8 ต.ค. 2022 เวลา 03:48 • ความคิดเห็น
ยุคที่ปืนเข้าถึงได้ง่ายกว่าร้านหนังสือ
“เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น
ไม่ใช่แปลว่ามันจะไม่เกิด”
คำกล่าวนี้เป็นความจริง
เพราะสิ่งที่ไม่คาดฝัน มันเกิดขึ้นได้เสมอ
จากเหตุการณ์ปล้นทองที่ลพบุรี
หรือเหตุการณ์กราดยิงที่โคราชเมื่อสามปีก่อน
มาถึงเหตุการณ์ล่าสุดการกราดยิงที่หนองบัวลำภู
ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ไปทั้งประเทศ ด้วยระยะห่างกันไม่กี่ปี
1
เหตุการณ์เหล่านี้คนไทยอย่างเราไม่มีใครคิด
มาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น
เราจะเห็นได้ก็แต่จากข่าวต่างประเทศหรือในหนังเท่านั้น
แต่ตอนนี้ความรุนแรงเหล่านี้ได้เกิดขึ้นในไทยแล้วหลายครั้ง
มันอาจถึงเวลาที่เราควรตั้งคำถามว่า
ทำอย่างไรถึงจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
บางคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวเลยไม่สนใจ
แต่หากมองให้ดีมันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
มีตัวเลขทางสถิติชี้ว่า
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนครอบครองปืนมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก
มีจำนวนปืนกว่า 10.3 ล้านกระบอก ในจำนวนนี้เป็นปืนที่ลงทะเบียนถูกต้อง 6 ล้านกว่ากระบอก
และเป็นปืนเถื่อนไม่ได้ลงทะเบียนอีก 4 ล้านกว่ากระบอก
หากคิดเป็นสถิติ เวลาเราออกไปข้างนอกเจอคน 100 คน จะมี 15 คนที่มีปืนติดตัว
2
และหากมาดูอันดับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในปี 2022
ไทยเราอยู่อันดับที่ 15 ของโลก มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนกว่า 2,800 คน
ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากในการที่เราจะออกไปใช้ชีวิตข้างนอกในทุกวันนี้
เพราะทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเจอกับคนมีอาวุธปืนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
จะด้วยเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้วยปัญหาทางจิต หรือยาเสพติดก็ตาม
เรากำลังอยู่ในยุคที่
คนเข้าถึงอาวุธปืนได้ง่ายกว่าเข้าถึงพิพิธภัณฑ์มิวเซียม
เรากำลังอยู่ในยุคที่จำนวนยาบ้ามีมากกว่าร้านหนังสือ
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะยังปลอดภัยเวลาออกนอกบ้านกันอีกหรือ?
ลูกหลาน พ่อ แม่ ญาติ ครอบครัว เพื่อน คนรู้จัก หรือใครก็ตาม
ล้วนมีความเสี่ยงที่วันใดวันหนึ่งอาจไปข้องเกี่ยวกับเหตุแบบนี้ได้
ถึงเวลาที่ผู้มีอำนาจจะเอาจริงเอาจังกับการควบคุมอาวุธปืน
และกวาดล้างยาบ้ายาเสพติดให้หมดไปเสียที
ไม่ควรผลักภาระให้ประชาชนต้องระวังตัวกันเอง
เพราะแค่คนปกติทั่วไปหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ยังเอาตัวรอดเองยังยากเลย
หากเกิดกับคนที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วย ผู้สูงวัย หรืออย่างเหตุการณ์ล่าสุดนี้ที่เกิดกับเด็กเล็ก
จะให้พวกเขาเอาตัวรอดเองได้ยังไง?
จากเหตุการณ์ที่โคราชสู่เหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู
3 ปีผ่านไป เรายังไม่มีวิธีรับมือป้องกันกับมัน
ได้แต่หวังว่าทุกฝ่ายจะถอดบทเรียนครั้งนี้
แล้วหันมาวางแผนป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
อย่าปล่อยให้ผ่านเลยไป จนรู้สึกเคยชินไปกับมัน
ท้ายนี้ผมขอไว้อาลัยให้กับผู้จากไปและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้ทุกท่านด้วยครับ
อ้างอิงข้อมูลสถิติจาก
โฆษณา