20 ก.ย. 2022 เวลา 23:42 • การศึกษา
ชวนสำรวจกระเป๋านักเรียนในวันที่คลังความรู้กำลังเฆี่ยนตีลูกของคุณ
ประเทศไทยมีการกำหนดมาตรฐานน้ำหนักกระเป๋านักเรียนเอาไว้โดยแบ่งตามระดับชั้นเรียน เด็กนักเรียน ป.1 -ป.2 น้ำหนักกระเป๋าเรียนไม่ควรเกิน 3 กิโลกรัม ชั้น ป.3-ป.4 น้ำหนักกระเป๋าเรียนไม่ควรเกิน 3.5 กิโลกรัม ระดับชั้น ป.5-6 กระเป๋านักเรียนไม่ควรมีน้ำหนักเกิน 4 กิโลกรัม เมื่อเราหันกลับมามองตัวเลขเหล่านี้กับความเป็นจริงยังคงมีเส้นย้อนแย้งบาง ๆ อยู่ว่ามาตรฐานจริงของมันอยู่ตรงไหนเมื่อไซส์ของเด็กไม่ได้สัมพันธ์กับระดับชั้นเรียนเสมอไป
โดยเฉลี่ยใน 1 วัน เด็กจะเรียนประมาณ 8 วิชา ก็เท่ากับการแบกหนังสืออย่างน้อยราว ๆ 8 เล่ม จำนวนนี้ยังไม่รวม สมุด ชีท ดินสอ ปากการวมไปถึงอุปกรณ์ไอทีอย่างโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ดังนั้นผลกระทบจากการสะพายกระเป๋าหนักเกินเหตุมักทำให้เด็ก ๆ มีอาการปวดเมื่อยที่หลัง โดยเด็กผู้หญิงอาจจะมีอาการปวดได้มากกว่าเด็กผู้ชาย หากหนักมากเด็กอาจจะเดินไม่ไหว ต้องก้มตัวให้เกิดสมดุล เสียบุคลิกภาพ
วิธีการสังเกตว่ากระเป๋าของลูกเราหนักเกินไปไหม คุณพ่อคุณแม่ควรลองเดินตามหลังลูก เพื่อสังเกตทำเดินของลูกเวลาสะพายกระเป๋าและสังเกตว่ากระเป๋าสะพายของลูกห้อยต่ำเกินไปหรือไม่ ก้นกระเป๋าเลยนั้นเอวหรือไม่ และลูกเดินเอนตัวไปด้าน หน้ามากเกินไปหรือเปล่า การแก้ปัญหากระเป๋านักเรียนที่พวกเราพ่อแม่สามารถทำได้คือการตรวจสัมภาระที่อยู่ในกระเป๋าว่าเป็นสิ่งจำเป็นจริงหรือไม่
การจัดวางสิ่งของในกระเป๋าก็ช่วยบรรเทาผลกระทบได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้วางสิ่งของที่หนักไว้ตรงกึ่งกลางกระเป๋าและชิดกับส่วนหลังของเด็ก และเพื่อความสมดุล ควรสะพายกระเป๋าโดยคาดบนไหล่ทั้งสองข้าง ไม่สะพายเพียงข้างใดข้างหนึ่ง กระเป๋าควรได้สัดส่วนกับขนาดตัวของเด็ก ส่วนก้นกระเป๋าควรพอดีกับเอว สายสะพายของกระเป๋าควรกว้างพอสมควรเพื่อกระจายน้ำหนักบนบ่าและคอ ป้องกันการกดทับบริเวณหนึ่งมากเกินไป กระเป๋าควรมีแผ่นรองบริเวณหลังและบริเวณก้นเพื่อช่วยให้การกระจายน้ำหนักดีขึ้น
การกลับมาเปิดเรียนตามปกติ นอกจากเรื่องการเรียนแล้ว กระเป๋านักเรียนอาจเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนมองข้าม ซึ่งเรื่องเล็กน้อยแบบนี้อาจมีผลกระทบต่อร่างกายของเด็กในระยะยาวต่อไป
วันนี้คุณสำรวจกระเป๋าของลูกๆที่บ้านกันแล้วหรือยัง ?
สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://www.attanai.com/discovery/student-backpack/
โฆษณา