19 ต.ค. 2022 เวลา 00:20 • ธุรกิจ
3️⃣ สิ่งที่ธุรกิจต้องมี ถ้าไม่อยากปวดหัวกับคู่แข่ง
สรุปหนังสือ ผู้ประกอบการมือทอง ตอนที่แล้วได้เปรียบถึงพลังของแบรนด์ โดยยกตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่ถึงแม้จะมีคนทำของลอกเลียนแบบออกมาขาย แต่ร้านทางการก็ยังมีคนต่อคิวเพื่อรอเข้าไปซื้อ ขนาดโควิดที่ผ่านมาบางสาขาในบางประเทศ ลูกค้ายังยอมนั่งเครื่องบินส่วนตัวข้ามประเทศไปหาซื้อคนเดียวเป็นหลักหลายสิบล้านบาทอีกด้วย ทำอย่างไรให้ธุรกิจของทุกท่านอยู่ได้อย่างยั่งยืนขนาดนั้น มาหาคำตอบได้ในตอนนี้เลย
MIDAS TOUCH by Donald J. Trump & Robert T. Kiyosaki
รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว แบรนด์ มีมูลค่ามากกว่าตัวสินค้า/บริการ เสียอีก อย่างที่หลายท่านอาจเคยรู้สึก ของแบบเดียวกันแค่แปะโลโก้แบรนด์เนมก็อัพราคาขึ้นได้มาก
🤔 แล้วต้องทำอย่างไร ถึงจะสามารถสร้างแบรนด์ของตนเองให้มีอิมแพคเหมือนแบรนด์เนมอื่นๆ ได้
1️⃣ จุดยืนของแบรนด์
อยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในด้านไหน ❓
เมื่อพูดถึงแบรนด์นี้แล้วนึกถึงอะไร❓
ใคร หรือ อะไรที่เป็นคู่แข่งของแบรนด์ ❓
จุดยืนนั้นมีหลากหลายแล้วแต่มุมมองการมองเห็นโอกาสของแต่ละท่าน ไม่มีผิดถูก ไม่จำเป็นว่าจะจุดยืนจะต้องเป็นของดีที่สุด มีคุณภาพที่สุด แต่อาจจะเป็นถูกที่สุด ตรงไปตรงมาที่สุด ก็ได้เช่นกัน
สร้างแบรนด์นี้ออกมาเพราะอยากได้เงิน หรืออยากสร้างความแตกต่าง ❓
✋🏻 ควรระวัง หากตั้งจุดยืนในด้านลบ อนาคตทุกท่านอาจต้องเสียงบประมาณอย่างสูงในการกอบกู้ชื่อเสียง การสร้างแบรนด์เพื่อหวังเงินนั้นไม่ผิด แต่ควรตระหนักไว้ว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ลูกค้าสามารถเข้าถึงตัวเลือกต่างๆได้ง่ายและเร็วขึ้น การสร้างแบรนด์แบบมุ่งเน้นแต่กำไร โดยไม่แคร์การแก้ปัญหาให้ลูกค้า อาจไม่ใช่วิถีทางที่ยั่งยืน
ผู้เขียน (Robert T. Kiyosaki และ Donald J. Trump) ได้ให้แง่คิดไว้ว่า การมีจุดยืนและยึดมั่นในสิ่งที่เราเชื่อ/เป็น อาจนำมาซึ่งความเกลียดชัง จากคนที่ไม่เห็นด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกท่านอาจมีคนต่อต้าน โดยเฉพาะเมื่อประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง (เป็นบุคคลสาธารณะ) จงเตรียมใจให้คุ้นกับคำวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อทุกท่านประสบความสำเร็จจุดยืนของทุกท่านก็อาจเริ่มมีมารเข้ามาผจญ การรักษาจุดยืนให้ได้นี่แหละ ที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินได้ว่า แบรนด์ที่ทุกท่านสร้างขึ้นมานั้นมัน จริง หรือ ปลอม
