7 ต.ค. 2022 เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🖋️ PEG Ratio การประเมินมูลค่าหุ้นเติบโต ที่เปลี่ยนมือใหม่ให้กลายเป็นเซียนหุ้น
การลงทุนนั้น ไม่ว่าจะลงทุนอะไร การประเมินหามูลค่าแท้จริง มูลค่าเหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ถ้าเราจะจ่ายเงินลงทุนไปต้องรู้ว่าของสิ่งนั้นมีมูลเท่าไหร่ จ่ายราคานี้กำไรเท่าไหร่ ได้รับส่วนลดเท่าไหร่ ราคานี้แพงเกินไป เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และโอกาสการเติบโตในอนาคตมีมากหรือไม่
โดยการประเมินมูลค่าหุ้นของนักลงทุนมีหลากหลายวิธีครับ ไม่ว่าจะเป็น P/E P/BV และอื่น ๆ
โดยวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จัก การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ PEG เพื่อให้สามารถหาหุ้นเติบโต หุ้นโตเร็วได้ในราคาที่ยังไม่แพง
ถ้าพร้อมกันแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ !
📌 รู้จัก PEG Ratio
เป็นการประเมินมูลค่าหุ้น ที่เอาการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ P/E Ratio และเพิ่มอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น EPS Growth เพื่อคำนวณค้นหาหุ้นที่มีค่า P/E Ratio น้อยกว่า ค่า EPS Growth แปลว่า EPS Growth เติบโตสูงกว่าค่า P/E Ratio
นักลงทุนหลายคนอาจจะเห็นหุ้นบางตัวค่า P/E Ratio สูง ทำให้หุ้นเหล่านั้นไม่น่าสนใจ แต่หุ้น P/E Ratio สูง มักเป็นหุ้นดี หุ้นแข็งแกร่ง หุ้นเติบโตสูง
การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ PEG Ratio ช่วยประเมินว่า P/E Ratio สูง แต่ถ้าหาก EPS Growth สูงกว่า หุ้นอาจน่าสนใจเข้าลงทุนได้ โดยการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ PEG Ratio เหมาะสำหรับหุ้นเติบโต หุ้นโตเร็วนั่นเองครับ
⭐ สูตร PEG Ratio = P/E Ratio / EPS Growth
P = ราคาหุ้น (Price)
E = กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)
G = อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth)
⭐ ค่า PEG Ratio = 1 แสดงว่าหุ้นมี P/E Ratio เท่ากับ EPS Growth จะถูกเรียกว่า Fair Value เช่น P/E Ratio = 20 EPS Growth = 20
⭐ ค่า PEG Ratio > 1 แสดงว่าหุ้นมี P/E Ratio มากกว่า EPS Growth จะถูกเรียกว่า Overvalue หุ้นสูงกว่ามูลค่า เช่น P/E Ratio = 20 EPS Growth = 15 หุ้นราคาแพง
⭐ ค่า PEG Ratio < 1 แสดงว่าหุ้นมี P/E Ratio น้อยกว่า EPS Growth จะถูกเรียกว่า Undervalue หุ้นต่ำกว่ามูลค่า เช่น P/E Ratio = 15 EPS Growth = 20 หุ้นราคาถูก น่าลงทุน
📌 วิธีการหาค่า G (EPS Growth)
จุดสำคัญของการประเมินมูลค่าหุ้น PEG Ratio อยู่ที่การประเมินหาค่า G (EPS Growth) ว่านักลงทุนสามารถคาดการณ์ออกมาได้เท่าไหร่ นักลงทุนควรคาดการณ์ อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า ว่ากำไรเติบโตเป็นเท่าไหร่ และหุ้นนั้นมีอนาคตสดใสแค่ไหน
⭐ แล้วเราจะคาดการณ์คำนวณค่า G (EPS Growth) ได้อย่างไร ?
เรื่องนี้แหละยากเลยครับ
- นักลงทุนต้องวิเคราะห์จากธุรกิจ Business Model วิเคราะห์จาก OPPDAY เป้าหมายการเติบโตว่าเป็นอย่างไร ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า โดยวิธีการของผู้บริหารสอดคล้องกันหรือไม่
เช่น ผู้บริหารบอกเป้าหมายเติบโต 20% ถ้าบริษัท ABC ขายอุปกรณ์ IT ปัจจุบันมีจำนวน 10 สาขา เติบโต 20% แสดงว่าควรเพิ่ม 2 สาขา และวิเคราะห์ OPPDAY ย้อนหลังว่าผู้บริหารบอกเป้าหมายทำได้จริงหรือไม่ เช็กข้อมูลงบการเงิน 3-5 ปีย้อนหลัง อดีตอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้นสามารถเท่าไหร่ บริษัทมีประสิทธิภาพแค่ไหน ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ และวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ประกอบด้วย
⭐ หาค่า G (EPS Growth) ได้แล้ว หน้าที่ต่อมาของนักลงทุน คือการติดตามงบการเงินทุกไตรมาส ว่าสามารถเติบโตได้จริงหรือไม่ ตามคาดการณ์หรือไม่ ดีกว่าคาดการณ์หรือแย่กว่าคาดการณ์ และปรับคำนวณ PEG Ratio ใหม่เรื่อยๆ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง
📌 ข้อระวังของ PEG Ratio
PEG Ratio เป็นเพียงอัตราส่วนทางการเงินหนึ่งตัวเท่านั้น สำหรับการประเมินมูลค่าหุ้น นอกจากนี้นักลงทุนต้องดูอัตราส่วนทางการเงินตัวอื่นประกอบ
ค่า PEG Ratio เป็นเพียงการบอกว่าหุ้นน่าลงทุนหรือหุ้นไม่น่าลงทุนเท่านั้น เมื่อนำ P/E Ratio มาเปรียบเทียบ EPS Growth แต่ไม่ได้บอกคุณภาพของหุ้นว่าดีหรือไม่ดี นักลงทุนยังต้องวิเคราะห์ธุรกิจ เข้าใจ Business Model เพื่อให้เราสามารถดูคุณภาพของหุ้นได้ครบทุกมิติครับ
⭐ PEG Ratio ใช้ประเมินหุ้นเติบโต หุ้นโตเร็ว การหาค่า G (EPS Growth) คำนวณค่อนข้างยาก มีโอกาสผิดพลาดสูง ถ้าคำนวณค่า G ได้สูง หุ้นเติบโตดีตามเป้า หุ้นก็จะขึ้นไปเรื่อย ๆ ราคาขึ้นแรงเลย แต่ในทางกลับกัน ถ้าเติบโตพลาดเป้า ราคาลงแรงเลย พลาดขาดทุนได้เช่นกัน นักลงทุนก็ต้องระวังความเสี่ยงเรื่องนี้ด้วย
📌 สุดท้าย ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลลงลึกไปในรายละเอียด เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่เราลงทุน และอย่าลืมมาเติมความรู้ดีๆ ได้จากบทความของ SkillLane นะครับ 😀
โฆษณา