18 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #รอยอดีตขีดให้มาเจอกัน ]
เอริก เทนฮาก เพิ่งเปิดเผยไว้ว่า อาการป่วยของ คริสเตียน เอริกเซ่น ในเวลานี้ ยังไม่อาจยืนยันว่าจะหายทันเกมพรีเมียร์ลีกในวันพุธนี้หรือไม่
แมนฯยูไนเต็ดจะเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต้อนรับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อาคันตุกะจากลอนดอน ซึ่งเป็นกลุ่มบิ๊กซิกซ์ลุ้นท็อปโฟร์ด้วยกัน
แต่ความสำคัญของ เอริกเซ่น อยู่ตรงที่ เขาเป็นอดีตผู้เล่นของสเปอร์ส รวมทั้งเคยเป็นลูกทีม อันโตนิโอ คอนเต้ เมื่อครั้งร่วมหัวจมท้ายกับอินเตอร์ มิลานด้วยกัน จังหวะลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ดังนั้นหากเขาฟื้นตัวไม่ทัน ต้องบอกว่าคงเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะตัวเองกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีอีกด้วย
เอริกเซ่น ย้ายจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมมาร่วมทัพไก่เดือยทองตั้งแต่ปี 2013 อายุเพิ่งแค่ 21 ปีเท่านั้นเอง ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ พร้อมสร้างความพึงพอใจให้ อังเดร วิลลาช-โบอาส กุนซือในช่วงดังกล่าวอย่างมาก
โบอาส วางแผนไว้ว่าจะปั้นให้ เอริกเซ่น เป็นดาวเด่นในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์หรือเบอร์ 10 นี่คือผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน เข้ามาเติมเต็มให้สเปอร์สที่ขาดแข้งลักษณะนี้พอดี
ตอนแรกบรรดาแฟนๆคิดว่า น่าจะมาเพื่ออนาคต เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้สไตล์ฟุตบอลอังกฤษ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ รอพัฒนาและยกระดับให้คู่ควรสำหรับการเป็นตัวหลักของทีม
แต่ที่ไหนได้ เอริกเซ่น เป็นประเภทหิวแสง มาไม่เท่าไรก็ขโมยซีนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเกลี้ยงเลย โดยใช้ผลงานในสนามเป็นตัวชี้วัด ไม่เกี่ยวกับทรงผม รอยสักหรือท่าเต้นพิสดารอะไรทั้งสิ้น
1
10 ประตู 13 แอสซิสต์ในทุกรายการ ส่งผลให้ยิด อาร์มี่เทโหวตครองรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร ควบตำแหน่งยอดนักเตะแห่งปีของเดนมาร์กอีกต่างหาก
ใครจะคิดบ้างแค่ฤดูกาลแรกเท่านั้นเอง เด็กหนุ่มวัย 21 ปีจะผุดผาดเปล่งปลั่งขนาดนี้เลย ยิ่งเสริมด้วยบุคลิกที่เงียบขรึม ทำให้ เอริกเซ่น ดูน่าค้นหามากขึ้น เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
พอซีซั่น 2014/15 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โยกจากเซาธ์แฮมป์ตันมากุมบังเหียน นั่นยิ่งเป็นผลดีกับ เอริกเซ่น ซึ่งโดนจับเคี่ยวให้สภาพร่างกายแข็งแกร่งทนทานมากขึ้น สามารถยืนระยะในลีกที่โหดหินได้ไม่ยาก
เขายังคงเป็นฟันเฟืองที่มีค่า ยิงประตูสำคัญได้อย่างต่อเนื่องและยังคงได้รางวัลนักเตะแห่งปีของเดนมาร์กมาครองอีกสมัย
แกรี่ เนวิลล์ ในบทบาทกูรูพันดิต คอนเมนต์ไว้เลยว่า เอริกเซ่น จะขึ้นเป็นดาวดังในไม่ช้าและจะพาสเปอร์สคว้าโทรฟี่ได้สำเร็จสักใบ แม้ในฤดูกาลนั้นจะแพ้เชลซีในนัดชิงลีกคัพก็ตาม
1
อย่างไรก็ตามแม้ เอริกเซ่น จะไม่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์หรือมีเหรียญรางวัลคล้องคอระหว่างรับใช้สเปอร์ส แต่เป็นหนึ่งในนักเตะที่ช่วยผลักดันทีมจนผงาดสู่การเป็นสโมสรแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว
1
ผลงานของเขาจับต้องได้ ไม่ต้องมาอวดอ้างประกาศศักดาอะไร ยิ่งเขาเงียบเท่าไร มันก็จะเหมือนช่วยส่งเสียงให้ดังขึ้นเป็นเงาตามตัว จึงกลายเป็นหนึ่งในแข้งขวัญใจที่แฟนบอลยกย่องเทิดทูน
