8 ต.ค. 2022 เวลา 01:07 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Carbon Capture
Carbon Footprint
Carbon Credit
มีความหมายและเกี่ยวข้องกันอย่างไร สำคัญต่อโลกขนาดไหน
โลกเรา ประกอบ ไปด้วย คาร์บอนทุกส่วน แม้แต่ร่างกายมนุษย์ หากจะบอกว่า คาร์บอน เป็นของไม่ดี คงไม่ได้
 
คาร์บอน เมื่อ เปลี่ยนสถานะ หรือ อยู่ผิดที่ผิดทาง นั่นแหละ มันจึงจะเป็น
สิ่งที่แสลงสำหรับ โลกและมนุษย์
การที่ คาร์บอน อยู่ผิดที่ผิดทาง
โดยเฉพาะ เมื่อมันเปลี่ยนสถานะ
ล่องลอยไปในท้องฟ้า ไปปิดกั้น ชั้นบรรยากาศของโลก ที่ ต้องมี คาร์บอน เพื่อ ปิด ช่องบรรยากาศของโลก กันไม่ให้แสงออก เมื่อแสงอาทิตย์ ถูกเก็บกักบ้าง ก็ทำให้โลกเกิดความอบอุ่น และมีภาวะสมดุลตามธรรมชาติที่ควรเป็น
Carbon Footprint
และเมื่อ คาร์บอนเปลี่ยนสถานะ ไปปิดกั้น ช่องบรรยากาศทั้งหมด มันก็ย่อมทำให้เกิด ปฏิกิริยาเรือนกระจก(Green House Effect) เกิดภาวะโลกร้อน จน เดือดร้อนกันไปทั่วโลก
 
**ต้นไม้ คือ ตัวช่วย เปลี่ยนรูป คาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็น ออกซิเจน
ถือเป็นการเปลี่ยนสถานะคาร์บอนและปล่อยออกมาถูกที่ถูกทาง ที่ดีที่สุด**
Carbon Capture จะหมายถึง
การดักจับ คาร์บอน เพื่อกักเก็บไว้
ไม่ให้มันไปอยู่ผิดที่ผิดทาง
 
การที่ คาร์บอน เปลี่ยนสถานะ และอยู่ผิดที่ผิดทาง เป็นอันตรายต่อโลก นั้น
เราจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
 
#1.การปล่อยคาร์บอน
จะมีคำศัพท์ ที่เกี่ยวข้อง 2 คำ คือ
 
1.1 Carbon Footprint เป็นการ วัดค่าของคาร์บอนที่ปล่อย
 
1.2 Carbon Credit เป็นการ ลดการปล่อย เพื่อแลกเปลี่ยนเป็น มูลค่าเครดิต และ สามารถทำให้เกิดการรณรงค์ การปล่อยกาซ
Carbon Credit
ตอนนี้ โลกเรา ยังคงใช้ Carbon Footprint เพราะมันเป็นเสมือน
มาตรวัดการปล่อยกาซ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี คนถึงนิยม
 
ส่วน Carbon Credit ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่
วิธีการปฏิบัติในรายละเอียด เช่น
การได้รับเครดิต ไปจนถึงการใช้เครดิต ไม่ค่อยยุติธรรม ต่อโลกและ
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอื่นบนโลก
นอกจาก กลุ่มทุนทั่วโลก
จึงทำให้ คนทั้งโลกไม่นิยมและ
เห็นชอบในเรื่องของคาร์บอนเครดิต กัน จนต้อง คิดวิธีใหม่ๆ ขึ้นมา
กลายเป็นศาสตร์ใหม่ๆ กันขึ้นมา
#2.การกักเก็บ คาร์บอน
เป็นการ กักเก็บไม่ให้คาร์บอนเปลี่ยน สถานะ และ อยู่ในที่ควรอยู่
แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
 
2.1 CCS (Carbon Capture Storage)
การกักเก็บ คาร์บอน ไม่ให้รั่วไหล
ไปในทิศทางที่ไม่ควรไป
 
2.2 CCU(Carbon Capture Utilization)
การกักเก็บ คาร์บอน ไม่ให้รั่วไหลไปในทิศทางที่ไม่ควรไปและนำมาใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ และเมื่อเปลี่ยนสถานะ จะไปอยู่ในที่ๆควรเป็น ไม่มีผลกระทบต่อ สิ่งมีชีวิต และ โลก
CCS Carbon Capture Storage
ดังนั้น เราจะเห็นว่า
ศาสตร์ ในข้อ 1.1, 2.1, 2.2
เป็นสิ่งที่ดี และ จำเป็น ต่อ
โลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่
 
ส่วนใน ข้อที่ 2 Carbon Credit ก็คือ
สิ่งที่ดี และ จำเป็นต้องมี เหมือนกัน
แต่ควรเป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีการหมกเม็ด เพื่อผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง หรือ คนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง
 
การที่องค์กร หาซื้อ Carbon Credit ได้ และสามารถนำมาใช้ในการปล่อยกาซคาร์บอนได้
มันไม่ยุติธรรม มันเป็นเพียงการกำจัดสิทธิ ผู้ผลิตสินค้าและบริการ หน้าใหม่ ไม่ให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ
โดยมีกฎCarbon Credit ค้ำไว้ แต่
ผู้ผลิตสินค้าและบริการ เดิม สามารถปล่อยคาร์บอนได้
เพียงสนับสนุนซื้อ Carbon Credit ก็สามารถปล่อยคาร์บอนได้ดังเดิม
 
หาก ผู้ซื้อ Carbon Credit ได้
นำมาใช้ประโยชน์ โดยการ
ปรับรูปแบบ ของการปล่อยคาร์บอน
เดิมของตน ให้ลดน้อยลง โดยไม่ปรับ
ก็ไม่สามารถจะใช้ Carbon Credit ที่ซื้อมา ให้เป็นประโยชน์แก่องค์กรตนได้
การปล่อยกาซ ยังคงแบบเดิม
CCU Carbon Capture Utilization
แต่ถ้า ปรับกระบวนการ การปล่อยคาร์บอนของตนและใช้คาร์บอนเครดิตควบคู่ไปด้วย จะทำให้ การปล่อยคาร์บอนลดน้อยลง
อีกทั้ง การจะปล่อยกาซจากผู้ผลิตสินค้าและบริการ ที่เห็นแก่ตัว ก็จะไม่มีขึ้น
 
มันก็จะเป็นการ ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย อย่าง #ยุติธรรม
โฆษณา