22 ต.ค. 2022 เวลา 10:09
Move On Traveling: ม่วนใจที่ม่อนแจ่ม
Move On Traveling กรุงเทพ-เชียงใหม่
3 คืน 3 วัน
การเดินทางของทริปนี้เริ่มขึ้น หลังจากที่รู้ว่าเชียงใหม่น้ำท่วม แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อทุกอย่างถูกจองไว้หมดแล้ว จึงเป็นทริปที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เที่ยวเท่าไรนัก
ทริปนี้มีเวลาถ้านับจริง ๆ คือ 2 คืน 3 วัน เป็นทริปใช้เวลาไม่มาก แต่เที่ยวได้เกือบทั่วทั้งไปดอย ชมทะเลหมอก ไหว้พระ ชมตำหนัก เดินถนนยามค่ำ ไปสวนสัตว์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเช่ารถครับ
สถานีรถไฟ ชุมทางบางซื่อ
ผมออกเดินทางในค่ำวันพุธที่ 5 ต.ค. 65 จากสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ CNR กรุงเทพ-ชียงใหม่ ขบวนรถไฟมาถึงตามเวลานัดหมายที่ได้จากการจองตั๋วผ่านออนไลน์ 18.34 น. บวกลบนิดหน่อย
เป็นครั้งแรกของการเดินทางด้วยรถไฟโบกี้ใหม่ ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง หรือที่ถูกปรับเป็นที่นอนรอไว้แล้วก็ตาม เรียกได้ว่าน่านั่งมาก แถมแต่ละที่นั่งแต่ละคู่จะมีปลั๊กไฟฟ้าไว้ให้ชาร์จแบตมือถือ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ อีกด้วย
สิ่งที่ขาดหายไปคือ รฟท.ยกเลิกตู้เสบียงภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่คิดจะเดินทางต้องเตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่มมาเผื่อไว้เอง แม้ว่าบนรถจะมีแจกน้ำดื่มให้คนละขวดก็ตาม
เดินไปดูห้องน้ำก็เรียกว่าใหม่ และทางการรถไฟแจ้งว่าเป็นห้องน้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ช่วงที่ถึงเวลานอน การนอนในรถไฟเตียงล่างก็จะมีกระเทือนบ้างตามปกติ แต่ก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ได้อยู่ มาตื่นอีกทีด้วยความเคยชินก็เกือบจะตี 5 แล้ว รถไฟมาใกล้ถึงลำปาง
ด้วยความที่ปัจจุบันรถไฟกลายเป็นรางคู่ จึงทำให้สามารถทำเวลาได้ แต่สิ่งที่เสียไปคือ การมองไม่เห็นช่วงที่ลอดอุโมงค์ถ้ำขุนตาล ซึ่งเป็นเวลาก่อน 6 โมงเช้า ยังมืดสนิทอยู่ แต่ก็ได้เห็นแสงอรุณแรกเมื่อพ้นสถานีถ้ำขุนตาลมาแล้ว พร้อมกับหมอกยามเช้า ผมคิดในใจ ทริปนี้เริ่มมีอะไรดี ๆ เกินกว่าที่ทำใจไว้แล้วแน่
สถานีเชียงใหม่คือสุดทางของขบวนรถไฟด่วนพิเศษ CNR ถึงก่อนเวลานิดหน่อย ประมาณ 7.24 น. ของเช้าวันพฤหัส แวะทานอเมริกัน เบร็คฟาสต์ร้านหน้าสถานีกันก่อน ระหว่างรอรถเช่ามาส่งที่สถานี
ท้องอิ่ม รถเช่าก็มาแล้ว ก็เกือบ 9.00 น. โตโยต้ายาริส ไม่ต้องกังวล พาขึ้นดอยได้สบาย ถ้าเที่ยว 1-2 คน ล้อหมุน การเดินทางทริปนี้เริ่มต้นขึ้นเสียที เชียงใหม่ที่ไม่ได้มาเยือนเป็นเวลาร่วมสิบปี เปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ผมไม่รอช้าตั้งพิกัด Google Map จุดหมายปลายทางคือ "ม่อนแจ่ม"
ระหว่างทางก็แวะสถานที่แรกที่อยู่ในเส้นทางผ่าน เลี้ยวซ้ายเข้าไปก็คือ...
