29 ก.ย. 2022 เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
FAANG หุ้นเทคยักษ์ใหญ่สหรัฐ ฯ ยุค 1.0
เรามักได้ยินชื่อหุ้นกลุ่ม FAANG บ่อย ๆ เวลาอ่านหัวข้อข่าวที่อ้างอิงถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะนี่คือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นที่เหลือในดัชนี S&P 500
FAANG ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี 2013 และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมาเกือบ 10 ปี จนกระทั่งมีการจัดกลุ่มใหม่ในปี 2022 ในชื่อ MATANA หากอยากรู้ว่าหุ้นกลุ่มใหม่นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ติดตามต่อได้ในโพสต์วันพรุ่งนี้นะครับ
✍️ แต่สำหรับใครที่อยากรู้ให้ลึกไปถึงจุดเริ่มต้นของการจัดกลุ่มหุ้นดังกล่าว วันนี้เราจะพาไปชำแหละหุ้น FAANG ทีละตัว ว่าแต่ละบริษัทประกอบธุรกิจอะไร มีขนาดใหญ่แค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร ทำไมเราถึงต้องสนใจหุ้นกลุ่มนี้ ? มาหาคำตอบในโพสต์นี้กันครับ
FAANG อ่านออกเสียงเหมือนคำว่า Fang (แฟง) ที่แปลว่า เขี้ยวสัตว์ (คำนี้ไม่ได้อ่านว่า ฟาง หรือ แฝง นะ)
FAANG เป็นคำที่ใช้กันแพร่หลาย โดยผู้เริ่มใช้คนแรก คือ Jim Cramer พิธีกรรายการโทรทัศน์ Mad Money ช่อง CNBC ในปี 56
สมาชิกในกลุ่ม FAANG ได้แก่ Facebook (หรือ Meta), Amazon, Apple, Netflix และ Google (หรือ Alphabet)
📌 สรุปง่าย ๆ FAANG คือหุ้นกลุ่มบริษัทเทคฯ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ถือเป็นหุ้นที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) รวมกันกว่า 205 ล้านล้านบาท (ข้อมูล 15 ก.ย. 65)
ในรูปนี้อยากบอกทุกคนว่าหุ้นกลุ่ม FAANG นอกจากจะเป็นหุ้นที่ทำธุรกิจที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 สูงมาก ๆ ด้วย
✍️ สัดส่วน Market Cap หุ้นกลุ่ม FAANG รวมกันคิดเป็นกว่า 15% ของดัชนี S&P 500 ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มนี้ แทบจะเป็นตัวกำหนดได้เลยว่า ดัชนี S&P 500 จะแกว่งตัวขึ้นหรือลง
Facebook (หรือ Meta Platforms) เป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยฐานผู้ใช้งานถึง 2.93 พันล้านคนต่อเดือน หรือประมาณ 37% ของประชากรโลก จากฐานผู้ใช้งานนี้ทำให้ Facebook มีความสามารถในการสร้างรายได้อย่างมหาศาล จากการขายโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย และความแม่นยำในการวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้
นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของ Instagram, WhatsApp, Messenger และ Oculus อีกด้วย
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนในไตรมาส 2 ปี 65 เริ่มจะทรงตัวที่ 2.93 พันล้านคน ไม่ขยับจากไตรมาสก่อนเลย ขณะที่ผู้ใช้งานรายเดือนของ TikTok กลับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
จากผู้บุกเบิกการขายหนังสือออนไลน์ กลายเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้เทคโนโลยี Cloud Computing และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อขายแค็ตตาล็อกค้าปลีก มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 120 ล้านชิ้น
ปี 64 Amazon มีรายได้หลักจากช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ คิดเป็น 51% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง และยังมีลูกค้าทั่วโลกที่จ่ายค่าบริการรายเดือน Amazon Prime ราว 200 ล้านคน ขยายตัวจากปี 63 ที่มีผู้จ่ายค่าบริการรายเดือนราว 150 ล้านคน
ตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันว่าทำไมนักลงทุนจึงเชื่อว่า รายได้ กำไร และ Market Cap ของ Amazon ยังคงเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง
Apple ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดของโลก ในช่วงต้นปี 65 ด้วยมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มต้นจากนวัตกรรมและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ iPod ไปยัง iPhone iPad และ Apple Watch
สินค้าเทคโนโลยีมีอายุการใช้งานที่จำกัด ทำให้ผู้ใช้งานต้องซื้อสินค้าใหม่เรื่อย ๆ และตราบใดที่ลูกค้ายังเชื่อมั่นในแบรนด์ Apple ก็จะมีอำนาจในการกำหนดราคา รักษาผลกำไรให้เติบโตได้สม่ำเสมอ สะท้อนกลับมาที่ราคาหุ้น ซึ่งเป็นผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในที่สุด
ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุนชื่อดังระดับโลกอย่าง Warren Buffett ผู้ที่ดูแลพอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway จากข้อมูลไตรมาส 2 ปี 65 Berkshire Hathaway เข้ามาถือหุ้น Apple เป็นสัดส่วนราว 40.7% ของพอร์ตการลงทุน
Netflix เริ่มต้นจากบริการส่ง DVD ทางไปรษณีย์ และเป็นคู่แข่งกับ Blockbuster ยอดนิยม แต่ Netflix เริ่มหันมาให้บริการสตรีมมิงในปี 50 และประสบความสำเร็จ Netflix เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสตรีมมิงคอนเทนต์ด้านภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการโทรทัศน์
ฐานสมาชิกของ Netflix เติบโตขึ้นอย่างมาก จาก 22 ล้านคน เป็น 221 ล้านคน หรือเติบโตราว 10 เท่า ในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะการเปลี่ยนบทบาทเดิมของธุรกิจจากฐานะผู้รวบรวมภาพยนตร์ ไปยังผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ และมีคอนเทนต์ที่เป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง
Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) เป็นกลุ่มบริษัทในเครือเทคโนโลยีที่ครอบครองผลิตภัณฑ์จำนวนมาก เช่น Android, Chrome, Maps, Search, YouTube และ Gmail
Alphabet หรือ Google ยกระดับความเชี่ยวชาญหลักในฐานะ Search Engine ชั้นนำของโลก สู่ผู้พัฒนาธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่สร้างผลกำไรสูงมาก ในขณะเดียวกันก็ผลักดันการรักษาฐานผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น YouTube, Google Docs และ Google Maps และยังมีระบบปฏิบัติการมือถือของ Android ที่มีส่วนแบ่งประมาณ 75% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
บริษัทยังคงรักษาการเติบโตของรายได้ในระดับหลักสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปี ติดต่อกันมากว่า 10 ปี โดยรายได้หลักในปัจจุบันมาจากธุรกิจโฆษณาเป็นสัดส่วนราว 75% ของรายได้ทั้งหมด
เมื่อปลายปี 64 บริษัท Facebook เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท Meta Plaforms หลังจากนั้นไม่นาน Jim Cramer จึงเปลี่ยนชื่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั้ง 5 ตัวนี้ เป็น MAMAA (ไม่ใช่ มาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนะครับ 🤣)
แม้ว่าหลายคนจะยังชินกับการใช้ชื่อ FAANG มากกว่าก็ตาม
ที่น่าสนใจ คือ การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ Jim Cramer นำหุ้น Netflix ออกจากกลุ่ม ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่า Market Cap ของ Netflix เติบโตไม่ทันหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่ม (คุณหมดสิทธิ์ไปต่อ 🖐️)
Microsoft เป็นหุ้นที่เข้ามาแทน ด้วยขนาด Market Cap ที่สูงมากราว 68 ล้านล้านบาท
นั่นหมายความว่าราคาหุ้นกลุ่ม MAMAA นั้นจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 มากยิ่งกว่าเดิม
Microsoft บริษัทผู้นำในการพัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ด้วยระบบ Window ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อีกมากมาย เช่น Office 365, OneDrive, Microsoft Teams, Skype และ LinkedIn นอกเหนือไปจากซอฟต์แวร์แล้ว Microsoft ยังครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ด้านฮาร์ดแวร์อีก เช่น Surface และ Xbox เป็นต้น
Microsoft ก่อตั้งมาอย่างยาวนานกว่า 47 ปี เรียกได้ว่าผ่านสนามการแข่งขันมาอย่างโชกโชน จุดเด่นคือเรื่องการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ออกใหม่อย่างต่อเนื่อง และผู้ใช้งานทั่วโลกก็ยังคงเชื่อมั่นในแบรนด์ของ Microsoft ส่งผลให้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทก็ยังคงเติบโตในระดับหลักสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปี
อ้างอิง
"เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน"
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
แอป Dime! ให้บริการโดยบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จาก ก.ล.ต. และให้บริการบัญชีออมทรัพย์โดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร
ติดตามเราหรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/dime.finance
โฆษณา