8 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ก็องเต้ไม่เหมือนเดิม ? ]
จนถึงตอนนี้ความคืบหน้าในการเจรจาสัญญาใหม่ของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มีแนวโน้มยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่หลายคนรู้กัน ฉบับปัจจุบันจะหมดลงในฤดูร้อน 2023 เรียกว่าขยับใกล้เข้ามาทุกที ทางฝ่ายเชลซีมีการตั้งโต๊ะพูดคุยกันบ้าง แต่ยังไม่อาจปิดดีลกันง่ายอย่างที่คิด
หากไม่นับ โรเมลู ลูกากู ที่ถูกปล่อยให้อินเตอร์ มิลานยืมใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คือแข้งเบอร์ต้นๆที่ได้ค่าจ้างสูงมาก
2 สมาชิกใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ คาลิดู คูลิบาลี่ ก็รับในเรตไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก จากข้อมูลล่าสุดของเว็บไซต์ Sportrac ที่ระบุเอาไว้
สเตอร์ลิ่ง ประมาณ 320,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในขณะที่ คูลิบาลี่ กับ ก็องเต้ เหยียบ 300,000 ปอนด์เลยทีเดียว ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะเป็นสองแข้งเพิ่งย้ายมา ยังไงค่าจ้างก็ต้องอัพตามความเหมาะสม
ส่วน ก็องเต้ รับในเรตนี้มาตั้งแต่ฤดูกาล 2018/19 หลังมีการขยายเพิ่มออกไป สะท้อนเลยว่ามีความสำคัญต่อทีมมากแค่ไหน เพราะช่วงดังกล่าวเชลซีไม่เคยจ่ายผู้เล่นคนไหนเกิน 250,000 ปอนด์เลย
ไม่มีใครสงสัยอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่เขาได้รับถือว่าเหมาะสมมากแล้ว เมื่อเทียบกับความบากบั่นมุ่งมั่นที่ทุ่มเทลงไป
เอกลักษณ์ของกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่คุ้นตากันก็คือ วิ่งพล่านทำงานหนักไม่หยุดหย่อน เหมือนว่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนถูกเปรียบเปรยว่าในร่างกายน่าจะมีสักแปดปอด
ขณะเดียวกันก็แทบไม่พูดไม่จาเลย ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว วินัยก็ดีเยี่ยม มาซ้อมอย่างแข็งขัน ไลฟ์สไตล์เรียบง่ายโลว์โปรไฟล์มาก ขับรถมินิคูเปอร์คันเล็กๆ ทั้งที่ศักยภาพทางการเงินสามารถซิ่งซูเปอร์คาร์ได้
2
ไม่ใช่แค่นั้น ก็องเต้ ยังแสดงถึงพัฒนาการที่ดีเยี่ยม เล่นได้หมดครอบคลุมเกมรับและรุก มีการจ่ายบอลอันตรายให้เห็นบ่อยๆ พร้อมเสียสละหากว่านำมาซึ่งชัยชนะของทีม
ทัศนคติชนะเลิศอย่างนี้ แฟนบอลเชลซีจึงยินดีที่จะเห็นเขาอยู่กับสโมสรต่อไปยาวๆ รวมทั้งสนับสนุนเรื่องค่าจ้างที่เหมาะสม
อีกทั้งยังเป็นเคสตัวอย่าง ให้พวกแข้งรุ่นหลังยึดถือตาม ไม่จำเป็นเลยที่ต้องโชว์ท่าแดนซ์พิสดารผ่านโซเชี่ยล เพิ่มรอยสักในทุกเดือน เปลี่ยนทรงผมในทุกสัปดาห์ ก็ยังมีคนเห็นและชื่นชมในแง่บวก
4
จึงเป็นธรรมดาที่เชลซีจะหวง ก็องเต้ เหมือนไข่ในหิน เป็นกล่องดวงใจที่ห้ามใครมาแตะต้อง
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาเปลี่ยน หลายอย่างมันก็ย่อมไม่เหมือนเดิม นี่เป็นสัจธรรม
1
มีนาคมปีหน้า ก็องเต้ จะอายุครบ 32 ปี แน่นอนว่าด้วยขวบวัยขนาดนี้ ย่อมอยู่ในช่วงขาลง ผ่านจุดพีกมาเรียบร้อย รอนับถอยหลังเตรียมตัวแขวนสตั๊ด
นอกจากร่างกายที่โรยราไม่เปรียะเหมือนยังหนุ่มแน่น ปัญหาอาการบาดเจ็บยังตามรังควานบ่อยขึ้น
ฤดูกาลที่แล้ว ก็องเต้ ลงเล่นทั้งสิ้น 46 นัดทุกรายการ ถือว่ามากเลยทีเดียว แต่อย่าลืมว่าเชลซีเข้ารอบชิงทั้งเอฟเอคัพและลีกคัพ รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกก็ไปถึงรอบควอเตอร์ไฟนั่ล แถมมียูฟ่า ซูเปอร์ คัพกับฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพเบียดเข้ามาเพิ่มอีก
เรียกว่าคิวแน่นเอี๊ยดเลย ฉะนั้นเป็นปกติที่ ก็องเต้ จะลงสนามถี่ ทั้งที่ความจริงแล้วก็พลาดไปพอสมควรเลย
