14 ต.ค. 2022 เวลา 11:30 • ธุรกิจ
ทำไมโอวัลตินและไมโล ถึงต้องตั้งโรงงานใหญ่สุด ที่ไทยและมาเลเซีย
1
เมื่อพูดถึงชื่อของเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ที่เรารู้จัก ก็คงหนีไม่พ้น “โอวัลติน” และ “ไมโล” เพราะทั้ง 2 แบรนด์นี้ ต่างก็เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ทั้งในประเทศไทย และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เราอยู่นี้ เป็นที่ตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุด ของแบรนด์ระดับโลกทั้ง 2 แบรนด์ โดยโอวัลตินนั้น ได้ตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ในประเทศไทยของเรา ส่วนไมโลนั้น มีโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ตำบลเคมบง ประเทศมาเลเซีย
และถ้าหากว่าคุณสงสัย ว่าทำไมทั้ง 2 แบรนด์ ต้องมาตั้งโรงงานใหญ่ที่สุดที่นี่
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
ก่อนที่เราจะรู้เหตุผล ว่าทำไมไมโลและโอวัลติน ถึงต้องตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดใน 2 ประเทศนี้ เราต้องรู้จักกับเบื้องหลังของการสร้างความนิยม ของไมโลในมาเลเซีย และโอวัลตินในประเทศไทยเสียก่อน
ความนิยมของไมโลในประเทศมาเลเซียนั้น มาจากการที่ประเทศมาเลเซีย มีความคุ้นเคยกับการผลิตและการดื่มโกโก้มาเป็นเวลานาน โดยในช่วงที่มาเลเซียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษนั้น มาเลเซียเป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่ผลิตโกโก้มากที่สุดในโลก จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2
และด้วยอังกฤษนั้นปกครองมาเลเซียยาวนานถึง 133 ปี ทำให้โกโก้ค่อย ๆ กลมกลืนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมาเลเซียในที่สุด อีกทั้งชาวมาเลเซียยังชื่นชอบ ในการกินของหวานอีกด้วย สังเกตได้จากปริมาณการบริโภคน้ำตาลต่อหัวของประเทศมาเลเซีย ที่มากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก อยู่ที่ 57 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
ด้วยความคุ้นเคยกับโกโก้มาเป็นเวลานาน ผนวกกับรสนิยมที่ชอบกินของหวานของชาวมาเลเซียนี้เอง ก็ทำให้ไมโล ที่เข้ามาตีตลาดในมาเลเซีย เมื่อช่วงทศวรรษ 1950 ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นเหมือนเครื่องดื่มประจำชาติของมาเลเซียเลยทีเดียว
1
ซึ่งในขบวนพาเหรดวันชาติมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา รถไมโลโรงเรียน หรือ Milo Van ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้ไมโล เป็นที่นิยมอย่างมากในมาเลเซีย ก็ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมขบวนพาเหรดนั้นด้วย แม้ไมโลจะเป็นแบรนด์ของต่างชาติก็ตาม
ส่วนในประเทศไทยนั้น แม้จะไม่ได้มีความคุ้นเคยกับโกโก้มาเป็นเวลานานเท่ากับมาเลเซีย แต่ชาวไทยก็ได้สัมผัสกับโอวัลติน มาตั้งแต่ ค.ศ. 1934 หรือเมื่อ 88 ปีที่แล้ว ซึ่งการที่จะทำให้ชาวไทย ที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องดื่มช็อกโกแลต หันมาชอบโอวัลตินได้นั้น ก็คือการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
1
โดยโอวัลตินได้สร้างภาพจำของแบรนด์ ผ่านโฆษณามาตลอดว่า เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ให้พลังงานพร้อมสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งสามารถดื่มได้ทุกวัน และทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน
นอกจากนี้โอวัลตินยังมีการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วย โดย ณ ตอนนี้โอวัลติน มีจำนวนผลิตภัณฑ์มากถึง 10 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสูตรไวท์มอลต์ หรือนมถั่วเหลือง สำหรับลูกค้าที่ไม่ชอบดื่มช็อกโกแลต, สูตรหวานน้อย สำหรับลูกค้าที่อยากดูแลสุขภาพ, สูตรสำหรับผู้ประกอบการ ไว้ใช้เป็นส่วนประกอบของขนมหวาน และขนมทานเล่น เช่น คุกกี้กับนมอัดเม็ด สำหรับเด็กเล็ก
1
ด้วยความนิยมที่ล้นหลามของโอวัลตินในไทย และไมโลในมาเลเซียนี้เอง ก็ได้ทำให้ทั้ง 2 ประเทศนี้กลายเป็นตลาดผู้บริโภค ที่ใหญ่ที่สุดของโอวัลติน และไมโล
เหตุผลนี้เองก็เพียงพอแล้วสำหรับทั้ง 2 แบรนด์ ที่จะทำการสร้างโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในแต่ละประเทศ เพื่อป้อนสินค้าให้กับความต้องการของลูกค้ากลุ่มหลัก อีกทั้งยังสามารถกระจายสินค้า ไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันได้อีกด้วย โดยโอวัลตินก็สามารถกระจายสินค้าไปยัง ลาว, พม่า, กัมพูชา และเวียดนามได้ ในขณะที่ไมโล ก็สามารถกระจายสินค้าไปยัง อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ได้เช่นกัน
1
โดยในรายงานประจำปีในปี 2020 ของบริษัท Associated British Foods ก็ได้ระบุว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโอวัลติน อีกทั้งผลการสำรวจของ Nielsen ในปี 2021 ระบุว่าโอวัลตินนั้น เป็นแบรนด์เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ ที่มียอดขายมากที่สุดในไทย ส่วนในมาเลเซียเองนั้น ข้อมูลจาก Statista ในปี 2020 พบว่า จำนวนครัวเรือนที่ดื่มไมโลนั้น คิดเป็น 80% ของครัวเรือนในประเทศมาเลเซีย
ซึ่งถ้าหากถามว่าใครเป็นผู้ชนะ ในศึกเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ครั้งนี้ ก็ยังคงเป็นคำถามซึ่งยากที่จะตอบได้ แต่สิ่งที่เราจะยังคงได้เห็นต่อไป ก็คือการแข่งขันอันสูสีของทั้ง 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ โดยมีฐานที่มั่นสำคัญเป็น ประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย..
โฆษณา