รัสเซีย ทีมเจ้าบ้าน! จัดของดีเต็มพิกัดต้อนรับขับสู้ทีมเยือนจากชาติตะวันตก
ปี 1990 สหภาพโซเวียต ที่มีผู้นำโปรสหรัฐ จึงล่มสลายลงแตกเป็น 15 ประเทศ ในจำนวนนั้น เช่น รัสเซีย ยูเครน เบลารุส จอร์เจีย ฯลฯ
ปี 1991 สหรัฐ ติดใจจึงต้องการมีอำนาจเหนือทวีปยุโรป จึงกำหนดยุทธศาสตร์กลาโหม คุกคามรุกรานประเทศยูโกสลาเวีย ตอนกลางทวีป
โดยปล่อยข่าวกรองลวงแอลบาเนียชาติเพื่อนบ้านทางใต้ว่ายูโกสลาเวีย เป็นภัยคุกคามร้ายแรง ต้องล่มสลายแตกเป็นประเทศเล็กแบบโซเวียต แล้วแอลบาเนียจะมั่นคง
ให้แอลบาเนียลุยยูโกสลาเวีย ชาติยุโรปเพื่อนบ้านด้วยกันล่วงหน้าไปก่อนได้เลย สหรัฐจะรับประกันความมั่นคงจะมายืนเคียงข้างเสมอ ไม่ต้องกลัว จะขนอาวุธมาขายให้ไม่ขาดช่วง
จากนั้นสหรัฐ ก็ไปยุยงสนับสนุนอาวุธและเงินให้คนเชื้อสายต่างๆ ในยูโกสลาเวีย ก่อการร้ายทำร้ายพลเรือนและเจ้าหน้าที่ จนเกิดสงครามกลางเมืองภายในชาติ แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าวุ่นวายนาน 8 ปี
สหรัฐ ขายอาวุธจนกระเป๋าตุง แต่ยุโรปไม่มั่นคงอย่างหนัก เศรษฐกิจย่ำแย่ไปทั่วทวีป
ปี 1999 แอลเบเนีย รับคำสั่งสหรัฐให้ลุยรุกรานเข้าไปในดินแดนยูโกสลาเวีย ทั้ง 2 ชาติจึงทำสงครามต่อกัน มีผู้เสียชีวิตราว 45 ราย เป็นความขัดแย้งที่จำกัดวง
สหรัฐ รีบประกาศทันทีว่า NATO ได้รับแจ้งจาก NGOs ว่ามีเหตุนองเลือดและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากการกระทำของยูโกสลาเวีย ซึ่งตามคำนิยามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่มีหลักสิบ จะต้องหลายพัน ถึงหลายหมื่น แต่ยกเว้นไม่รวมสงครามรัฐต่อรัฐ
จึงขออนุญาตต่อคณะมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติ (UN) ขอเกณฑ์ชาติสมาชิกนำกำลังทหารไปรุมยูโกสลาเวียชาติเดียวให้อยู่หมัด
จีน และรัสเซีย ที่เป็นคณะมนตรีฯ เห็นว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งของ 2 ชาติควรเปิดเจรจากันโดยมี UN เป็นตัวกลาง ไม่ควรไปแทรกแซง เพราะผิดกฎบัตร UN ห้ามการใช้กำลังโจมตีด้วยอาวุธ เพราะ NATO มีภาระกิจรักษาสันติภาพ ไม่ใช่ก่อสงครามเสียเอง
สหรัฐ คิดว่าตนเองอำนาจเหนือ UN จึงบังคับชาติ NATO เปิดปฏิบัติการ Operation Allied Force ฝ่าฝืนมติ UN โดยอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 45 ราย ต้องก่อสงครามแทรกแซงรุมยูโกสลาเวีย เพื่อมนุษยธรรม จึงยกทัพไปทิ้งระเบิดใส่ยูโกสลาเวีย
การโจมตีทางอากาศของ NATO เน้นไปที่เมืองใหญ่นครเบลเกรด ที่มีความเจริญ มีประชากรหนาแน่น เป็นเมืองเก่าแก่ทางวัฒนธรรม สถานที่ราชการ สถานทูตนานาชาติ ทำลายสะพาน โรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาล โรงเรียน อนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมธุรกิจการค้า โรงแรมเอกชน
สหรัฐ และ NATO ทิ้งระเบิดถล่มสำนักงานบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในโคโซโวซึ่งเป็นภาระกิจ UN รักษาสันติภาพ ถล่มสถานทูตจีน เสียชีวิต 3 ราย ฐานขัดขวางคำสั่งสหรัฐใน UN
ขณะนั้นจีนเป็นเพียงประเทศยากจน ไม่มีแสนยานุภาพทางทหารใดๆ จึงได้แต่ประท้วงใน UN เท่านั้น