อย่างในพรีเมียร์ลีกลงเล่น 26 เกม มีหายไปถึง 12 เกมด้วยกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการบาดเจ็บนี่แหล่ะ
เขาโดนเล่นงานทั้งโคนขาหนีบ หัวเข่า รวมถึงมีอยู่ช่วงที่ร่างกายอ่อนล้า จนต้องเบรกไว้รอให้ฟื้นฟูกลับมา
ขณะเดียวกัน ก็องเต้ รู้สึกหวาดผวากับเรื่องของหัวใจด้วย คนในครอบครัวเคยเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว ซึ่งเกรงว่าอาจเกี่ยวข้องกรรมพันธุ์
ช่วงที่โควิดระบาดหนัก ก็องเต้ เคยขออนุญาต แฟร็งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมในเวลานั้นไม่ต้องการมาฝึกซ้อม หากติดเชื้อไปจะกระทบหนักได้
นอกจากนี้ปรีซีซั่นของเชลซีที่ผ่านมา ยกพลไปเล่นที่สหรัฐฯ ปรากฏว่า ก็องเต้ ตกขบวน เพราะไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงห้ามเข้าประเทศตามมาตรการ
แน่นอนว่าเขากลัวจะได้รับเชื้อโควิด แต่ในอีกทางก็ไม่กล้าฉีดวัคซีน เพราะหวั่นเอฟเฟคต์อย่างคาดไม่ถึง หลังจากที่ได้เห็นในบางเคส
ในอีกด้านเลยทำให้มีแฟนบอลบางส่วน เริ่มรู้สึกสัมผัสได้ถึงความเรื่องมากของ ก็องเต้ แม้จะรู้ดีว่าเป็นนักเตะทุ่มเทขนาดไหน
ไม่ใช่แค่แฟนบอลเท่านั้น สโมสรเองก็คงไม่ต่างกันหรอก โดยเฉพาะการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่สะดุดลง
นี่คือช่วงเวลาที่เชลซีเพิ่งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 20 ปี เจ้าของใหม่ , ผู้บริหาร , ผู้จัดการทีม , สต๊าฟฟ์อีกหลายส่วนและนักเตะ ระบบเดิมๆถูกรื้อทิ้ง ไม่ได้เหมือนยุค โรมัน อบราโมวิช เรืองอำนาจ
ตามรายงานระบุว่า ก็องเต้ ต้องการสัญญายาว 4 ปี พร้อมอ้างถึง คาลิดู คูลิบาลี่ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน ยังได้รับอย่างนั้น ตอนเซ็นคว้าตัวมาเมื่อซัมเมอร์
แต่ ท็อดด์ โบห์ลี่ หนึ่งในเจ้าของและเป็นผู้ดูแลเรื่องนักเตะโดยตรงในช่วงแรก คงไม่เห็นด้วยแน่ เพราะโปรเจคต์ที่วางไว้คือ สร้างทีมแบบยั่งยืนด้วยคนรุ่นใหม่เป็นแรงขับเคลื่อน
แม้จะรู้ว่า ก็องเต้ คือฟันเฟืองชิ้นสำคัญ ผลักดันทีมประสบความสำเร็จมากมาย แต่ต้องยอมรับว่าอาจไม่ได้อยู่ในแผนสำหรับอนาคตอีกแล้ว
คงยากมากที่เชลซีจะยอมรับข้อเรียกร้อง สัญญายาว 4 ปี พร้อมค่าจ้างอย่างน้อยก็ต้อง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
หากย้อนกลับไปสัก 3-4 ปีก่อน คงจะไม่ต้องคิดมาก แต่ตอนนี้ต้องทบทวนใคร่ครวญกันให้ดี นักเตะอายุเยอะแล้ว บาดเจ็บก็บ่อย ซีซั่นนี้เพิ่งลงไปแค่ 2 เกมเท่านั้นเอง นั่นคือสัญญาณเตือนอย่างแท้จริง
หากไม่ยืดสัญญา หมายความว่าต้องยอมปล่อยฟรีๆในซัมเมอร์ คงไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
น่าสนใจกว่านั้นก็คือฟุต แมร์กาโต้สื่อฝรั่งเศสอ้างว่า ก็องเต้ อยากอยู่ในลอนดอนต่อ อาจรับฟังข้อเสนอของอาร์เซน่อลหรือท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แทนที่จะเลือกกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง
1
ไม่มีการยืนยันด้วยคำพูดอะไรทั้งสิ้น เราจึงไม่รู้ว่าข้อมูลนี้เท็จจริงแค่ไหนกัน อาจเป็นแค่ข่าวลือธรรมดา
แต่หากจริงขึ้นมา ลองนึกภาพ ก็องเต้ ย้ายไปเล่นให้สเปอร์ส ร่วมงานกับเจ้านายเก่าอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ เชื่อว่าแฟนบอลเชลซีคงทำใจยอมรับยาก
ระยะหลังดีกรีความเกลียดชังระหว่างเชลซีกับสเปอร์ส รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเป็นอริเบอร์หนึ่งของกันและกันไปแล้ว
ดังนั้นต้องติดตามอนาคต ก็องเต้ ให้ดีว่าลงเอยแบบไหน จะได้ต่อสัญญาหรือว่าปล่อยฟรี แล้วจะเลือกย้ายไปทีมใด
เหล่านี้เป็นคำถาม ที่สาวกสิงห์น้ำเงินได้แต่ภาวนาว่าไม่อยากเห็น ก็องเต้ เปลี่ยนไปมากกว่านี้เลย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา