6 ต.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ ! จัดพอร์ตอย่างไร เลือกลดหย่อนภาษีแบบไหน ถึงตอบโจทย์
หากใครกำลังมองหาการลงทุนที่ได้มากกว่า ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย เงินปันผล หรือดอกเบี้ย กองทุน RMF และ SSF เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรพลาด ลงทุนไม่เสียเปล่า แถมยังได้ประโยชน์ X2
1
เพราะนอกจากจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้แล้วนั้น กองทุนนี้ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางภาษีได้พร้อม ๆ กับการลงทุนไปด้วย ถือเป็นตัวเลือกการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักลงทุน และผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีเลยทีเดียว
ว่าแต่ กองทุน RMF กับ SSF คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ?
▪ RMF หรือ Retirement Mutual Fund
คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ และต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี
- ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี และสามารถขายคืนได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
ข้อดี : ได้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสะสมความมั่งคั่งระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ และช่วยให้คุณมีวินัยทางการเงินมากขึ้น
1
▪ SSF หรือ Super Savings Fund
เป็นกองทุนรวมเพื่อการออม เหมาะสำหรับวัยทำงานที่ต้องการออมเงินระยะยาว และต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ต้องการลดหย่อนภาษีปีไหนก็ลงทุนปีนั้น และไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ
- ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
ข้อดี : ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่อง สามารถเว้นระยะห่างในการซื้อได้ เพียงแต่ต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี เท่านั้น
2
📌 ทั้ง 2 กองทุนนี้ต่างมีข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่จะเลือกกองทุนแบบไหน และจัดพอร์ตอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล
➖ วันนี้ BBLAM ได้ทำสรุปมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว !! ➖
ข้อมูลกองทุนติดตามได้ที่
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนสามารถลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จาก ธนาคารกรุงเทพ และสำหรับผู้ลงทุนกองทุน RMF และ SSF ผ่านช่องทางของธนาคารกรุงเทพ สามารถชำระเงินลงทุนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้อีกด้วย
หรือลงทุนผ่าน BF Fund Trading จาก BBLAM ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tinyurl.com/kfsebd74
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน ได้ที่ BBLAM โทร 0 2674 6488 กด 8 www.bblam.co.th
หรือตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333
บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง โทร. 0-2231-3777 or 0-2618-1000
บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต โทร. 0-2777-8999
บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน โทร. 0-2638-5500
บจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส โทร. 0-2680-1234
บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) โทร. 0-2635-1700
บมจ.หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร โทร. 0-2305-9449
บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) โทร. 0-2657-7000
บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี โทร. 0-2659-7000
บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) โทร. 0-2658-8889
บจ.หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์โทร. 0-2949-1000
บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา โทร. 0-2026-5100 กด 1
คำเตือน: การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน
เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
#bblam #กองทุนบัวหลวง #ธนาคารกรุงเพท #bglobinfrarmf #bglobinfrassf #bglobinfra #rmf #ssf #inflation #สู้เงินเฟ้อ #allgenenjoy
โฆษณา