3 ต.ค. 2022 เวลา 04:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🎭 ตลาด ‘กลัว’ หรือ ‘โลภ’ ดูยังไง...Fear & Greed Index มีคำตอบ
จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว
Warren Buffett 👓
ประโยคนี้นักลงทุนทั่วโลกฟังจนชินหู เพราะเป็นคำแนะนำอันแสนเรียบง่ายของนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่อย่างปู่ Warren Buffett นั่นเอง จนทุกคนจำกันได้ขึ้นใจ ❤️
ประโยคนี้สามารถสรุปได้ง่ายๆ 2 ข้อด้วยกันครับ คือ
📈 เมื่อตลาดหุ้นขึ้น จะทำให้นักลงทุนเกิด #ความโลภ ไล่ราคาหุ้นกันอย่างบ้าระห่ำ ดันให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เวลานี้นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าส่วนใหญ่จะ ‘ซุ่มดูอย่างห่างๆ’ 👀
📉 เมื่อตลาดหุ้นตก จะทำให้นักลงทุนเกิด #ความกลัว จนเทขายหนักแทบหมดหน้าตัก ฉุดให้ราคาหุ้นตกจนต่ำสุดๆ เวลานี้นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจะ ‘เข้าไปชอปปิงอย่างเริงร่า’ 🛍️
หากคุณมีประสบการณ์ในการลงทุนอยู่บ้าง การจะสังเกตว่าช่วงไหนที่ ตลาดหุ้น #กำลังโลภ หรือ #กำลังกลัว อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่คงกำลังมึนๆ งงๆ จนปล่อยอารมณ์ไปตามตลาดก็มี 😅
การสังเกตอารมณ์ตลาดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเหมือนกัน เพราะอารมณ์ตลาดก็เหมือนอารมณ์มนุษย์ มันลึกล้ำเกินจะหยั่งถึง คงจะดีถ้าหากมีเครื่องมือที่ช่วยบอกว่า อารมณ์ตลาดตอนนี้เป็นยังไง 🤔
และวันนี้เราขอแนะนำให้คุณรู้จัก Fear & Greed Index หรือ ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ที่จะช่วยบอกอารมณ์ของตลาดหุ้น โดยคุณเข้าไปดูดัชนีตัวนี้ได้ที่นี่ครับ 🎭 jitta.co/3LGSc2I
ต่อไปนี้ การจะลงทุนในช่วงที่คนอื่นกลัว ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป
แต่ Fear & Greed Index คืออะไร เราไปดูกันครับ
⚒️ ใครสร้าง Fear & Greed Index?
ดัชนี Fear & Greed Index ถูกสร้างขึ้นโดยสำนักข่าว CNN ที่มองเห็นว่า สองอารมณ์นี้มีผลต่อ ‘ราคาหุ้น’ อย่างชัดเจน โดยดัชนีความกลัวและความโลภจะวัดค่าทุกวันเมื่อมีข้อมูลใหม่เกิดขึ้น 📺
อย่างที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น ดัชนีความกลัวและความโลภ จะบอกภาพรวมตลาดหุ้นในตอนนี้ มีราคาที่น่าเข้าลงทุนหรือไม่ จำเอาไว้ว่า #ความกลัว ทำให้หุ้นถูก และ #ความโลภ ทำให้หุ้นแพง 💲
Fear & Greed Index จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยประกอบการตัดสินใจลงทุนที่คุณควรรู้ไว้ เพราะมันมีประโยชน์อย่างมากต่อการลงทุนของคุณนั่นเองครับ 😉
📐 Fear & Greed Index วัดจากอะไร?