การทิ้งระเบิดทุกวันต่อเนื่องยาวนานเกือบ 4 เดือน พลเรือนชาวยูโกสลาเวีย ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เสียชีวิตกว่า 5,700 ราย บาดเจ็บหลายแสนราย เลือดนองทาแผ่นดิน สลดหดหู่ไปทั้งโลก
ยูโกสลาเวีย แตกออกเป็น 6 ประเทศ แยกเอกราชใหม่โดยไม่มีการทำประชามติฟังเสียงประชาชน คือ สโลวีเนีย , โครเอเชีย , บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา , มอนเตเนโกร , เซอร์เบีย และมาซิโดเนียเหนือ
สหรัฐ และ NATO รีบรับรองประเทศใหม่เหล่านั้นทันที โดยบางประเทศ UN ไม่รับรองดินแดน
จากประวัติศาสตร์ สหรัฐ และอังกฤษ ชาวแองโกล แซกซอน จึงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงร้ายแรงต่อชาวยุโรปมาเป็นเวลาแสนนานแล้ว
โดยมีรัสเซีย และจีน คอยช่วยเหลือห้ามปรามในเวทีสหประชาชาติ และ 2 ชาตินี้ก็ไม่เคยส่งทหารไปร่วมรุกรานยุโรปก่อน หรือร่วมกับสหรัฐ เลยสักครั้งเดียว
สิ่งที่ชาวยุโรปต้องกลัวภัยคุกคามคือจากสหรัฐ นี่เองไม่ใช่รัสเซีย เพราะทุกวันนี้สหรัฐ ก็บังคับยุโรปซื้ออาวุธจากตน 2% ของ GDP
สหรัฐ บังคับยุโรปซื้ออาวุธจากตน
ในส่วนความขัดแย้งของรัสเซีย - ยูเครน เป็นชาติชายแดนติดกัน จึงคล้ายกรณีแอลบาเนีย ที่สหรัฐ ยุยงสนับสนุนอาวุธและเงินยูเครน ให้ทำสงครามตัวแทน NATO กับรัสเซีย
หวังว่าจะบั่นทอนทำลายคู่แข่งให้ยุโรปอ่อนแอลงทางภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ หลอกใช้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียให้อ่อนแอลง
ก็จะยกพวกไปรุมทิ้งระเบิดมอสโก ศูนย์กลางอำนาจ ให้แตกเป็นประเทศเล็กๆ แบบยูโกสลาเวีย
นายเย็นส์ สต็อลเตินบาร์ก ชาวนอร์เวย์ เลขาธิการกลุ่มสงคราม NATO ระบุว่า ความพ่ายแพ้ของยูเครน ก็คือความพ่ายแพ้ของ NATO เราแพ้ไม่ได้ ต้องยึดครองดินแดนใหม่ของรัสเซียให้มากที่สุดก่อนถึงฤดูหนาว
นั่นเพราะ NATO ประเมินว่าทหารรับจ้างฝ่ายตนจะทนอากาศหนาวสุดขั้วที่ยูเครนไม่ไหวจะกลายเป็นแท่งไอติมกันหมด เพราะอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ คาดว่าช่วง ธ.ค.ปีนี้ถึง ม.ค.2023 อุณหภูมิที่ชายแดนใหม่รัสเซีย จะหนาวเย็นติดลบถึงเกือบ 20 องศา
สำหรับนักรบรัสเซีย จากไซบีเรีย เชชเนีย และย่านคอเคซัส สบายมาก สภาพร่างกายบรรพบุรุษพวกเขาอาศัยมาตลอดชีวิต ออกแบบร่างกายมาให้ทนหนาวได้ดี
เครื่องนุ่งห่มพวกเขาก็ออกแบบมาพิเศษตามภูมิปัญญาชนชาติ ที่กองทัพรัสเซียกำลังเร่งผลิตจากโรงงานจำนวนมากสนับสนุนมากมาย
แต่สำหรับ "ทีมเยือน" ทหารรับจ้าง NATO นี่คือนรกสำหรับร่างกายพวกเขา แม้จะเตรียมชุดกันหนาวมาแจกถึง 500,000 ชุดก็แค่เปลือกหุ้มแท่งไอติมดีๆ นี่เองไม่มีผลอะไร
อาวุธอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ NATO จะหยุดทำงานแม้แต่จรวดประทับบ่าส่วนบุคคล MANPAD สำหรับโจมตีอากาศยาน และรถถัง ก็จะกลายเป็นดุ้นฟืน เพราะไม่ได้ออกแบบมาสำหรับอุณหภูมิติดลบขนาดนี้แบตเตอรี่จะเดี้ยงหมด
อาวุธอังกฤษ ฝรั่งเศส ที่เพิ่งส่งมาใหม่ พวกจรวด NASAM , โดรน , ปืนใหญ่ , เครื่องยิงจรวด , และลูกจรวด 100 ลูก ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนเกมส์อะไรได้
ยิงจนหมดลูกก็ตั้งแท่นยิงเป็นอนุสาวรีย์ไว้ให้รัสเซีย ใช้โดรนกามิกาเซ่พุ่งชนทำลายทิ้ง และปืนใหญ่ SAESAR ฝรั่งเศสล็อตนี้จำนวน 6 กระบอก ก็เป็นล็อตกระบอกแตกมีตำหนิ
ที่ส่งไปขายประเทศยุโรปด้วยกันแล้วถูกตีคืนกลับ เพราะยิงไปสักพักกระบอกร้อนก็แตกแล้ว ก็เลยเอามาโล๊ะสต็อคขายเงินกู้แพงๆ ให้ยูเครน
รัสเซีย ทีมเจ้าถิ่นรู้สภาพปัญหาอาวุธของ NATO ดีว่าสหรัฐ เหลือขีปนาวุธพิสัยใกล้ไม่เกิน 500 กม.ในคลังแค่ราว 230 ลูก แต่รัสเซียมีสต็อคเกือบ 1,830 ลูก ยิงโจมตีอาคารทุกวันๆ ละ 10 ลูก ได้นาน 6 เดือนโดยไม่ต้องผลิตใหม่เลย
แต่ในความเป็นจริงคือ Safety Stock เท่านั้นเอง เพราะรัสเซียผลิตขีปนาวุธเพิ่มใหม่ 24 ชม.คนงานวันละ 3 กะ "ทดแทนมากกว่าจำนวนที่ยิงต่อวัน" เสมอ
ต่อให้ยิงไปอีก 50 ปีจำนวนสต็อคนี้ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่ลดลงจากนี้ ส่วนลูกปืนใหญ่นั้นก็เหมือนกันมีสต็อคกว่า 1 ล้านลูกผลิตเพิ่มทุกวัน
ที่ประโคมข่าวว่ารัสเซียอาวุธจะหมดแล้วโดยคำนวนจากจำนวน Safety Stock หารด้วยจำนวนยิงต่อวันนั้น เป็นความผิดพลาดของ NATO เอง
เนื่องจากไม่ได้คำนึงว่ารัสเซียมีโรงงานผลิตอาวุธตนเองมาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียตแล้ว สายการผลิตมีแต่จะขยายตัวเพิ่มตลอดเวลา และมีสต็อคอาวุธมากกว่าสหรัฐ และทุกชาติใน NATO รวมกันหลายเท่าอีกด้วย
ยิ่งถ้ารวมอาวุธที่อิหร่าน และจีนส่งของกำนัลมาให้ยิ่งล้นสต็อคไปกันใหญ่ ทำสงครามกับ NATO อีกหลายร้อยปีก็เหลืออาวุธอีกเพียบ ประเด็นอาวุธรัสเซียหมดนี่ตัดทิ้งไปได้เลย
กีฬาฤดูหนาวหฤโหดนี้ ทีมเจ้าบ้านรัสเซีย ยังเตรียมของกำนัลไว้ให้ทีมเยือน NATO บริษัททหารรับจ้าง Acadamy PMC ของสหรัฐ แบบเกลือจิ้มเกลือ
คือ บริษัททหารรับจ้าง Wagner Group PMC ก่อตั้งโดยอดีตนักโทษราชทัณฑ์รัสเซียในพื้นที่เบโลโกรอฟกา ในภูมิภาคลูฮันสก์ ดินแดนใหม่รัสเซีย
พวกเขาแทบทั้งหมดคือนักโทษเดนตายที่มีพฤติกรรมดิบเถื่อนผิดธรรมชาติทำร้ายผู้อื่น แต่รัสเซียให้โอกาสพวกเขาได้ทำสิ่งที่ชอบคือ "บริษัทกำจัดปลวกต่างชาติ"
พวกเขาจะทำอะไรก็ได้ ใช้วิธีการใดก็ได้ อาวุธสุดขั้วผิดหลักสากลอย่างไรก็ได้กับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งตรงจริตพวกเขามาก อยากได้อาวุธล้ำขนาดไหน รัสเซียจัดให้ไม่อั้น พร้อมค่าจ้างอย่างงาม
พวกเขาไม่อยู่ในสารบบกลาโหมรัสเซีย มีกำลังเท่าใดไม่ชัดเจนแต่หลักหมื่นแน่นอน เอกลักษณ์ของนักรบทมิฬลึกลับนี้คือ "แมวและเครื่องดนตรี" การต่อสู้ของพวกเขาจะปรากฎ 2 สิ่งนี้ไปด้วยเสมอ
ผลงานล่าสุดคือ บุกยึดเมืองบัคมุทดินแดนในโดเนสก์ นอกชายแดนใหม่รัสเซีย ดินแดนเส้นทางขนส่งอาวุธ และเนินสูงตั้งยิงปืนใหญ่ ระยะพิสัยหวังผล 40 กม.ลงไปยังเมืองพิกัดเป้าหมายเชิงรุก
ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน เพิ่งประกาศออกมาจากบังเกอร์หลบภัยยอมรับว่าคงไม่สามารถรักษาเมืองยุทธศาสตร์บัคมุทนี้ได้เสียแล้ว และเตรียมจะเสียดินแดนเมืองลิมานอีกเมือง..ประกาศชัยชนะทุกวัน เสียดินแดนทุกวันแน่นอน 🚀😭🤭😂
ที่มา : RT afrique , Rybar , PNA HOBOCTN , กลาโหมรัสเซีย , สื่ออิสระรัสเซีย
#WorldUpdate
ช่องทางติดตามบทวิเคราะห์ข่าวเชื่อมโยงกัน
😋 Telegram : https://t.me/worldupdatethai
- 36
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
