[ลงทุนแมน] รู้จัก “Bigo Live” แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง 80,000 ล้าน ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น คงจะเป็นผู้ให้บริการด้านไลฟ์สตรีมมิง โดยหนึ่งในผู้นำตลาด ที่คนไทยหลายคนอาจเคยใ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

17 ต.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ

รู้จัก “Bigo Live” แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง 80,000 ล้าน

ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น คงจะเป็นผู้ให้บริการด้านไลฟ์สตรีมมิง โดยหนึ่งในผู้นำตลาด ที่คนไทยหลายคนอาจเคยใช้งานกันอยู่บ้าง ก็คือ “Bigo Live”

รู้ไหมว่า Bigo Live มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย แต่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาดไปทั่วโลก ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 400 ล้านบัญชี และมีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 80,000 ล้านบาท

เรื่องราวของ Bigo Live น่าสนใจอย่างไร

แล้วใครกัน เป็นเจ้าของกิจการนี้ ?

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

Bigo Live เป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง จากประเทศสิงคโปร์ เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2016 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งกิจการ ก็คือ คุณ David Li ซีอีโอบริษัท JOYY Inc. เจ้าของ YY.com แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิงชื่อดังของประเทศจีน และคุณ Jason Hu วิศวกรยุคบุกเบิกของ JOYY Inc.

ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ช่วยกันปลุกปั้น YY.com มาตั้งแต่ปี 2005 จนมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา จากความแปลกใหม่ที่ให้คนดูสามารถซื้อไอเทมของขวัญส่งให้สตรีมเมอร์ได้ ซึ่งทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล และแพลตฟอร์มก็จะคิดค่าส่วนแบ่งไปเป็นรายได้

ต่อมาพวกเขาต้องการนำต้นแบบของ YY.com ไปทดลองทำตลาดในต่างประเทศดูบ้าง โดยมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน

จึงได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Bigo Technology ในปี 2014 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Bigo Live” ในเดือนมีนาคม ปี 2016 หรือเมื่อราว 6 ปีที่แล้ว

จุดเด่นของ Bigo Live คือ มีคอนเทนต์ไลฟ์สตรีมมิงให้เลือกรับชมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม, ร้องเพลง, ทำอาหาร, การใช้ชีวิตทั่วไป หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เป็นกระแสล่าสุดอย่าง การไลฟ์ขายของออนไลน์

ในขณะที่ฝั่งสตรีมเมอร์ก็สนใจมาผลิตคอนเทนต์ เพราะมีโอกาสสร้างรายได้จากการที่คนดูเติมเงินซื้อไอเทมของขวัญแบบ Virtual Gift ส่งให้ เพื่อสนับสนุนผลงาน

ซึ่งแพลตฟอร์มจะใช้ “Bigo Beans” หรือ ถั่ว เป็นสกุลเงินในระบบ โดยสตรีมเมอร์จะได้รับจำนวนถั่ว ตามมูลค่าไอเทมของขวัญ และสามารถนำถั่ว 210 อัน ไปแลกเป็นเงินได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 37.5 บาท

รวมทั้งบริษัทยังมีระบบต้นสังกัด คอยเซ็นสัญญากับสตรีมเมอร์ดัง ๆ เพื่อให้มาทำงานไลฟ์สตรีมมิงเป็นอาชีพ มีกำหนดตารางเวลางานที่แน่นอน และมีรายได้ประจำเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง

แล้วตอนนี้ Bigo Live มีขนาดธุรกิจใหญ่แค่ไหน ?

จากการที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงง่ายกว่าเดิม ทำให้ผู้บริโภคนิยมรับชมบริการไลฟ์สตรีมมิงกันมากขึ้น

ซึ่ง Bigo Live ก็ได้มีการขยายตลาดไปในทั้งทวีปเอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง รวมทั้งหมด 150 ประเทศทั่วโลก

ทำให้ปัจจุบัน แพลตฟอร์มมีจำนวนผู้สมัครสมาชิกประมาณ 400 ล้านบัญชี และมีผู้ใช้งานประจำราว 32.6 ล้านรายต่อเดือน

ซึ่งจากข้อมูลของเว็บไซต์ Data.ai พบว่า Bigo Live ติดอยู่ใน 10 อันดับ แอปที่มีการใช้จ่ายเงินมากที่สุดในโลกในปี 2021 และนอกจากนั้น บริษัทยังเป็นเจ้าของ Likee แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้น ที่กำลังได้รับความสนใจไม่น้อย

ด้วยฐานสมาชิกและผู้ใช้งานจำนวนมาก บริษัทจึงประสบความสำเร็จในการระดมเงินทุนกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีผู้เข้ามาลงทุนและถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 31.7% ก็คือ JOYY Inc. นั่นเอง

และเมื่อปี 2019 บริษัท JOYY Inc. ก็ตัดสินใจซื้อหุ้นส่วนที่เหลืออีก 68.3% ของ Bigo Technology ในราคา 54,000 ล้านบาท เพื่อควบรวมกิจการมาไว้ในเครือเอง

เท่ากับว่าในดีลซื้อขายครั้งนี้ Bigo Technology ถูกประเมินมูลค่าบริษัททั้งหมดไว้อยู่ที่ประมาณ 80,000 ล้านบาท เลยทีเดียว

ทีนี้ เรามาลองดูผลการดำเนินงานเฉพาะส่วนของ Bigo Live

ปี 2020 รายได้ 65,100 ล้านบาท ขาดทุน 1,950 ล้านบาท

ปี 2021 รายได้ 87,300 ล้านบาท กำไร 6,800 ล้านบาท

โดยรายได้จาก Bigo Live นั้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 88% ของรายได้ JOYY Inc. และจะเห็นได้ว่าธุรกิจมาถึงจุดที่พลิกมาทำกำไรได้แล้วด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทแม่ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของ Bigo Live คงหนีไม่พ้น การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ให้บริการรายอื่นที่มีจุดเด่นเฉพาะทาง ก็จะเข้ามาแย่งชิงเวลาของคนดูไป เช่น Twitch หรือ YouTube ในตลาดเกม หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ที่เพิ่มฟีเชอร์ไลฟ์สตรีมมิง เพื่อรองรับเรื่องโซเชียลคอมเมิร์ซกันมากขึ้น

จากเรื่องราวนี้จะเห็นได้ว่า หากเราประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำหรับตลาดภายในประเทศแล้ว เราก็อาจมีโอกาสนำโมเดลธุรกิจดังกล่าว ไปประยุกต์ใช้เพื่อขยายตลาดในต่างประเทศได้เหมือนกัน

มองกลับมาที่ประเทศไทยเอง

ก็มีหลายแพลตฟอร์มจากฝีมือคนไทย

ที่มีฟีเชอร์และบริการที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

ถ้าธุรกิจเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่

ก็ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า เราอาจได้เห็นแอปสัญชาติไทย

มีเวอร์ชันสากลออกไปโลดแล่นอยู่ในเวทีระดับโลก

เหมือนกรณีของ YY.com ที่นำไปสู่จุดกำเนิด Bigo Live ก็เป็นได้..