2️⃣ การสื่อสาร
ทักษะที่สำคัญยิ่งคือ การสื่อสาร
เพื่อถ่ายทอดให้โลกรู้ว่าแบรนด์ที่ออกมา จุดยืนคืออะไร จะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้โลกนี้บ้าง
ไม่มีใครเข้าใจแบรนด์ของทุกท่านได้ดีไปกว่าตัวท่านเอง หากอยากสร้างแบรนด์แต่ขาดทักษะการสื่อสาร อาจจ้างโฆษกมาทำหน้าที่นี้ แต่ระหว่างนั้นก็ควรศึกษาทักษะการสื่อสารกับคนหมู่มากเอาไว้ด้วย
สื่อสารให้ถูกกลุ่ม สื่อสารด้วยวิธีที่เหมาะสมกับผู้รับ
📌 Donald J. Trump จะพยายามสังเกตและหาให้เจอก่อนว่าผู้ฟังเป็นคนประเภทไหน เช่น ภูมิลำเนา พื้นเพการศึกษา ฯลฯ เพื่อทำการสื่อสารด้วยข้อความหรือวิธีการที่เหมาะสมกับผู้ฟัง
จงกล้าเสี่ยง น้อมรับทุกโอกาสที่จะได้เผยแพร่สื่อสารความเป็นแบรนด์ของทุกท่านให้โลกรู้ อย่ามัวแต่กลัวว่าจะทำให้แบรนด์เสียชื่อ อีกทั้งยังพร้อมที่จะปกป้องเมื่อมีอะไรหรือใครมาทำให้แบรนด์ของคุณเสื่อมเสีย แต่ควรเลือกใช้วิธีอย่างมีกลยุทธ์
👉🏻 นอกจากการสื่อสารผ่านคำพูดแล้ว การลงมือทำให้สอดคล้องกับจุดยืน เป็นแบบอย่างให้พนักงานเห็น การวางนโยบายสนับสนุนจุดยืนของแบรนด์ ก็เป็นอีกการสื่อสารที่ทรงพลัง
3️⃣ คุณค่าของแบรนด์
ถ้าแบรนด์นี้เจ๊ง โลกจะได้รับผลกระทบอย่างไร❓
ทำไมลูกค้าถึงเลือกแบรนด์นี้ ไม่เลือกแบรนด์คู่แข่ง❓
แบรนด์นี้ทำให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าดีขึ้นได้อย่างไร❓
จริงอยู่ว่าการมีจุดยืนที่ชัดเจน และมีการสื่อสารออกไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
แต่อย่าลืมว่าหากจุดยืนที่สื่อสารออกไป มันไม่มีค่า ไม่ทีความหมาย ไม่ได้ให้อะไรในสายตาของผู้รับ ก็เป็นการลงทุนประชาสัมพันธ์ที่เสียเงินเปล่า
📌 จุดยืนของธุรกิจที่อยู่รอดอย่างยั่งยืนได้นั้น ควรช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน หรือทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ทำให้ผู้คนเข้าถึงปัจจัย 4 ได้ในราคาถูก, ทำให้การเดินทางเร็วขึ้น, ทำให้มีเวลามากขึ้น, ทำให้ผู้คนมีรายได้, ทำให้ผู้คนมีความรู้, ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ฯลฯ
อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ? หวังว่าทุกท่านจะได้แง่คิดกลับไปไม่มากก็น้อย หากบทความนี้มีประโยชน์อย่าลืมส่งต่อ และสมทบทุนเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้สรุป(รายละเอียดในคอมเมนท์) 🙂
👉🏻 หากชื่นชอบความรู้ทางธุรกิจ การเงิน การลงทุน และ การพัฒนาตนเอง อย่าลืมกดติดตามเพจ https://www.blockdit.com/wealthyreaders
🙏🏻 ร่วมสมทบทุนสนับสนุนผู้สรุปได้ที่
🙂 สมทบทุนเป็นกำลังใจให้ผู้สรุป 🙏🏻
โฆษณา