ประโยคคลาสสิคที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลอังกฤษ คือ Chat shit get banged หรือที่แปลเป็นไทยได้ว่า "พูดโง่ๆ แบบนี้ ต้องโดนตบสักที" มันมีที่มาอย่างไรวิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง ส่งท้ายเดือนกันยายน
ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2011 ณ ขณะนั้นเจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าชาวอังกฤษ เพิ่งย้ายจากสโมสรฮาลิแฟกซ์ ในดิวิชั่น 6 แล้วย้ายมาอยู่ฟลีตวูด ทาวน์ ในระดับดิวิชั่น 5 ด้วยค่าตัว 150,000 ปอนด์ รับค่าจ้าง 850 ปอนด์ต่อสัปดาห์
สิ่งที่ฟลีตวูด ทาวน์ (ดิวิชั่น 5) ต่างจากฮาลิแฟกซ์ (ดิวิชั่น 6) ก็คือความเป็นมืออาชีพที่ผิดกัน ฟลีตวูด เป็นทีมที่เข้าใกล้การเลื่อนชั้นไปสู่ "ฟุตบอลลีก" มากที่สุดแล้ว
(Note : ในฟุตบอลอังกฤษ 4 ดิวิชั่นบน จะเรียกว่า ทีมในระบบฟุตบอลลีก แต่หลังจากดิวิชั่น 5 ลงไป จะถูกเรียกว่า ทีมนอกลีก มีนักเตะจากนอกลีกน้อยคนมาก ที่จะไต่เต้าไปถึงพรีเมียร์ลีกได้)
วาร์ดี้ในช่วงวัยรุ่นนั้น เขามีแบ็กกราวน์ที่ไม่ค่อยสวยงามนัก เคยเกือบติดคุกข้อหาทะเลาะวิวาท แต่ศาลยังปรานี ให้ลงอาญา 2 ปี บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ 280 ชั่วโมง พร้อมให้ติด Tag หรือสัญญาณติดตามตัวที่ข้อเท้า
แม้วาร์ดี้อยากจะลืมถึงความผิดของตัวเอง แต่แฟนฟุตบอลทั่วไปก็รู้ว่าเขาเคยมีคดีมา และมันกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญ ที่ทำให้เขาโดนคนวิจารณ์เป็นประจำ ว่าเป็นนักบอลนักเลง และเป็นพวกชอบเกเรใช้กำลัง
วาร์ดี้ลงเล่นให้ฟลีตวูด ทาวน์ แค่ 6 เกมเท่านั้น เขาก็มาเจอใบแดงโดยตรงในเกมพบกับคิดเดอร์มินสเตอร์ โดยวาร์ดี้กระโดดขาคู่เสียบคู่แข่ง ทำให้กรรมการควักใบแดงไล่ออกทันทีตั้งแต่นาทีที่ 28 พร้อมกับแบนไม่ให้ลงสนามถึง 3 เกมเต็มๆ
ในช่วงโดนแบน วาร์ดี้โดนวิจารณ์หนาหูมากในโลกออนไลน์ ว่าเป็นนักเตะอาชีพแท้ๆ ยังไม่ทิ้งนิสัยอันธพาล
หลายคนเชื่อว่า วาร์ดี้โมโหที่โดนด่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขา โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งสเตตัสระบายความกราดเกรี้ยวในวันที่ 28 กันยายน 2011 ว่า "Chat shit get banged" (ไอ้คนพูดจาโง่ๆ แม่งต้องโดนตบสักที)
Chat shit get banged มีประโยคที่ความหมายใกล้เคียงกันก็คือ Talk Shit ,Get Hit (พูดโง่ๆ โดนอัดเละแน่)
ปกตินักบอลอาชีพคงไม่โพสต์อะไรมั่วๆและเป็น Negative แบบนี้ แต่วาร์ดี้อธิบายว่า "ผมเป็นนักบอลนอกลีก และไม่มีใครมาสนใจหรอกว่าผมจะพูดหรือทำอะไร สเตตัสของผมถ้ามีคนคอมเมนต์สัก 2-3 คนก็ถือว่าเยอะแล้ว"
แน่นอน วาร์ดี้ก็คงรู้ว่ามันไม่สมควร เพราะผ่านไปสักพักเขาก็ลบสเตตัสนั้นทิ้งไป อย่างไรก็ตามมีคนแคปเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว!
