4 ต.ค. 2022 เวลา 05:23 • ปรัชญา
ถ้าพวกเราวันไหนก็วันเก่าปีไหนก็ปีเก่าผ่านไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะว่าชีวิตของพวกเรามันถลำไถลไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่มีคำว่าถอยหลัง เมื่อมันไปหน้าแล้วจิตใจของเราหรือตัวของเรามีที่พึ่งอันเกษมหรือยัง
ถ้าพวกเรายังไม่มีที่พึ่งอันเกษม ที่พึ่งที่มั่นคง เราก็ต้องหาที่พึ่งให้กับตนเอง ยึดผู้ดี ยึดคุณงามความดีเอาไว้ ถ้าเรามีคุณงามความดีในจิตในใจแล้ว นั่นล่ะเราไป ณ สถานที่ใด อยู่ ณ สถานที่ใด ชีวิตของเราคืบคลานเข้ามาถึงจุดจบเราก็ไม่สะทกสะท้าน
เอ้อ เห็นแต่คนอื่นตาย เห็นแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายตาย มาถึงข้าแล้วเหรอคราวนี้ มา
ถึงข้าก็ทำยังไงได้ล่ะ ข้าจะอยู่เป็นร้อยปีพันปีก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ผิดธรรมชาติ ข้าก็จะต้องไปตามที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายท่านผ่านไปนั่นแหละ เราก็ต้องยอมน้อมรับในการเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดแก่เจ็บตายของเรา
เพราะเราก็มองเห็นแล้วพ่อแม่ครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่หลวงตาที่ท่านมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เป็นผู้มีอำนาจวาสนา ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเป็นบรมครูของพวกเราท่านก็หนีไม่พ้น แต่เราเป็นใครล่ะ ถ้าเราไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าไว้ก่อนมันสะท้านหวั่นไหวนะ
ศรัทธาญาติโยม เอ้ ทำไมมาถึงข้าว่ะ คนอื่นเขาทำไมไม่เป็นไรทำไมมาถึงข้า มันถึงทุกคนนั่นแหละไม่มีใครที่จะหลีกหนีพ้นไปได้
เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะถึงจุดนั้น พ่อแม่ครูบาอาจารย์พระพุทธเจ้าท่านจึงว่า ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ให้สั่งสมคุณงามความดีเอาไว้ อย่างที่หลวงพ่อได้พูด เมื่อเราตั้งจิตแน่วแน่แล้ว แล้วปฏิบัติตาม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคุณงามความดีสำหรับพวกเราทั้ง
หลายทั้งปวง
พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่หลวงตาท่านบอกว่า การทำคุณงามความดี ไม่หยุดอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง ถ้าเรายังไม่พ้นทุกข์ในวัฏสงสาร เรายังมีกิเลส ราคะ โทสะ โมหะอยู่ในจิตใจอยู่ เราไม่ควรจะหยุดอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง เราควรจะประกอบคุณงามความดีไปเรื่อย ๆ สั่งสมคุณงามความดีใส่ตัวเราเข้ามาเรื่อย ๆ
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก จากพระธรรมเทศนา “เมื่อทำดีแล้ว ตายก็ไม่เสียดายชีวิต” แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๖๕
โฆษณา