4 ต.ค. 2022 เวลา 05:49 • ท่องเที่ยว
ออกไปใช้ชีวิตบ้าง โลกกว้างยังมีอีกเยอะ ♥️
#ชีวิตมีครั้งเดียว 🎒🚶🏻‍♀️🌍⏰🏞🌄
สโลว์ไลฟ์ที่ Innsbruck เมืองสีพาสเทลภายใต้อ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์ 🏔🇦🇹
.
- มาต่อกันที่เมืองพาสเทลสีลูกกวาดเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาแอมป์สุดจึ้งอย่าง อินส์บรูค
- สิ่งที่ทำให้เมืองนี้สะดุดตาเป็นพิเศษนอกจากสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกก็คือวิวทิวทัศน์ของเทือกเขารอบเมืองนั่นเอง
- ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน ก็สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของเทือกเขาแอลป์ได้แบบจุใจ
- แถมบ้านเมืองยังมีสีสันพาสเทลอ่อนๆ ไม่ฉูดฉาด สามารถกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติรอบเมืองได้เป็นอย่างดี
- ที่สำคัญเป็นเมืองที่สะอาดมากกกกเลยทีเดียว ประทับใจคนเรื่องเยอะ 🤣
- อินโทรกันพอประมาณแล้ว เราไปตะลุยอินส์บรูคกัน!
1️⃣ ประตูชัย Triumphpforte
- ขึ้นชื่อว่าประตูชัยก็คงจะสร้างขึ้นหลังจากชนะสงครามแน่ๆ สินะ
- คำตอบคือ ผิด!
- เพราะประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสระหว่าง เจ้าชายลีโอโพลด์ พระโอรสของ จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซ่า แห่งออสเตรีย และเจ้าหญิงสเปน Maria Ludovia
2️⃣ Innsbruck
- จุดไฮไลท์ที่ไม่มาตรงนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงอินส์บรูค
- เพราะอาคารสีพาสเทลที่เรียงรายกันอยู่เลียบแม่น้ำ Inn ซึ่งคือที่มาของชื่อเมือง เพราะ brucke ในภาษาเยอรมันคือสะพาน ดังนั้นเมืองนื้คือเมืองแห่งสะพานเหนือแม่น้ำอินนั่นเอง
- ความสวยงามของตึกสีพาสเทลที่มีแบ็คกราวด์ด้านหลังเป็นเทือกเขาแอลป์โดดเด่นนี้คงเป็นซิกเนเจอร์ที่มาแล้วยังไงก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยให้ได้
- รอบๆ สะพานแห่งนี้ยังมีตลาดขายอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งกินชิลล์ๆ รับลมเย็นๆ ได้ด้วย
- ใครกะว่าจะมาพักที่เมืองนี้สามารถมาชิลล์กันได้เลย
- ความสวยงามของตึกสีพาสเทลที่มีแบ็คกราวด์ด้านหลังเป็นเทือกเขาแอลป์โดดเด่นนี้คงเป็นซิกเนเจอร์ที่มาแล้วยังไงก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยให้ได้
- รอบๆ สะพานแห่งนี้ยังมีตลาดขายอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งกินชิลล์ๆ รับลมเย็นๆ ได้ด้วย
- ใครกะว่าจะมาพักที่เมืองนี้สามารถมาชิลล์กันได้เลย
3️⃣ Golden roof
- หลังคาทอง อีกแลนด์มาร์คที่โดดเด่นใจกลางของเมืองนี้
- แต่จริงๆ คือกระเบื้องทองแดงปิดทอง 2,657 ชิ้น เพราะงั้นไม่ใช่ทองจริงนาจา
- ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงานกับ Bianca Maria Sforza
- โดยได้ใช้เป็นที่ชมวิวเมือง ดูการแข่งขัน และงานอีเวนต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใจกลางจัตุรัสกลางเมืองนี้
4️⃣ Top of Innsbruck
- อีกจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของเมืองนี้คือการขึ้นไปบนยอดเขา Hafelekarspitze เพื่อไปชมวิวสุดอลังของเมืองกัน
- โดยเราจะต้องไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์กันที่สถานี
Hungerburgbahn Station Congress
- ระหว่างทางจะมีสถานี Hungerburg, Seegrube ก่อนจะไปถึงสถานีปลายทาง Hafelekar
- ใครจะแวะชมวิวก่อนระหว่างจะไปถึงด้านบนสุดก่อนก็ได้ หรือจะไปชมวิวจากด้านบนสุดแล้วค่อยๆ ไต่ลงมาก็ได้เช่นกัน
- และแล้วก็มาถึง Top of Innsbruck ที่ความสูง 7,400 ft จากระดับน้ำทะเล
- แต่เป็นการขึ้นมาที่คุ้มมากกกกกกกก เพราะนี่คือวิวเมืองแบบ panorama สามารถมองเห็นแม่น้ำอินที่ไหลผ่านเมืองได้แบบคมชัดระดับ Full HD
- แนะนำให้เช็คสภาพอากาศกันให้ดีๆ ก่อนขึ้นมาเพราะไม่งั้นอาจจะเจอเมฆบังจนมิดได้
- พิกัดสถานี: https://goo.gl/maps/KwdQQTVd5E9CB76MA
5️⃣ Alpine Zoo​ Innsbruck
- เป็นที่ๆ ชั่งใจอยู่ประมาณนึงว่าจะมาดีไหม แต่ปรากฎว่ามาแล้วประทับใจมากเลย
- เพราะเราคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นสัตว์แปลกๆ ที่อาศัยอยู่รอบๆ เทือกเขาแอลป์จากที่อื่นแน่นอน
- เหล่าน้อนๆ ที่นี่ก็น่ารักกันทุกตัว โดยเฉพาะน้อนหมีที่ออกมาโชว์ตัวหลายรอบมากๆ
- ที่นี่มีสัตว์หลากหลายให้เราเดินดูได้ไม่เบื่อ ตั้งแต่แมวป่า แพะภูเขา นาก บีเวอร์ หมาป่า ฯลฯ
- นอกจากจะเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงของยุโรปแล้ว ยังเป็นสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของยุโรปอีกด้วย
- ที่สำคัญสวนสัตว์ที่นี่มีความตั้งใจที่จะดูแลสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เป็นอย่างดี ก่อนที่จะปล่อยให้น้อนๆ กลับไปใช้ชีวิตอิสระบนเทือกเขาแอลป์ต่อ
- ทริปไหนมีเด็กๆ มาด้วย รับรองว่าจะต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน
6️⃣ Innsbrucker Hofgarten
- เดินมากันทั้งวันแล้ว ขอปิดท้ายด้วยการทิ้งตัวแบบชิลล์ๆ ที่สวนสาธารณะในเมือง
- เป็นสวนเล็กๆ ที่ผู้คนนิยมมานั่งพักผ่อนสบายๆ เอาผ้ามาปูนอนเล่น อ่านหนังสือ หรือปิกนิกแบบไม่เร่งรีบ
- เสียดายที่มีเวลาน้อยไปหน่อยสำหรับ day trip ที่นี่
- เพราะมีที่ๆ อยากจะไปเดินดูแต่เวลาไม่พออย่างพระราชวังอินส์บรูค Hofburg Innsbruck และอาณาจักรคริสตัล Swarovski ที่ต้องนั่งรถต่อออกไปจากเมือง เลยต้องตัดใจ 😞
- ใครที่มีแพลนว่าจะมานอนที่นี่สักคืน คิดว่าน่าจะเก็บครบทั้งหมดแน่นอน
โฆษณา