12 ต.ค. 2022 เวลา 08:29 • ความคิดเห็น
นี้คือ มนุษย์ที่สมบูรณ์คะ จบชั้นไหนไม่สำคัญ ค่าความเป็นมนุษย์เยี่ยมยอดมาก
เงิน 50 บาท!!!
บทเรียนราคาแพง จากคนขับ TAXI
บรรยากาศภายในรถนิ่งสนิท คนขับก็ขับรถไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งผมได้เปิดการสนทนา ด้วยคำถามถึงเส้นทางการเดินทาง ที่เกี่ยวข้องเล็กน้อยกับประเด็นเหตุการณ์ ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ
เมื่อผมเริ่มต้นบทสนทนาของผม ลุงคนขับก็พูดกลับมาด้วยเสียงที่สดใส และบอกว่าจะพยายามหาเส้นทางที่สะดวก และไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็วที่สุด
แล้วลุงคนขับก็ถามต่อว่า ผมได้จองเที่ยวรถสำหรับเดินทางต่อหรือยัง ต้องไปถึงให้ทันภายในเวลาเท่าไหร่? ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามที่ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะปกติเมื่อผมใช้บริการ Taxi คนขับมักจะไม่ถามผมว่าผมจะต้องรีบเดินทาง หรือไม่ จะถามก็แต่ว่าผมจะไปไหน ถ้าเขาไปได้ก็ OK ไปกัน
สิ่งที่ผมรู้สึกได้จากน้ำเสียง และบางประโยคที่พูดคุยกัน (ซึ่งบางประโยคผมจำข้อความชัดๆ ไม่ได้จริงๆ ต้องขออภัย) ผมสัมผัสได้ว่า ลุงเขาทำงานอย่างมีความสุขครับ ดูแล้วลุงมีความสุขจากการขับรถมากๆ
เมื่อผมดูท่าทางแล้วว่าลุงคนขับคนนี้ น่าจะคุยกันได้ถูกคอ ผมก็ยิงคำถามอื่นๆ ไปอีก ทำให้บทสนทนายิ่งสนุกมากขึ้น
ลุงชื่อสมหมาย ขับรถมาแล้วมากกว่า 14 ปี มีรถเป็นของตัวเอง และทีมงาน 3 คัน!!! (มีทีมด้วยนะคร๊าบบ)
ลุงบอกว่า ปกติลุงจะขับรถบริเวณรอบนอก และตามต่างจังหวัดเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ขับรถ เข้าไปในใจกลางกรุงเทพสักเท่าไหร่ ลุงบอกว่ามีงานออกต่างจังหวัด ไปหัวหิน ไปเชียงราย ไปนู่น ไปนี่ เป็นประจำ!!
และด้วยความสงสัยใคร่รู้ของผม ผมก็ถามไปอีกว่า แล้วลุงหาลูกค้ายังไงล่ะครับ ถึงได้มีงานเดินทางบ่อยๆ (ผมแอบคิดเอาเองว่าลุงแกคงไปจอดรถ ดักรอแถวๆ สนามบินเพื่อรับฝรั่ง)
แต่คำตอบที่ลุงบอกผมมา มันต่างจากที่ผมคิดเลย
ลุงแกบอกผมว่า แกมีลูกค้าประจำ และมีคนแนะนำลูกค้าให้แกเสมอ พร้อมโชว์ตารางการจองรถยาวไปถึงปีหน้า เรียบร้อยแล้ว… OMG!
เฮ้ย!!! ตารางจอง TAXI ของลุงยาวไปถึงปีหน้าแล้ว…. และระหว่างที่ผมนั่งรถไปอยู่ ก็มีคนโทรมาติดต่อเป็นการส่วนตัว เพื่อจะให้ลุง หรือทีมงานของลุง ไปรับอีกด้วย…. บร๊ะ!… ไม่ธรรมดาซะแล้ว
ตอนช่วงที่รถติดไฟแดง ลุงคงคุยกับผมแล้วสนุก ก็เลยดึงเอา เอกสารต่างๆ ในรถ มาให้ผมดู ซึ่งทำให้ผมตื่นตาตื่นใจมาก
ลุงบอกว่า ลุงจบแค่ ป.7 ภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ ผมก็ถามว่า แล้วเวลาคุยกับฝรั่งทำยังไง? ลุงก็บอกว่าก็ใช้ภาษามือบ้าง เขียนบ้าง วาดบ้าง ก็ไปกันได้
แต่ที่อึ้งไปกว่านั้นคือ คนขับ Taxi คนอื่นๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกับลุง มีคนนึงที่อ่าน ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เขียนก็ไม่ได้ แต่ลุงก็สามารถช่วยให้เขาไปรับไปส่ง ชาวต่างชาติได้
ลุงได้ทำตารางตัวหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมา พร้อมเขียนตัวเลขกำกับเอาไว้ เวลาที่จะสื่อสาร ให้เพื่อนในทีมเขียนภาษาอังกฤษ ลุงก็จะบอกเป็นตัวเลขแทน เช่น ถ้าบอกว่าเลข 1 ก็เขียนตัว A ลงไปเป็นต้น
ยังไม่หมดครับ!..............
และที่ทำให้ผมประทับใจมากๆ ก็คือ ตารางรายการของช่องทางต่างๆ ในสนามบิน
ลุงบอกว่า เวลาที่ลุงว่างๆ ลุงก็จะไปเดินสำรวจที่สนามบิน ว่ามันมีป้ายอะไรบ้าง และแต่ละป้ายอยู่ตรงไหน และมา list เป็นรายการทั้งหมดเอาไว้ เพื่อที่เวลาที่ชาวต่างชาติต้องการเดินทาง ไปที่ส่วนไหน ก็สามารถเลือกชี้จาก list รายการของลุงได้เลย ทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายมากขึ้น แม้อาจจะสื่อสารกันไม่เข้าใจอย่างครบถ้วน
ลุงบอกว่า…… “การทำการบ้านมาก่อน เป็นเรื่องสำคัญ ลุงทำการบ้านก่อนเสมอ และเมื่อทำการบ้านมาดี ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ลูกค้าพอใจ”
โอ้โห!! ลุงได้ปล่อยหมัดตรง เข้าหน้าผม ไปเต็มๆ อีก 1 ดอก ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ลุงถึงมีลูกค้าต่อเนื่องยาวข้ามเดือน ข้ามปี
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการทำการบ้านเพื่อลูกค้า เท่านั้นครับ แม้แต่กับชีวิตของลุงเอง ลุงก็มีการบริหารจัดการ และทำการบ้านเป็นอย่างดี ลุงมีการจดบัญชี รายรับ-รายจ่าย มีการบันทึกสิ่งสำคัญต่างๆ ในชีวิตเอาไว้แยกเป็นเล่มๆ แต่ละเล่มถูกแบ่งเอาไว้เป็นหมวดหมู่ ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย………….. อายไหมล่ะ…..
ลุงเล่าถึงรถว่า แกออกรถมือ 2 มาขับ เพื่อจะได้ผ่อนสบายๆ รายได้ที่ได้มาก็รับมาแบบพอกินพออยู่ แค่ทำแล้วลุงมีความสุข และลูกค้ามีความสุขก็พอ!!!
ลุงเอารูปของแผงวงจรของรถมาให้ดู แกบอกว่าตอนที่ว่างๆ อยู่บ้าน แกก็แกะรถออกมาดู แล้ววาดเอาไว้ แล้วทดสอบดูว่า ตรงไหนทำงานยังไง แกะอะไรออกแล้วอะไรดับ เพื่อทดลองว่า วงจรนี้ทำงานเชื่อมต่อกันอย่างไร เพื่อที่เวลาขับรถไปแล้วเจอปัญหาอะไรขึ้นมา ฉุกเฉินก็จะได้แก้ปัญหาได้เอง เพราะว่าไม่ใช่ช่าง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เรียนรู้ หาวิธีการรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย
ผมคิดในใจเลยว่า ผมจะต้องเอาเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังในวันนี้ มาแบ่งปัน แก่ผู้คนแน่นอน
แล้วลุงก็ทำผม SHOCK อีกครั้ง!!!