การวัดค่า #ความกลัว และ #ความโลภ ปกติแล้วนักลงทุนทั่วไปจะดูจากแนวโน้มตลาดในช่วงนั้นคร่าวๆ แต่การสร้างดัชนีตัวนี้มีหลายปัจจัยมากกว่านั้น เพื่อให้สามารถคำนวณ ‘อารมณ์’ ได้อย่างแม่นยำครับ 🎯
และนี่คือ 7 ปัจจัยสำคัญที่สะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนโดยรวมในแต่ละช่วง ประกอบไปด้วย
1. การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 📈
วัดจากดัชนี S&P 500 เทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 125 วัน
2. ความแข็งแรงของราคาหุ้น 💎
วัดจำนวนหุ้นที่ราคาทำสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ เทียบกับหุ้นที่ราคาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ จากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)
3. ความกว้างของราคาหุ้น 💹
วัดจาก ‘ปริมาณซื้อขาย’ ของหุ้นที่ปรับตัวขึ้นและหุ้นที่ปรับตัวลง
4. จำนวน Put Option ⬇️ และ Call Option ⬆️
วัดจากจำนวนการซื้อ Put Option และ Call Option ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
โดยหากจำนวนการซื้อ Put Option สูงกว่า Call Option แปลว่า #ตลาดกำลังกลัว แต่หากจำนวนการซื้อ Call Option สูงกว่า Put Option แปลว่า #ตลาดกำลังโลภ
เรื่องสัญญา Option ค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่พอสมตวร คุณสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลและตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ jitta.co/3BWFFnc ครับ
5. ความต้องการตราสารหนี้เกรดต่ำหรือ ‘Junk Bond’ 🗑️
ใช้วัดความต้องการลงทุน ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ โดยวัดจากส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของ ‘ตราสารหนี้ชั้นดี’ และ ‘ตราสารหนี้เกรด Junk Bond’
6. ความผันผวนของตลาด 💫
วัดค่าจากดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) โดยมุ่งเน้นไปที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันของดัชนี VIX เป็นหลัก
7. ความต้องการสินทรัพย์ที่เป็นหลุมหลบภัย #SafeHaven 🕊️
วัดความแตกต่างผลตอบแทนระหว่าง ‘หุ้น’ และ ‘พันธบัตรรัฐบาล’
ทั้ง 7 ปัจจัยย่อยๆ นี้จะถูกคำนวณออกมาเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0-100 หลังจากนั้นจะถูกนำมาคำนวณเป็นดัชนี Fear & Greed Index รวมที่มีค่า 0-100 อีกที ซึ่งเราจะสามารถแบ่งอารมณ์ของตลาดออกมาได้ 5 ระดับครับ
😱 Extreme Fear #กลัวสุดขีด
😨 Fear #กลัว
😐 Neutral #เป็นกลาง
😏 Greed #โลภ
🤑 Extreme Greed #โลภสุดขีด
เพียงเท่านี้คุณก็รู้อารมณ์ของตลาดได้ ที่เหลือก็แค่ลงทุนในช่วงที่ตลาดกำลัง #กลัว หรือ #กลัวสุดขีด ตามที่ปู่ Buffett แนะนำแล้วครับ 😉
แต่ต้องบอกว่าดัชนี Fear & Greed Index ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันครับ เนื่องจากปัจจัยทั้งหมดจะวัดจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ทำให้ดัชนีนี้ไม่สามารถบอกอารมณ์ของตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ได้ชัดเจนแบบ 100%
แต่อย่างที่เรารู้กันว่าสหรัฐฯ เป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก เมื่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน ตลาดหุ้นอีกหลายประเทศก็จะผันผวนตาม ทำให้ Fear & Greed Index ช่วยบอก #ความกลัว และ #ความโลภ ตลาดอื่นแบบคร่าวๆ ได้ 🤓
จริงๆ เครื่องมือ Fear & Greed Index เหมาะจะใช้คู่กับทฤษฎี Mr. Market ที่ปรมาจารย์ Benjamin Graham คอยย้ำเตือนอยู่เสมอครับ
โดยเขาบอกว่า Mr. Market จะทำตัวไร้เหตุผลอยู่เสมอ และเอาหุ้นมาขายให้คุณหลากหลายราคา คุณต้องหาทางซื้อหุ้นราคาถูกให้ได้ แต่จงจำไว้เสมอคุณอย่าตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ Mr. Market เด็ดขาด 🧐
หากคุณอยากฟังรายละเอียดเกี่ยวกับ Mr. Market อย่างละเอียด ไปฟังได้ในพอดคาสต์นี้เลยครับ 🎙️ https://youtu.be/CQ463QNCjVQ
คุณคงจะเห็นว่าอารมณ์ส่งผลต่อการลงทุนขนาดไหน หากคุณต้องการลงทุนโดยตัดอคติออกไปโดยสิ้นเชิง Jitta Wealth ช่วยคุณได้ เข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ ⭐ jittawealth.com/
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้คนกำลัง #กลัวสุดขีด จากความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาด แต่สำหรับผู้มีสายตาเฉียบแหลม จะมองเห็นโอกาสลงทุน
ไม่แน่ว่าอาจถึงเวลา ที่คุณควรกล้าลงทุนแล้วก็เป็นได้ 😎
โฆษณา