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
(ตั้งอยู่ที่ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่)
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินทางผ่านไปยังมอนแจ่ม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่มาก
ไฮไลท์ของสวนพฤกษาศาสตร์ฯ คือ ทางเดินสกายวอล์คเหนือยอดไม้ ที่เราจะได้เห็นภูมิทัศน์อันเขียวสดสวยงาม ยิ่งถ้าไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นต้นไปก็จะได้เห็นไอหมอกลอยอยู่เหนือยอดเขาไกลสุดตา มองไปก็มีความละม้ายคล้ายภูเขาไฟฟูจิอยู่เหมือนกัน
อีกหนึ่งไฮไลท์คือ อาคารเรือนกระจก Glass House เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นานาชนิดได้เข้าไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้นานาชนิด ทั้งไม้ใบ ไม้ดอก พืชทะเลทราย กล้วยไม้ ฯลฯ และยังมีต้นกล้าจำหน่ายให้เรานำไปปลูกได้อีกด้วย จะขับรถเข้าไปเยี่ยมชมเอง หรือ นั่งรถรางเที่ยวชมก็ได้
วันที่ผมไป ก็มีเด็ก ๆ มาทัศนศึกษากันเยอะทีเดียว
หน้าทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์ เป็นที่ตั้งของ Glass House Garden แวะดื่มชาเย็นก่อนเดินทางต่อ บรรยากาศร้านสวยครับ น่านั่งมาก
หมดเกือบไปครึ่งวันกับสวนพฤกษศาสตร์ฯ
เดินทางต่อ จุดหมายรายทางต่อไปคือ
โปงแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคลสเตอร์
(ตั้งอยู่ที่ 99/9 หมู่ 2 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่)
คราวนี้ไปแอดเวนเจอร์กันสักหน่อย
ที่นี่มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้คนที่รักการผจญภัยได้พิสูจน์ใจตนเอง ซิกเนเจอร์ก็คือ จังเกิ้ล โคลสเตอร์ เครื่องเล่นที่ผมตั้งใจมาเล่นเลย อารมณ์แบบนั่งรถไฟเหาะเดี่ยว ๆ บังคับเองไปตามเส้นทางโค้งคดเคี้ยว ตอนที่รถพุ่งออกไป มีแบบหวิว ๆ วูบ ๆ เพราะกลัวรถมันจะตกรางเวลาตีโค้ง ก็ตื่นเต้นดีครับ มาแล้วต้องลอง
เครื่องเล่นอื่น ๆ ก็ได้แก่ จังเกิ้ลไบค์ ปั่นจักรยานบนลวดสลิง มีทั้้งแบบสองล้อ และสามล้อ, ไจแอนท์สวิง อารมณ์แบบ นั่งชิงช้าไปโดดหอ ไปตามสถานีต่าง ๆ
บอกเผื่อไว้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเล่นทั้งหมด ให้ซื้อตั๋วแยกเครื่องเล่นนะครับ เอาที่คิดว่าตนเองไหว แต่ถ้าขาลุยทุกสถานี แนะนำตัดตั๋วรวมไปเลยดีกว่า ประหยัดกว่า ส่วนตัวผม ไหวอย่างเดียวคือ จังเกิ้ล โคลสเตอร์
ถึงเวลาบ่ายแล้ว แวะทานข้าวที่นี่เลย อาหารรสชาติใช้ได้ครับ เมนูที่สั่งคือ ข้าวกะเพราทะเล + ไข่ดาว ครับ ราคาไม่แพงมาก ร้อยนิด ๆ
ท้องอิ่มเดินทางต่อ ขับรถไต่ความชันของเขาไปเรื่อย ๆ จุดหมายปลายทางคือ
ดอยม่อนแจ่ม ไร่อิงตะวัน
(ตั้งอยู่ที่ ตำบล แม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่)
ที่พักที่นี่เป็นเต็นท์โดม มองเห็นทิวทัศน์ 360 องศา ช่วงบ่ายเต็นท์ก็จะมีความร้อนอยู่เหมือนกัน เข้าไปนอนไม่ได้ แต่พอหลังจากเข้าสู่ยามเย็นก่อนค่ำ แค่นั่งเล่นข้างนอกยังเริ่มรู้สึกถึงความเย็น พอตกค่ำไปจนดึกก็คือหนาว อุณหภูมิที่วัดได้ 17 องศาเซลเซียส กำลังดีครับ
ไร่อิงตะวันจะมีบริการหมูกระทะให้กับแขกด้วย สั่งเขาได้ถ้าต้องการ แต่มันก็จะหนักหนาสำหรับคนเดียวไปหน่อย กว่าจะทานหมดก็ต้องลากไปจนกลางคืนครับ
ตื่นเช้ามาตั้งแต่ตี 5 ครึ่งเพื่อจะดูแสงแรกของม่อนแจ่ม และทะเลหมอก พร้อมกับอาหารเช้า ข้าวต้มร้อน ๆ น้ำซุปอร่อยกว่าที่คิด กับวิวหลักล้าน ฟินสุด ๆ
พออิ่มก็เก็บข้าวของ เช็คเอาท์ และเดินทางต่อ เพื่อไปจุดชมวิวยอดดอยม่อนแจ่ม
สัมผัสทะเลหมอกท่ามกลางหมู่ดอกไม้ ระหว่างที่เก็บภาพหมอกก็เริ่มหนาขึ้นจนมองไม่เห็นทิวทัศน์ จนเหมือนมีแต่หมอกล้อมรอบตัวเรา
ที่นี่มีร้านกาแฟยอดดอยม่อนแจ่ม ผมสั่งชาเย็นมาทางกับขนมปังปิ้งวิปครีมชอคโกแลต นั่งรับลมเย็น ๆ ชมไอหมอก สูดอากาศฟอกปอดก่อนเดินทางต่อ
ถึงเวลาจะลงจากดอยไปลุยตามรายทาง เส้นทางไหว้พระ เที่ยวพระตำหนัก ก่อนจะกลับไปพักบนถนนสุดชิค นิมมานเหมินทร์
ไว้จะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไป
Photography & MV Travel by Moverine
ขอบคุณที่มาข้อมูล:
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เที่ยวเมืองไทย
ไปให้ทั่ว
Move On Traveling
โฆษณา