1
ฤดูกาล 2018/19 ชื่อของ เอริกเซ่น ถูกบันทึกไว้ ในฐานะเป็นแข้งคนที่สองถัดจาก เดวิด เบ็คแฮม ที่ทำทะลุ 10 แอสซิสต์ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน อย่างนี้ไม่เรียกว่าของจริง ก็คงไม่รู้จะบอกว่ายังไงแล้ว
แต่ด้วยความที่โลว์โปรไฟล์ ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไรนักที่หลายคน โดยเฉพาะที่ไม่ได้เป็นกองเชียร์สเปอร์สจะมองข้าม หากได้ลงลึกรายละเอียดเหล่านี้ รับรองว่าต้องทึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ เพื่อแทนที่ โปเช็ตติโน่ ในช่วงปลายปี 2019 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหันเหชีวิตการค้าแข้งของ เอริกเซ่น แท้จริง
มูรินโญ่ ไม่ค่อยชอบสไตล์การเล่นของ เอริกเซ่น เท่าไรนัก จับนั่งเป็นสำรองส่วนใหญ่และพยายามจะปลุก เดเล่ อัลลี่ ให้กลับมาเปรี้ยงอีกครั้ง ซึ่งช่วงแรกทำได้ดีเลยทีเดียว
เพราะไม่อยากทนนั่งสำรอง ประกอบกับความปรารถนาค้นหาความท้าทายใหม่ มกราคม 2020 ช่วงที่เหลือสัญญาแค่ 6 เดือน เขาจึงเจรจาเพื่อขอย้าย ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรต้องการรั้งไว้ด้วยสัญญาฉบับใหม่
แต่ มูรินโญ่ ยืนยันว่านักเตะไม่อยากขยายเอง หากจะเก็บไว้ก็รอจะเสียฟรีไม่ได้ค่าตัวเลย ถ้ามีข้อเสนอก็ควรขายไปเถอะ
แล้วทางอินเตอร์ มิลานก็ยื่นข้อเสนอที่น่าพอใจมาให้ สเปอร์สได้ค่าตัวไม่น้อยกว่า 20 ล้านยูโร สำหรับนักเตะที่เหลือสัญญาแค่ 6 เดือน นับว่าคุ้มค่าอยู่
เอริกเซ่น เองก็รับจากงูใหญ่อย่างสมเหตุสมผล 10 ล้านยูโรต่อปี นี่เป็นตัวเลขที่เยอะมากสำหรับเวทีกัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งจ่ายค่าจ้างไม่สูงเท่าพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม อันโตนิโอ คอนเต้ ยังไม่ไว้วางใจเท่าไรนัก ให้ลงตัวจริงสลับกับสำรอง จนกระทบต่อผลงานของ เอริกเซ่น ที่ดีมาต่อเนื่องเลยเช่นกัน
กว่าที่จะเอาชนะใจเจ้านายได้ เอริกเซ่น ก็ใช้เวลาพอสมควร ก่อนจะมีส่วนร่วมกับแชมป์เซเรีย อาในซีซั่น 2020/21
ช่วงแรกที่ร่วมงานด้วยกัน คอนเต้ เองก็ใช่ว่าโปรดปราน เอริกเซ่น สักเท่าไร จับนั่งสำรองก็บ่อยหนอยู่ บางเกมมีเวลาในสนามไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
กระนั้นแนวทางของ คอนเต้ ก็ช่วยปรับให้ เอริกเซ่น มีบทบาทเกมรับมากกว่าเดิม แม้หลายคนมองว่าจะเสียของประเภทเอาไม้สักไปทำฟืนหรือเปล่า เพราะนี่คือผู้เล่นมันสมองของเกมรุก จะใส่ชื่อลงไปอุดประตูทำไม
แต่นั่นคือวิธีการเล่นที่ คอนเต้ เชื่อมั่น ไม่ว่าอย่างไรนักเตะในทีมต้องพยายามทำตามคำสั่ง มีทางเลือกเดียวเท่านั้น หากต้องการจะไปต่อ
1
ล่าสุด คอนเต้ เปิดใจไว้ว่า เอริกเซ่น คือแบบอย่างผู้เล่นที่ชื่นชอบ อยากร่วมงานด้วย เป็นคนที่โค้ชทุกรายอยากมีอยู่ในทีมทั้งสิ้น แต่เลี่ยงไม่ตอบคำถามว่า ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เคยคิดดึงกลับมาร่วมทีมกันอีกครั้งหรือเปล่า เพราะมีข่าวสเปอร์สเองก็สนใจ
เมื่อพิจารณาจากปูมหลัง เรื่องราวเมื่อครั้งวันวาน เกมพรีเมียร์ลีกวันพุธนี้ แมนฯยูไนเต็ดควรมี เอริกเซ่น ไว้ในทีม จะให้ดีที่สุดคือต้องออกสตาร์ตเลย เพราะน่าสนใจทั้งอดีตและปัจจุบัน
และนี่คือช่วงเวลาที่ เอริกเซ่น กลับมาพีกอีกครั้ง หลังแผ่วลงไปตอนเป็นลูกทีมของ มูรินโญ่ และ คอนเต้ ก่อนจะตื่นจากฝันร้าย เอาชนะมัจจุราชได้ ยื้อลมหายใจกลับคืนมาสำเร็จในศึกยูโรเมื่อกลางปีก่อน
เอริกเซ่น ดวล คอนเต้ สมควรจะเป็นไฮไลต์ในคืนวันพุธนี้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเลย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา