21 ก.ย. 2022 เวลา 12:30 • ไลฟ์สไตล์
สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้บ้าง ?
14
ในยุคที่ผู้คนต้องแข่งกันหางานทำ นายจ้างเองก็อยากลดค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมต้นทุน เหตุการณ์นายจ้างเลิกจ้างพนักงานอย่างไม่เป็นธรรมจึงเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ บางคนถูกไล่ออกกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ถูกลอยแพโดยไม่มีความผิด ทำให้ตั้งตัวไม่ทันเกิดปัญหาการเงินติดขัด ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอาหารแมว และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องจ่าย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้ ซึ่งจะเรียกได้มากน้อยแค่ไหนต้องดูอายุงาน รวมถึงค่าชดเชยที่คุณมีสิทธิได้รับ ความเดือดร้อนและความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการโดนเลิกจ้าง และสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือสาเหตุของการเลิกจ้าง
การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม คือ การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร เลิกจ้างโดยที่ไม่ใช่ความจำเป็นของกิจการที่ทำอยู่ เช่น ถูกไล่ออกเพราะไม่ยอมไปกินข้าวกับหัวหน้างาน ถูกไล่ออกเพราะโดนใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมงาน มาช้าไป 10 นาทีโดนไล่ออก หรือเจ้านายไม่ชอบเลยเลิกจ้างไปเฉย ๆ ไม่ให้ผ่านทดลองงานแต่การประเมินผลไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เป็นต้น
และนอกจากค่าเสียหายแล้ว คุณจะต้องได้รับเงินตามสิทธิของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็น…
  • ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
  • ค่าชดเชยในกรณีที่ทำงานครบ 120 วัน
  • ค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปี
  • ค่าชดเชยพิเศษ เช่น ย้ายออฟฟิศ ใช้เครื่องจักรมาแทนคน
สิ่งที่มักเข้าใจผิดกัน ถึงแม้นายจ้างจะจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยให้แล้วก็ไม่ถือเป็นการ “เลิกจ้างอย่างเป็นธรรม” เพราะการจ่ายเงินตามสิทธิต่าง ๆ ที่ลูกจ้างต้องได้รับเป็นผลจากการเลิกจ้าง แต่สาเหตุของการเลิกจ้างยังไม่ได้หายไป ลูกจ้างจึงยังมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้ โดยยื่นฟ้องต่อศาลแรงงาน ซึ่งปัจจุบันกำหนดดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ต่อปี และมีอายุความ 10 ปี
เลิกจ้างไม่เป็นธรรม วิธีคิดค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้า
  • 1.
    ลูกจ้างที่รับค่าจ้างตามผลงานต้องนับค่าจ้างย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ถูกเลิกจ้าง
  • 2.
    ลูกจ้างที่คิดค่าจ้างแบบรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน รายชั่วโมง ต้องนำค่าจ้างมาคิดเป็นวันแล้วคูณด้วยจำนวนวันตามที่กฎหมายกำหนด
ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า จะนับตั้งแต่ “วันที่ถูกเลิกจ้าง” ถึง “วันจ่ายค่าจ้างครั้งถัดไป” มาดูตัวอย่างการคิดกัน
ไม่ใช่ทุกกรณีที่ไล่ออกแล้วนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย หรือค่าบอกกล่าวล่วงหน้า เช่น ลูกจ้างทุจริต ขโมยเงินนายจ้าง ยักยอกทรัพย์นายจ้าง ทำร้ายร่างกายนายจ้าง จงใจทำให้บริษัทเสียหาย เอาข้อมูลออกไปขายให้คู่แข่ง หรือทำผิดกฎหมายอาญาอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อนายจ้าง แบบนี้นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าสักบาทเดียว หรือไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยด้วยในกรณีที่นายจ้างระบุความผิดไว้ในหนังสือเลิกจ้างอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ลูกจ้างต้องทำผิดนั้นจริง ๆ ด้วยนะ เพราะถ้าลูกจ้างไม่ได้ทำความผิดตามที่นายจ้างอ้าง ฝ่ายลูกจ้างก็สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองได้เช่นกัน
เลิกจ้างไม่เป็นธรรม เรียกร้องอะไรได้บ้าง
ถ้าเป็นลูกจ้างแล้วนายจ้างไม่ยอมจ่าย สามารถใช้สิทธิ์เรียกร้องได้สองแบบ แต่เลือกได้ทางเดียวนะ ซึ่งจะมีข้อแตกต่างคือการใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
แบบที่ 1 ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน
ข้อดี – ฟรี เรียกเงินตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานได้ทุกประเภท
ข้อเสีย – เรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมไม่ได้
ให้เราไปติดต่อที่ “สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน” ในเขตพื้นที่ที่ทำงานหรือที่บริษัทตั้งอยู่ แล้วแจ้งเรื่องกับพนักงานตรวจแรงงานได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ยและออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินให้เราภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีคำสั่ง (ถ้าหากนายจ้างผิดจริง) แต่นายจ้างก็มีสิทธิ์นำคดีขึ้นสู่ศาลแรงงาน โดยเราติดตามผลคดีที่ศาลแรงงานได้ด้วยตัวเอง
ถ้าหากนายจ้างไม่จ่าย ไม่หือ ไม่อือ เมื่อพ้นกำหนดตามคำสั่ง ให้เราเอาคำสั่งไปยื่นเรื่องขอรับเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้เลย หรือถ้าเราไม่พอใจในคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ก็สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลแรงงานได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับคำสั่งเช่นกัน
แบบที่ 2 ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแรงงานโดยตรง
ข้อดี – เรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้ และ เรียกเงินอื่น ๆ เช่น ค่าจ้าง ค่าชดเชย ก็ได้เช่นกัน
ข้อเสีย – อาจถูกศาลยกฟ้องได้ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอน
ถ้าคุณต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม หรือไม่อยากเสียเวลาในการดำเนินการหลายขั้นตอน ก็สามารถฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ โดยยื่นฟ้องคดีต่อศาลแรงงานที่มีเขตอำนาจตามพื้นที่ที่ทำงานอยู่ หรือตามภูมิลำเนาของตนเอง
รู้หรือไม่?! คดีแบบนี้ฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องจ้างทนาย!
JusThat บริการฟ้องด้วยตัวเอง ค่าบริการปรึกษาเริ่มต้น 1,500 บาท ประหยัดค่าจ้างทนายความได้หลายหมื่นบาท
1.แอดไลน์ @justhatapp
2.เช็คโอกาสชนะและค่าใช้จ่าย
3.หากต้องการ ส่งฟ้องได้ทันที

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา