9 ต.ค. 2022 เวลา 08:10 • ปรัชญา
บทเรียนแห่ง FAKE NEWS
โลกแห่งการเสพสื่อเป็นวิวัฒนาการจากความอยากของ
มนุษย์ที่มีความต้องการไม่สิ้นสุดและมนุษย์ต้องการเป็นจุดสูงสุดใน
กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อเป็นที่ยอมรับ จะเป็นเช่นไรหากโลกที่เราเสพ
นั้นไม่มีความจริงอยู่เลย
โลกมายาที่แต่งเติมเพื่อบันเทิงความอยาก
หรือโลกแห่งสื่อที่เราเชื่อไปนั้นแล้วเราเชื่อได้แค่ไหนว่ามันถูกต้อง มี
การพิสูจน์จริงๆมาก่อนไหม แล้วถ้ามีการพิสูจน์มาแล้วนั้นคนที่ไป
พิสูจน์เขาเชื่อเขามากแค่ไหน เชื่อได้อย่างไร ในบางเรื่องที่เราไม่ได้
ไปสำรวจหรือพบเจอมาเองและบางครั้งเราก็เลือกที่จะเชื่อโดยสนิท
ใจเพียงเพราะว่ามันง่ายและไม่อยากที่จะเสียเวลาไปพิสูจน์มัน
เพราะอย่างไรการเสพข้อมูลนั้น
ขึ้นอยู่กับความสนใจของมนุษย์ผู้นั้นเอง
ถ้าไม่ชอบก็แค่ปัดเพื่อเปลี่ยนไปเพสข่าวใหม่
มีฉากในหนังเรื่องหนึ่งผมได้ไปดูมา “Awake” ตัวเรื่องจะ
เล่าถึงการเอาตัวรอดของมนุษย์ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรน
และในบทมีคำพูดหนึ่งที่ผมสะดุดใจ ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ โดยที่
ผู้ใหญ่ก็พูดขึ้นมาว่า “เผาหนังสือสะ!” “ทำไมนั้นหรอ” เด็กคนนั้น
ถาม ผู้ใหญ่เลยตอบกลับมาว่า
งั้นข้าขอถามต่อว่า “โลกมันกลมหรือมันแบนล่ะ? ก็เพราะ
ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าโลกมันกลมหรือมันแบน พวกเขาเลยไปสำรวจ
ไปทดลองแล้วพิสูจน์พวกเขาค้นพบว่าโลกกลม หลังจากนั้นก็เขียน
ลงสมุดและจดบันทึก แล้วเราก็เชื่อกันต่อๆมา ว่าโลกมันกลม ทุก
คนส่วนใหญ่ก็เชื่อเพียงเพราะว่าเขาพิสูจน์มาแล้วในตอนนั้น และ
ในตอนนี้ผ่านมาเราก็เชื่อในหนังสือ อ่านหนังสือแล้วเราก็เข้าใจโลก
ใบนี้โดยการขังตัวเองไว้ในกรอบความเชื่อเหล่านั้น และจนตอนนี้
ทุกคนก็ยังเชื่อและยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง”
บทหนังเล่าจบ ผมก็ได้แค่คิดว่าที่เขาพูดมันก็ถูก เพราะ
สมัยนี้เราเชื่ออะไรง่ายๆเพียงเพราะว่าสังคมบอกให้เชื่อโดยที่เรายัง
ได้ทดลองเราเห็นด้วยกับข้อพิสูจน์ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นจริงเท็จหรือถูก
ปรับแต่งมากเพียงเพราะว่าจำนวนยอดไลน์นั้นเยอะ หากการที่ทุก
คนเห็นด้วยกับสิ่งใด เราก็พร้อมจะเห็นด้วยและยอมเดินตามคน
ข้างหน้าไปเรื่อยๆเช่นนี้ เพราะความต่างจากผู้คนมันน่ากลัวและ
บางคนก็ไม่พร้อมที่จะรับมือมัน
กลายเป็นว่าสังคมในในสื่อออนไลน์คือการที่เรามองหาการ
มีพรรคพวกที่พร้อมจะเห็นด้วยกับเรา และพร้อมที่จะตัดสินว่าสิ่งใด
ถูกสิ่งใดผิดหรือ “ศาลเตี้ยออนไลน์”
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เคยกล่าวไวเกี่ยวกับ กาลามสูตร
ว่าด้วยเรื่อง “การให้มนุษย์พวกเราไม่เชื่อสิ่งใดอย่างงมงายโดยไม่ใช้
ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงมาก่อน อิติกิราย อย่าปลงใจเชื่อด้วยการ
เล่าลือหรือคนส่วนใหญ่เชื่อกัน” เป็น 1 ใน 10 ประกาศที่พระพุทธ
เข้าได้กล่าวไว้
ที่จะกล่าวก็คือทุกคำพูดที่เราได้โพสได้อ่านจากสื่อ
เราควรใช้ปัญญาพิจารณาอีกที ให้เห็นถึงคุณและโทษจนแน่ใจว่า
ข้อมูลและสื่อนั้นเมื่อเสพแล้วเป็นผลดีหรือไม่ อย่างไร บางครั้งเรื่อง
บางเรื่องไม่รับรู้ก็ไม่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง หรือเรื่องบางเรื่องที่สมควรรู้
แต่เรากับนิ่งเฉยก็จะพาชีวิตเราแย่ลงเช่นกัน
ผมจึงไม่ขอสรุปเนื้อหา
ที่กล่าวมาเพราะผมจะตั้งคำถามให้คุณ เลือกที่จะเสพสื่อให้ดีก่อน
ตีความใดๆ และอย่าเชื่อบทความของผมเช่นกันหากคุณยังไม่ได้
พิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง
โฆษณา