13 ต.ค. 2022 เวลา 18:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
3 ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ฟื้นตัว ปิดงบครึ่งปี รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม
ภาพประกอบ: 3 บริษัทร้านสะดวกซื้อ ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น                           
ประกาศผลการปิดงบออกมาแล้ว!
แบรนด์ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ หรือ Convenience Store (CVS) ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นร้านค้าปลีกที่ได้รับ
ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
ในช่วงประมาณกว่า 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา
ที่เกิดการระบาดมาตั้งแต่ปี 2562 (ค.ศ. 2019)
แล้วเริ่มแพร่กระจายในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น
ตั้งแต่ปี 2563 (ค.ศ. 2020) ช่วงเดียวกับประเทศไทย
ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดมากขึ้น
และปิดเมืองตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563
เป็นต้นมา
1
ผลการประกาศการปิดงบบัญชีในระยะครึ่งปี
ซึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤกษคม ถึง เดือนสิงหาคม 2565
ของบริษัทร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่
ทั้ง 3 อันดับแรกของประเทศญี่ปุ่น
พบว่า ยอดขายของทั้ง 3 บริษัท เกือบจะฟื้นตัวได้แล้ว
ทั้งรายได้และกำไรในประเทศเพิ่มขึ้น
เพียงแต่กำไรที่ได้นั้น
จากค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้า ฯลฯ ของร้านค้า
ที่มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
เรียกว่า กำไรของทั้ง 3 บริษัท
ก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
กำไรที่ว่านี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ที่แล้ว
ลอว์สัน ลดลง 54.6% เท่ากับ 16.6 พันล้านเยน
แฟมิลี่มาร์ท ลดลง 30.5% เท่ากับ 32.1 พันล้านเยน
เซเว่นอีเลฟเว่น เจแปน
ลดลง 10.7% เท่ากับ 118.2 พันล้านเยน
แต่เมื่อเทียบกับการปิดงบประมาณ
ในไตรมาสแรกของปี
จนถึงเดือนพฤษภาคมของปี 2565 แล้ว
ช่องว่างของกำไรที่ลด แคบลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกัน
ของปี 2562 (ค.ศ. 2019)
ก่อนโรคโควิด -19 จะเริ่มแพร่กระจาย
ผลกำไรที่ได้ ยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด -19 ระบาด
แม้จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวดีขึ้นบ้าง
เกือบจะเท่าก่อนโรคโควิด-19 ระบาดแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ความยากลำบากจากโรคโควิด-19
ที่ระบาดยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
จากร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่น
มีมากมายหลายแบบ
ทั้งแบบที่มีสาขาทั่วประเทศบ้าง
มีเฉพาะภาคบ้าง หรือเฉพาะจังหวัดบ้าง
หรือที่เป็นร้านสะดวกซื้อแบบเดี่ยวๆ ก็มี
และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่หายไป
เพราะแยกย้าย ยกเลิกกิจการ
หรือ มีการควบรวมกิจการเกิดขึ้น หรือ
แยกเป็นนิติบุคคลที่มีเจ้าของธุรกิจคนเดียวไม่มีสาขา
ภาพประกอบ: กำไรในประเทศ ช่วงพ.ค. - ส.ค. 65  ลอว์สัน เซเว่นอิเลฟเว่น  แฟมิลี่มาร์ท ตามลำดับ
ตามข้อมูลการสำรวจของหรือ คอมบินิ เมคัง หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ร้านสะดวกซื้อ ไดเร็กทอรี นั้น
พบว่า ร้านสะดวกซื้อที่มีทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้แก่
➡ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
➡ ร้านแฟมิลี่ มาร์ท
➡ ร้านลอว์สัน
➡ ร้านยามาซากิ ช็อป
➡ ร้านมอนมาร์ท
➡ ร้านเซ็นนิชชกกุ เชน
3 ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่
ที่มีสาขาของธุรกิจตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่ว่านี้
มียอดขายรวมทุกสาขา
เฉพาะของภายในประเทศญี่ปุ่นแล้ว
ทุกบริษัทมีกำไรจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ
เพิ่มขึ้นประมาณ 3%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อันประกอบด้วย
➡ ลอว์สัน 13.1%
➡ เซเว่นอีเลฟเว่น 2.9%
➡ แฟมิลี่ มาร์ท 0.1%
แต่ละบริษัทมีกำไรสูงกว่าปีก่อน
ภาพประกอบ:  กำไร 3 บริษัทสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ เพิ่มขึ้นประมาณ 3% ของปีก่อน
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกของ 3 บริษํทนี้
เมื่อปี 2563 ( ค.ศ. 2020) เมื่อเทียบกับ
ผลรวมของยอดขายของสาขาทั่วประเทศในปีก่อนหน้า มีดังนี้ป
➡ ลอว์สัน -9.2%
➡ เซเว่น อีเลฟเว่น -3.4%
➡ แฟมิลี่มาร์ท 10.5%
โดยผลรวมของกำไรการขายของทั้ง 3 บริษัท
เท่ากับ 153.2 พันล้านเยน
จากสถิติแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกของ
กระทรวงเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ชี้ว่า
มูลค่าการชายของร้านสะดวกซื้อในปี 2564
เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่ม 1%
เท่ากับ 11,760 พันล้านเยน
มีจำนวนร้านดังกล่าวลดลง 0.3%
เท่ากับ 56,352 ร้าน
ภาพประกอบ: https://www.sej.co.jp/info/measures2004.html
ส่วนแนวโน้มการบริโภคหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นั้น
นายซาดาโนบุ ทาเกมาสุ ประธานบริษัทของร้านสะดวกซื้อลอว์สัน
ได้กล่าวในที่ประชุมรายงานผลประกอบการที่จัดขึ้นทางออนไลน์
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 (วันพฤหัสบดี) ของเดือนนี้ ว่า
“เป็นสถานการณ์ระหว่าง
การงดการออกนอกบ้านและจำกัดการเคลื่อนไหวไปมา
กับ การทำกิจกรรมและการบริโภคที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้น
ที่ต้องตระหนักถึงการอยู่คู่โควิด-19 (With COVID-19) เกิดขึ้น สลับกันไปมา”
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก
จึงไม่เพียงการฟื้นตัวของอุปสงค์
ด้วยการกลับมาเปิดกิจการ
เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งเท่านั้น
การมีร้านค้าที่สามารถรองรับอุปสงค์
ของการทำงานที่บ้าน คือ
“Work from Home” ก็เป็นสิ่งสำคัญตามมาด้วย
นอกจากนี้ “ผลกระทบของการขึ้นราคานี้
ก็ยังต้องเฝ้าดูด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ว่า
จะมีการปรับขึ้นมากน้อยตามมาอีกเท่าไร
การขึ้นราคากันง่ายๆ ลูกค้าจะรับไม่ได้
ผู้ประกอบการจีงยิ่งต้องใช้ความพยายาม
และต้องให้เกิดความคุ้มค่ามากขึ้น”
กด “ไลค์ (like)”
กด “แชร์ (share)”
กด “คอมเมนท์ (comment)”
หากคุณชอบคอนเทนท์นี้
อย่าลืม กด “ไลค์ (like)”
หากคุณเห็นว่าคอนเทนท์นี้ มีประโยชน์
อย่าลืม กด “แชร์ (share)”
หากคุณมีข้อเสนอแนะหรือเพิ่มเติมความคิดเห็น
อย่าลืม ส่ง “คอมเมนท์ (comment)”
ด้วยจักขอบคุณยิ่ง
อย่าลืม… ติดตามสาระดีๆ ในตอนต่อไป
โฆษณา