เวลาผ่านไปนานจนลืม จนวาร์ดี้กลายมาเป็นผู้เล่นโด่งดัง เขาย้ายจากฟลีตวูด (ดิวิชั่น 5) มาอยู่กับเลสเตอร์ ซิตี้ (ดิวิชั่น 2 - แชมเปี้ยนชิพ) ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ และเป็นนักฟุตบอลนอกลีกคนแรก ที่มีค่าตัวถึงหลัก 1 ล้านปอนด์ด้วย
จากนั้นวาร์ดี้ พาเลสเตอร์เลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และสร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเลสเตอร์ได้อีกด้วย ซึ่งตอนที่ชีวิตเขาพุ่งสูงสุด ก็มีคนเอาสเตตัสดังกล่าวออกมาแฉ แนวๆว่า รู้หรือเปล่า ในอดีตวาร์ดี้พูดจาก้าวร้าวประมาณนี้นะ
แต่เมื่อสังคมเห็นคำว่า Chat shit get banged กลับไม่ได้ต่อต้าน ว่าพูดจาไม่เพราะ แต่ทิศทางจะไปแนวขำๆ ว่า เออ วาร์ดี้ช่างครีเอตคำเนอะ มันจึงกลายเป็นมีมตั้งแต่นั้นมา และกลายเป็นสำนวนที่ถูกใช้ไปในวงกว้างไปโดยปริยาย ว่า "พูดโง่ๆ เดี๋ยวโดนตบ"
คลิปล้อเลียนฟุตบอลของฝรั่ง ถ้าเป็นวาร์ดี้ จะแซวด้วยประโยคนี้ตลอด Chat shit, Chat shit
เสื้อหน้าสนามเลสเตอร์ ที่แฟนๆ ทำขาย ถ้าหากเป็นลายวาร์ดี้ ก็จะเล่นมุกกับคำว่า Chat shit get banged จนไปๆ มาๆ กลายเป็น Quote ประจำตัวของวาร์ดี้ไปเลยโดยปริยาย
ในเวลาต่อมา มีศิลปินแร็พสามคน ชื่อ Tincht Stryder, Example และ Tempa P แต่งเพลงสดุดีเจมี่ วาร์ดี้ โดยตั้งชื่อเพลงว่า Chat shit get banged ไปถ่าย MV กันหน้าสนามเวมบลีย์ด้วย
ด้วยความที่ประโยคนี้มันเป็นมีมดัง ทำให้รีเบ็กก้า ภรรยาของวาร์ดี้ บอกว่าต้องการไปจดเครื่องหมายการค้าคำว่า Chat shit get banged ไปเลย
แต่ทว่าการจดไม่สำเร็จเพราะกฎหมายอังกฤษระบุว่า เครื่องหมายการค้าห้ามมีคำหยาบคายปะปนอยู่ เคสนี้คำว่า Shit เต็มๆ จึงไม่สามารถจดเครื่องหมายการค้าได้
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้มันกลายเป็นประโยคที่ผู้คนเอามาเล่นกันอย่างแพร่หลาย และสังคมก็รับรู้ได้ ว่าจุดเริ่มต้นมาจากวาร์ดี้นี่แหละ
เรื่องนี้ถ้าอ่านดูขำๆ ก็ขำดี แต่ถ้าเรามองลึกลงไป จะมีสิ่งที่เราคิดตามได้สองอย่างครับ
อย่างแรกนั้น เขาบอกกันเสมอว่า ในโลกออนไลน์ เมื่อเราโพสต์อะไรไปแล้ว มันจะคงอยู่ตลอดไป มันคือสิ่งที่เรียกว่า Digital Footprint อย่างเคสของวาร์ดี้คราวนี้ เจ้าตัวโพสต์ไปงั้นแหละ ไม่ทันได้คิดอะไร แถมยังลบโพสต์ไปแล้วด้วย แต่ก็ยังถูกเอามาแฉ
เป็นข้อเตือนใจว่า สิ่งใดก็ตามที่เราโพสต์ไปแล้ว ถ้ามีคนเซฟ หรือ แคปไว้ มันจะคงอยู่ไปตลอด ไม่สามารถลบเลือนได้ และมันอาจกลับมาทำร้ายเราได้สักวัน คนจ้องจะเล่นเรามันมีอยู่แล้ว ดังนั้นต้องคิดให้ละเอียดมากๆ ก่อนจะโพสต์อะไรสักอย่าง
แต่กรณีของวาร์ดี้นั้น พิเศษนิดนึงตรงที่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บตัว ตรงข้ามยังเอามาเป็นจุดขายให้ตัวเองอีกซะงั้น แต่มันคงมีกรณีแบบนี้ไม่บ่อยหรอกเนอะ
ส่วนข้อคิดอย่างที่สองนั้น แม้ประโยคว่า พูดโง่ๆ เดี๋ยวโดนตบ มันจะขำดี แต่ในชีวิตจริงนั้น การใช้ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องดีหรอกครับ ถ้าเป็นในสังคมยุโรปหรืออเมริกา อีกฝ่ายจะพูดแย่แค่ไหน โง่แค่ไหน ก็จะไม่สามารถเอาคืนด้วยความรุนแรงได้ ไปตบตีอีกฝ่ายไม่ได้อะนะ
เหมือนเคสของคริส ร็อค กับ วิลล์ สมิธ แม้คริส ร็อคจะพูดแย่ๆ แค่ไหน (Chat Shit) แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า เขาไม่ควรโดนตบ (Get banged) และสุดท้ายคนที่โดนสังคมประณามหนักกว่าก็คือวิลล์ สมิธ คนที่ใช้กำลังนี่แหละ
ดังนั้น ถ้าเจอคน Chat shit ก็รู้เอาไว้ว่ามันเป็นคนแบบนั้นก็พอ แต่อย่าไป Bang จริงๆ เข้าล่ะ!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