ในตอนนั้น เมื่อเดินทางมาได้สักระยะ มิเตอร์บนรถขึ้นมาถึงประมาณ 115 บาท แล้ว ลุงเอามือมาปิดมิเตอร์เอาไว้ แล้วบอกผมว่า…….
“มิเตอร์มันจะขึ้นไปเท่าไหร่ก็ช่างมันนะครับ…. ผมคิดแค่ 100 ก็พอ”
OMG!!! อีกรอบ… ปกติ ผมใช้บริการ Taxi ผมเคยแต่ให้เงินเพิ่มเพราะอยากให้… นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นฝ่ายได้รับ ลุงลดให้ผม ตั้งแต่ผมยังไม่ได้เอ่ยปากทำอะไรให้ลุง เลยด้วยซ้ำ
ลุงเล่าต่อว่าทำแบบนี้เป็นปกติ เมื่อตอนช่วงน้ำท่วม ลุงก็วิ่งรถช่วยเหลือคนด้วย บางคนมิเตอร์ขึ้น 100 ลุงก็คิดแค่ 50 ก็พอแล้ว ช่วยๆ กัน เวลาที่มีลูกค้าเหมาไปต่างจังหวัด (ตอนแรกผมคิดว่าลุงได้รายได้เยอะๆ เพราะว่ารับฝรั่งไปต่างจังหวัด และได้รับเงินจากฝรั่งเยอะ เพราะฝรั่งชอบ แต่เปล่าเลย ผมคิดผิด)
หากค่าเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นเหมาอยู่ที่ 1,500 บาท ลุงจะคิดราคาที่ถูกกว่านั้น ผมถามว่าทำไมล่ะครับ ในเมื่อก็เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ ไม่ได้ผิดอะไรนี่
ลุงบอกว่า ก็ถือว่าช่วยๆ กัน ลุงคำนวนเส้นทางมาก่อนแล้ว เส้นทางไหนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ลุงได้จดตารางคำนวณเส้นทาง ระยะทาง ความห่างของจุดเติมก๊าซ ปั้มน้ำมัน ฯลฯ เรียบร้อยแล้ว ทำให้ลุงสามารถคำนวณได้ว่า หากต้องเดินทางไป จังหวัดไหน อำเภอไหน จะมีค่าใช้จ่ายจริงๆ เท่าไหร่!!! แถมถ้าตีรถแบบ ไป – กลับ ลุงยังลดราคาให้อีก WOW WOW
การที่ลุงทำการบ้านมาอย่างดี ทำให้ลุงสามารถพูดกับลูกค้าแบบตรงไป ตรงมาได้ และมั่นใจ ผมเชื่ออย่างยิ่งครับว่า นี่เป็น 1 ในสาเหตุสำคัญ ที่ช่วยมัดใจลูกค้าของลุงเอาไว้ได้
ลุงบอกว่า “บางคนเวลาลูกค้า จะเหมารถ ไปไกลๆ ก็มักจะคิดก่อนเลยว่า จะขาดทุน วิ่งไปแล้วถ้าไม่มีคนนั่งเที่ยวกลับก็ไม่คุ้ม ถ้าอย่างนั้นไม่รับดีกว่า แต่ลุงไม่ ลุงไป และไปในราคาที่ถูกกว่าด้วย เพราะคำนวณดูแล้ว เราอยู่ได้ อยู่อย่างพอเพียง เราก็สบายแล้ว เราไม่ได้ทำเพื่อให้เราได้มากๆ เราทำเพื่อให้เราอยู่ได้ และคนอื่นก็อยู่ได้”
ลุงแทบจะเฉือดผมให้ตายด้วยบทเรียน ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
ผมถึงที่หมายพร้อมมิเตอร์ที่ขึ้นมาที่ 151 บาท และแน่นอนครับ ตามที่ลุงได้บอกผมเอาไว้ ลุงคิดเงินผมแค่ 100 บาทจริงๆ! ผมจะให้เพิ่มลุงก็ไม่เอา!!! และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทิปจาก Taxi 50 บาท
คำคมอื่นๆ ของลุงที่ผมได้ฟัง….
