10 ต.ค. 2022 เวลา 12:10 • ไลฟ์สไตล์
"คนป่วย" ไม่ได้แปลว่าต้องไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป
ภาพลิขสิทธิ์สั่งซื้อจาก storyblocks.com
ยามใดที่ผู้คนต้องเผชิญหน้ากับโรคร้าย สังคมก็จะตีตราลงไปแล้วว่าเป็นคนที่มีความ "ป่วย" ต้องได้รับ "การรักษา" และมีความเปราะบางในรอบด้าน ซึ่งคนในสังคมต้องเห็นใจ สงสาร ค้ำชู เสียสละ เช่น ที่นั่งพิเศษ ทางเดินพิเศษ หรือ ลานจอดรถพิเศษ จนเกิดเป็นบรรทัดฐานของสังคมว่า คนที่ป่วยคือคนที่ไม่ใช่คนปกติบนไม้บรรทัดเดียวกันอีกต่อไป
แต่ "คนป่วย" ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป คนป่วยยังมีศักยภาพ สมรรถภาพ และบูรณภาพครบถ้วนเหมือนเฉกเช่นคนปกติใช้ชีวิตกันทั่วไปตามท้องถนน พวกเขาไปช้อปปิ้ง เล่นน้ำ สังสรรค์ และทำอะไรได้เหมือนทุกคน นั่นคือสิทธิ์ที่เขามี
นอกจากนี้ คนป่วย ไม่ว่าจะทางจิตประสาท หรือกายภาพก็ตาม ล้วนมีสติ การคิด เจตคติ วิจารณญาณ เหมือนเราทุกคน พวกเขาคิดเองเป็น ตามวัยวุฒิและคุณวุฒิที่ตนมี ไม่ได้บกพร่องหรือต้องรู้สึกจำยอมด้วยบทบาทที่สังคมมอบให้แล้วว่า เขาต้องสวมชุดคนป่วย หรือมีอะไรแปะหน้าบอกไว้ว่า "ฉันป่วย"
คนป่วยมีกำลัง ทั้งกายใจ ไม่ได้พร่องไปเลยเพียงเพราะพันธะที่ตนมีกับโรคของตน บางกรณี สังคมตีตราแล้วว่านี่นั่นคือโรคร้ายแรง เป็นแล้วตาย ไม่รอด หรือแค่รอเวลา ทั้งที่เจ้าของร่างกายที่ถูกระบุว่าป่วย ยังไม่ได้เลือกเลยด้วยซ้ำว่าจะใช้ชีวิตตัวเองอย่างไร
แต่สังคมกำหนดให้แล้ว ว่าป่วย เป็นโรคร้ายแรง รุนแรงจนต้องเห็นใจ
"คนมีโรค" กับ "คนที่อยู่ร่วมกันกับโรคได้" นั้นมันต่างกัน
คนมีโรค คือคนที่โรคมันยึดร่างไปแล้ว และเจ้าของร่างก็ยกวิญญาณให้โดยดุษณี นั่นเรียกคนป่วยแล้วจริงๆ ทิ้งทุกอย่างให้กับมัน แต่ไม่ได้หวังว่าจะเดินตามครรลองให้โรคมันไม่มาเป็นเจ้าของชีวิตเราได้
ส่วนคนที่อยู่ร่วมโรคได้นั้น คือ เข้าใจดีว่าโรคนั้นมีอยู่จริงเป็นเรื่องจริง รับได้ทนได้กับอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชของโรคที่สำแดงได้ ไม่ว่าจะอาการใดก็ตามเถิด เขาโอบรับมัน แล้วไม่ได้ตัดสินตนว่าป่วย ว่าบกพร่อง ว่าอ่อนแอ แค่เขาไม่สนใจว่านาฬิกาชีวิตจะหยุดเมื่อไร เขาก็แค่เดินตามเส้นทางของการรักษา ที่มันพิสูจน์แล้วว่ามันจะขจัดโรคได้ไม่มากก็น้อย
หลายคนถูกมองว่าป่วย ก็เลยคิดว่าตัวเองป่วย แต่มีอีกหลายคนไม่เชื่อว่าโรคของตนจะทำให้ตัวเองล้มเจ็บหรืออ่อนแอ แค่ใช้ชีวิตให้คุ้มกับการเกิดมาเพื่อรอวันให้ร่างได้ถมแผ่นดินหรือละลายกระแสธารา สู่ธรรมชาติ สู่โลก กลับสู่จุดเริ่มต้น เพื่อให้ลูกหลานทายาทได้มาสานต่อในสิ่งที่ตนสร้างไว้ต่อไป
ดังนี้แล้ว คนป่วยไม่ใช่เหยื่อของโรค แล้วก็ไม่ใช่เหยื่อของสังคมที่ด้อยค่าคนป่วย และก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่คนป่วยต้องมาด้อยค่าตัวเองด้วย คนป่วยที่แท้จริงนั้นคือคนที่เอาชนะตัวเอง ย้อนแย้งสังคม และเลือกให้โรคมันเป็นเศษเสี้ยวของสารัตถะสำคัญของชีวิตเท่านั้น
โฆษณา