22 ก.ย. 2022 เวลา 00:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⚠️ Tiida_Daily: ดาวโจนส์ร่วงกว่า 500 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.25% ในปีนี้ 🔥
1️⃣ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะจัดการอัตราเงินเฟ้อหลังจากที่พวกเขาขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมกับส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้อีกด้วย
เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงถึง 4.4% ภายในสิ้นปีนี้และ 4.6% ในปี 2023 ซึ่งเป็นท่าทีที่ Hawkish มากขึ้นจากการประชุมรอบก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน โดย Dotplot ที่ประกาศออกใหม่ส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้คุณพาวเวลล์ เตือนว่าตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐที่ครั้งหนึ่งเคยร้อนแรงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความตึงตัวในกับตลาดการเงินทั่วโลกในวันนี้อีกด้วย
⚠️ Breaking: เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกในปีหน้า | สรุปและวิเคราะห์ by BeautyInvestor 🏦
2️⃣ ในที่สุดตลาดหุ้นกระทิงก็รับฟังข้อความล่าสุดของเฟดคือ การต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อจะทำให้เกิดความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง หลังจากเปิดตลาดในแดนบวกถึง 1.3% แต่เมื่อเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ดัชนี S&P500 พลิกกลับมาในแดนลบเนื่องจากพาวเวลล์ทำให้ชัดเจนว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว
หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯร่วงลงเกือบ 6% เนื่องจากความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและไต้หวัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีพุ่งทะลุ 4% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเตรียมเปิดตลาดในแดนลบตามหลังหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีฟิวเจอร์สปรับตัวลงลงในญี่ปุ่นและฮ่องกง
3️⃣ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศ "ระดมกำลังบางส่วน" โดยเรียกกองหนุน 300,000 นาย ในยกระดับการรุกรานยูเครนครั้งใหญ่ของเขา
ขณะที่รัสเซียกำลังจะผนวกดินแดนที่ยึดครองจากยูเครน ปูตินเองก็ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วยอีกด้วย
ทั้งนี้ความก้าวหน้าในสนามรบของยูเครนได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมหลังจากกองทหารรัสเซียที่ละทิ้งรถถังจำนวนมากขณะที่พวกเขาหลบหนี และได้เพิ่มอาวุธสำคัญให้กับคลังแสงของทางเคียฟอีกด้วย
4️⃣ ประเทศจีนเป็นผู้นำในการแข่งขันเพื่อสร้างเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อการผลิตพลังงานไฮโดรเจนสะอาด
โรงงานในจีนสามารถผลิตอิเล็กโทรไลเซอร์ ซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านน้ำและแยกออกเป็นออกซิเจนและไฮโดรเจน โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในสหรัฐฯและยุโรป
และเมื่อประเทศขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน พวกเขาจะสามารถผลิตก๊าซไฮโดรเจนเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับทุกอย่างได้ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงโรงถลุงเหล็กโดยไม่มีการปล่อยคาร์บอน
โดยคำสั่งซื้อสำหรับระบบดังกล่าวกำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมจำนวนมากพยายามลดการปล่อยคาร์บอน ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าต้นทุนจะลดลง 30% ภายในปี 2025 เนื่องจากผู้ผลิตได้ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด หรือ economy of scale
Source: Bloomberg
⚠️ เงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่ง เฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% ถือต่อหรือขายทิ้งดี? | Special Episode By BeautyInvestor
✅ ทั้งนี้ อย่าลืมติดตามนิคกี้เพิ่มเติมได้ทาง
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #กองทุน #มือใหม่ #ข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก #ข่าวทั่วโลก #ARK #GINNO #TMBESGINNO #กลต #ECB #Commodities #WeeklyNews #หุ้น #กองทุนรวม #ดอกเบี้ย #นักลงทุน #จีน #GDP #พาวเวลล์ #สหรัฐฯ #Terra #UST #รัสเซีย #เงินเฟ้อ #หุ้นจีน #ยุโรป #เวียดนาม #Bitcoin #คริปโต #Bloomberg #Crypto #FED #เฟด
โฆษณา