“อยู่อย่างพอเพียง มีความสุข และรักงานที่ทำ”
“ทำงานมันก็มีได้มากบ้าง ได้น้อยบ้าง คุยกันให้เข้าใจตั้งแต่แรก จะได้ไม่มีปัญหา”
“เราทำอะไร อย่าทำเพื่อมุ่งจะเอาผลกำไรมากๆ อย่างเดียว แต่ให้ทำเพื่อให้เราอยู่ได้ คนอื่นก็อยู่ได้”
“ถ้าแค่รอยยิ้ม ยังให้กันไม่ได้ คุณจะให้อะไรคนอื่นได้ และเมื่อคุณไม่รู้จักให้ใคร แล้วใครที่ไหนจะมาให้คุณ”
“อย่าอวดเก่ง เพราะยิ่งทำเป็นเก่ง ยิ่งหมดโอกาสเรียนรู้”
“พ่อแม่พี่น้อง คนรักกัน ยังทะเลาะกัน นับประสาอะไรกับคนทั้งประเทศ”
สรุปบทเรียนสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย
คนส่วนใหญ่ มัวแต่เอาอาชีพของตัวเอง มาเป็นข้อจำกัดเรื่องรายได้ และความสุขของตัวเอง ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว ไม่ว่างานอะไรก็ตามมันก็มีคุณค่า และสามารถช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้ทั้งนั้น และจุดเริ่มต้นทั้งหมด มันเริ่มมาจากตัวของเราเอง
ถ้าเราเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับการลงมือทำ สิ่งต่างๆ รู้จักจัดการ การบริหารชีวิต และมีวินัยในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร คุณก็จะสามารถสร้างคุณภาพชีวิต ที่ดีได้แน่นอน
หากคุณต้องการมีรายได้มากขึ้น การทำการบ้านมาก่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะยิ่งคุณทำการบ้านมาก่อนมากเท่าไหร่ คุณยิ่งมีความมั่นใจ และมีความน่าเชื่อถือ มากยิ่งขึ้น และนั่นนำมาซึ่งช่องทาง โอกาส และรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย
แต่เพียงแค่การหารายได้มากพอ ยังไม่ช่วยให้คุณมีความสุข และร่ำรวยได้ครับ คุณยังต้องมีการบริหารจัดการเงินที่ดีด้วย และวิธีการที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นคน มั่งคั่งได้อย่างรวดเร็วที่สุดก็คือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง
คนที่รู้จักพอเพียง แม้เขาจะได้รับรายได้ที่คนส่วนใหญ่ มองว่ามันน้อยเหลือเกิน ทำงานที่อาจดูไม่น่าทำสักเท่าไหร่เลย แต่สำหรับตัวของเขาเอง เขาก็ร่ำรวย และมีมากพอที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่น ได้จากใจแล้ว
ทิ้งท้าย….
ยังมีอีกมายมายครับที่ผมได้รับจากการนั่ง Taxi คันนี้ กับคนขับที่ชื่อว่า ลุงสมหมาย
หากใครมีเพื่อนที่กำลังจะเดินทางมาจาก ต่างประเทศ และต้องการคนไปรับ-ไปส่งดีๆ สักคน ผมเชื่อว่าคุณไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เบอร์โทรของลุงสมหมาย มี 2 เบอร์ครับ 087-0522525 และ 087-5920230
บทความนี้ ขอเป็นพลังใจให้คนที่ตั้งใจทำดี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ อาชีพว่า….. “ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร คุณก็มีรายได้ที่ดี และมีความสุขไปพร้อมกันได้แน่นอนครับ”
Cr. Ramet Tanawangsri
โฆษณา