหว้
หลังจากงานแถลงข่าวเสร็จสิ้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมมีหนังสือถึงดร.เจเน็ตให้ไปพบ และดร.เจเน็ตไม่ลืมพาฌมีมไปด้วย ทำให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมยอมรับ รับปากที่จะนำเสื้อE.S.C. Shamimส่งให้กระทรวงยุติธรรมใช้เป็นงานแรกในพิจารณาคดีอาชญากรรม
“วันนี้ไปศาลใช่หรือเปล่าคะ อุมมีฝากสลามถึงอบีด้วยนะลูก” อุมมีถาม เธอไม่ได้ไปด้วยเพราะปัญหาสุขภาพ
“ได้ค่ะ อุมมีช่วยดุอาอฺด้วยนะคะ” ฌมีมพูด
คดีพ่อของฌมีมได้ถูกรื้อคดีใหม่อีกครั้ง ด้วยการใช้
E.S.C. Shamim นวัตกรรมใหม่ของเธอ ที่เธอตั้งความหวังด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท และวิทยาศาสตร์ไม่เคยโกหกใคร ซื่อสัตย์ต่อทุกคนที่นำมันมาใช้ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสามารถช่วยมนุษย์ได้ดีเสมอหากใช้ถูกต้อง และเหมาะสม
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
